ไอคอนสยาม ทุ่ม 200 ล้านบาทจัด "เคาต์ดาวน์" รับไฮซีซั่น

15 พ.ย. 2565 | 10:39 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2565 | 18:20 น.

ไอคอนสยาม กระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี อัด20 อีเว้นท์ใหญ่ตลอดเดือนธันวาคม พร้อมเทงบ 200 ล้านบาท จัดงานเคาต์ดาวน์ระดับโลก Amazing Thailand Countdown 2023 ปลุกมูดจับจ่ายริมแม่น้ำฟื้นตัวคึกคักรับไฮซีซั่น

ไอคอนสยาม  ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เอกชน และชุมชนจัด 20 อีเว้นท์ใหญ่ตลอดเดือนธันวาคมกระตุ้นการท่องเที่ยวไฮซีซั่น  ทุ่มงบ 200 ล้านบาท กระตุ้นธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในธีม “ICONSIAM Magical Enchanted Celebration” จัดงาน Amazing Thailand Countdown 2023 ปักหมุดให้ไทยเป็นแลนมาร์ก “Global Countdown Destination”

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปคปี 2565 และเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดการณ์ว่าประเทศไทยสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศได้มากกว่า 2 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าเงินสะพัดหมุนเวียนกว่า 20,000 ล้านบาท

 

 

เพื่อตอบรับแนวทางภาครัฐในการพลิกฟื้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ไอคอนสยาม ภายใต้กลยุทธ์การร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน (Collaborate to Win) เตรียมจัดแคมเปญยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีในธีม “ICONSIAM Magical Enchanted Celebration” เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุขให้คนไทยและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท จัดเตรียมอีเว้นท์ใหญ่และแคมเปญการตลาด 20 กิจกรรมตลอดทั้งเดือนธันวาคมนี้

ไอคอนสยาม ทุ่ม 200 ล้านบาทจัด "เคาต์ดาวน์" รับไฮซีซั่น
“โดยเฉพาะมหาปรากฎการณ์งานเคาต์ดาวน์ระดับโลก ไอคอนสยามได้ผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรภาคเอกชน กลุ่มโรงแรม ผู้ประกอบการ และชุมชน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเตรียมจัดงานฉลองเพื่อต้อนรับศักราชใหม่อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา “Amazing Thailand Countdown 2023” เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางเยือนประเทศไทยในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี

ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกของการฟื้นตัวจากภาวะวิกฤติโควิด-19 เราและพันธมิตรทุกหน่วยงานตั้งใจมากที่จะจัดงานเคาต์ดาวน์ครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา พร้อมดึงไฮไลท์ที่สุดของงาน ครั้งแรก!!! กับ Hybrid World Countdown สุดตระการตา ผสมผสานแสง สี เสียง และ Immersive Technology เชื่อมต่อโลกเสมือนเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยการแสดงพลุรักษ์โลกสุดยิ่งใหญ่บนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครให้เป็นหนึ่งใน “Global Countdown Destination” ที่ผู้คนจากทั่วโลกต้องมาเยือนและร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปกับคนไทยทุกๆ ปี”

ไอคอนสยาม ทุ่ม 200 ล้านบาทจัด "เคาต์ดาวน์" รับไฮซีซั่น
สำหรับงานฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “Amazing Thailand Countdown 2023” แลนด์มาร์กเคาต์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่ของประเทศไทย จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ท่ามกลางทัศนียภาพริมแม่น้ำที่งดงามที่สุด ที่ผ่านมาได้ถูกถ่ายทอดสู่สายตาชาวโลกผ่านโซเชียลมีเดียและสำนักข่าวระดับโลก อาทิ CNN, BBC, AP, Reuter, ABC ฯลฯ ทั่วโลกต่างชื่นชมความงดงามของค่ำคืนแห่งการก้าวสู่ปีใหม่หม่บนโค้งน้ำเจ้าพระยา สายน้ำแห่งหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คระดับประเทศที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกให้กับประเทศไทย

 

ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ไอคอนสยามยังได้จัดเต็มมหกรรมความสุขและความบันเทิงเอาใจนักท่อง เที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาเยี่ยมชม และเก็บภาพความประทับใจมากมาย อาทิ การประดับตกแต่งไฟต้นคริสต์มาส ในงาน “ICONSIAM Bangkok Illumination 2022” ตั้งแต่วันนี้ – 5 ม.ค. 2566 ต้นคริสต์มาสรักษ์โลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานสะอาดจาก Solar Cell นวัตกรรมใหม่ที่สอดรับกับนโยบายขององค์กร การประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลก พร้อมส่งมอบของขวัญปีใหม่ ในงาน “ICONSIAM World of Gifts” มหกรรมอาณาจักรของขวัญจากทั่วทุกภาคในไทยและทั่วโลกกว่า 1,000,000 ชิ้น ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. – 9 ม.ค. 2566 รวมที่สุดของงานกิ๊ฟท์ที่ให้ทุกคนมาเลือกสรรของขวัญให้แก่คนพิเศษในปีใหม่นี้ และยังจัดเต็มโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุข รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 8.5 ล้านบาท

ไอคอนสยาม ทุ่ม 200 ล้านบาทจัด "เคาต์ดาวน์" รับไฮซีซั่น

"เราเชื่อมั่นว่าจากแผนการตลาดที่วางไว้ในสองเดือนสุดท้ายนี้ จะช่วยให้ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาฟื้นตัวคึกคักรับช่วงซีซั่นได้เป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดให้ลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาใช้บริการหมุนเวียนในย่านนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสูงขึ้นถึงวันละ 100,000 – 130,000 คน ภายในสิ้นปี 2565 นี้ "