ถอดความคิด "เฮียฮ้อ" พา RS ฝ่าคลื่นดิสรัปชั่นได้อย่างไร
"เฮียฮ้อ" เปิดเบื้องหลังนำพา "อาร์เอส" ก้าวข้ามดิสรัปชั่น ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce บทพิสูจน์การผนวกธุรกิจสื่อและบันเทิงเข้ากับการทำธุรกิจพาณิชย์ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ในอดีต "อาร์เอส" เป็นผู้นำในธุรกิจเพลงเมืองไทย กระทั่งการเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้ธุรกิจเพลงโดนผลกระทบเต็มๆ "เฮียฮ้อ" บิ๊กบอสแห่ง อาร์เอส จึงต้องขีดเส้นทางเดินใหม่ด้วยการทำ Business Transformation ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการผนึกความแข็งแกร่งของธุรกิจสื่อและบันเทิงเข้ากับการทำธุรกิจพาณิชย์ สามารถนำพาบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจน อาร์เอส กลายเป็นเป็นบริษัทชั้นนำของไทยที่ประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามความท้าทายของเทคโนโลยีดิสรัปชั่น
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)เปิดเผยผ่านงานสัมมนา “Business Transformation Outlook for SMEs Growth” ถอดแนวคิดก้าวข้ามดิสรัปชั่น ว่า“40 ปีที่ผ่านมา อาร์เอส อยู่กับการเปลี่ยนแปลงมาตลอด ตั้งแต่คำว่าดิสรัปชั่น ยังไม่เป็นที่สนใจ แต่หากมองย้อนไปจะพบว่า อาร์เอส ก้าวผ่านการดิสรัปชั่นมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงจากธุรกิจครอบครัวมาสู่องค์กรมหาชน เพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพในการบริหารงาน ต่อมาคือช่วงที่ธุรกิจเพลงเข้าสู่ยุคสตรีมมิ่ง โดยเป็นค่ายเพลงแรกที่เห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงทั่วโลกกำลังมีปัญหา ยุค Physical กำลังตาย และ Digital กำลังจะมา ทั้ง MP3, iPod และสตรีมมิ่ง
อาร์เอส จึงปรับตัวด้วยการตัดสินใจขายโรงงานซีดีทิ้ง จนเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งเราก็เป็นเจ้าแรกที่ได้พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการฟังเพลงนอกเหนือจากการฟังบนหน้าปัดวิทยุ เพื่อเพิ่มช่องทางการฟังเพลงของ COOLfahrenheit รวมถึงแปลงเวลาโฆษณาบนทีวิดิจิทัลของช่อง 8 ให้เป็นหน้าจอขายสินค้า จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนผู้ชมและผู้ฟังให้เป็นลูกค้า
พร้อมกับการขยายธุรกิจเข้าสู่คอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว ทั้งจัดตั้งบริษัทผลิตสินค้าของตัวเองและสร้างแพลตฟอร์ม RS Mall จำหน่ายสินค้าความงามและสุขภาพ นับเป็นการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญที่สุด และเป็นการสร้าง New S-curve ให้ อาร์เอส กรุ๊ป เติบโตในมิติใหม่ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce
“ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา เป็นยุคของ ‘ปลาฉลาด กินปลาโง่’ ซึ่งฉลาดในที่นี้คือ ขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญแต่ต้องทำธุรกิจแบบฉลาด ซึ่งปัจจุบัน ผมมองว่าโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว ปลาฉลาดไม่กินปลาโง่อีกต่อไป แต่จะอยู่ในระบบนิเวศเดียวกัน เพื่อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งทุกวันนี้ในการทำธุรกิจของอาร์เอส เรามักมองหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความน่าสนใจเพื่อร่วมเติบโตไปด้วยกัน
ที่สำคัญ เวลาเกิดวิกฤติให้มองว่าเป็นโอกาส พร้อมกับปรับตัวให้เร็ว เข้าไปลุยให้เร็ว ถ้าพลาดก็แก้ให้เร็ว หากไม่ไหวก็เลิกให้เร็ว ซึ่งนอกจากการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจแล้ว นักธุรกิจต้องปรับ Mindset ของคนทำงานด้วย ผ่านการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางธุรกิจของตนเองและของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าในการพาองค์กรเดินไปข้างหน้าร่วมกับผู้บริหารนั่นเอง”