ฟันโทษคุก 2 เดือน 6 ผู้ค้า"กัญชา"ผิดกฎหมายย่านทองหล่อ

18 ธ.ค. 2565 | 09:03 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ธ.ค. 2565 | 16:18 น.

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แจ้งความคืบหน้าคดีผู้กระทำผิด 6 รายกระทำผิดเงื่อนไขสมุนไพรควบคุม (กัญชา) 2565 ย่านทองหล่อ จำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 5,000 บาท

นพ. ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แจ้งความคืบหน้ากรณีคดีผู้กระทำผิด 6 ราย จากย่านทองหล่อ ว่า สืบเนื่องจากประเด็นการปฎิบัติการ เมื่อค่ำวันที่ 13 ธันวาคม 2565 กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ตำรวจ สน.ทองหล่อ ลงพื้นที่ย่านทองหล่อ ตรวจใบอนุญาตประกอบกิจการ/ร้านค้าต่างๆว่าจำหน่ายกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อกำกับติดตามให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ล่าสุด เรื่อง “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565” พบผู้กระทำผิดจำนวนทั้งสิ้น 6 ราย จำแนกเป็นรถเร่ (food truck) 5 ราย กระทำการจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) (พันลำ /จำหน่ายช่อดอก) โดยไม่ได้รับอนุญาต

นพ. ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์


ในจำนวนดังกล่าว พบว่ามี 3 ราย ได้แสดงใบอนุญาตเข้าข่ายเป็นเท็จเนื่องจาก รถเร่หรือแผงลอย ที่ไม่มีที่อยู่แน่นอนไม่สามารถให้การอนุญาตได้ อีก 1 ราย มีสถานประกอบการชัดเจน แต่จำหน่ายหรือแปรรูปช่อดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจ ยึด อายัดของกลาง สั่งปิด พร้อมส่งเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการ ณ สน.ทองหล่อ

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลได้ตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมาย 6 ราย ผลการลงโทษผู้ต้องหา ที่กระทำความผิดเป็นไปตามมาตรา 46 กรณีจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม โดยมิได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษเป็นไปตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ระบุโทษ จำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีนี้ ศาลจึงมีคำสั่งโทษให้จำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 2 ปี โดยต้องมีการติดตามพฤติกรรม หรือให้ไปรายงานตัวต่อศาลเป็นระยะตามศาลนัด และปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ทั้งนี้ศาลริบของกลางของผู้กระทำความผิดไว้ทั้งหมด”

ฟันโทษคุก 2 เดือน 6 ผู้ค้า"กัญชา"ผิดกฎหมายย่านทองหล่อ

อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย ยังกล่าวอีกว่า “การดำเนินการครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงตัวบทกฏหมายบังคับใช้ได้จริงสำหรับ ผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำผิด ต้องโทษตามกฎหมาย จึงขอย้ำไปยังผู้ประกอบการทุกคน ดำเนินการให้ถูกต้องตามประกาศ ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันควบคุมกัญชาในสังคมให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป”