"เมดิคอล อินเทลลิเจนซ์" บุกตลาด “Healthcare Logistics” ลุยพัฒนาระบบควบคุมการขนส่งและติดตามยาแบบเรียลไทม์ผ่านไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ตั้งเป้ากวาดลูกค้าโรงพยาบาล สถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนเข้าแพลตฟอร์มเพิ่มอย่างน้อย 4 แห่งในปีหน้าปูทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2568
ดร.ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดิคอล อินเทลลิเจนซ์ จํากัด เปิดเผยว่าในอดีตผู้บริโภคหรือผู้ป่วยที่ต้องการรับยาจำเป็นจะต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลหรือร้านขายยาซึ่งมีแค่ยาบางประเภทที่สามารถซื้อได้เอง แต่ปัจจุบันโลกแคบลงและมีวิวัฒนาการทางการแพทย์มากขึ้นรวมทั้งเทเลเมดิซีนทำให้ผู้ป่วยสามารถพบหมอได้ผ่านมือถือ แท็บเล็ต โดยไม่ต้องออกจากบ้านหรือที่ทำงาน ทำให้ประหยัดเวลาและยาถูกจัดส่งถึงมือได้โดยเร็ว คนไม่จำเป็นต้องรอให้อาการหนักแต่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที และโดยทางอ้อมช่วยในเรื่องของการป้องกันระยะยาวไม่ใช่รอให้เจ็บป่วยหนักแล้วค่อยพบแพทย์
อย่างไรก็ตามแต่ละโรงพยาบาลมีระบบหลักเทเลเมดิซีนเป็นของตัวเองทุกโรงพยาบาลและการจัดส่งยาผ่านระบบโลจิสติกส์อยู่แล้ว แต่ “เมดิคอล อินเทลลิเจนซ์”ต้องการให้ระบบของแต่ละโรงพยาบาลสามารถเชื่อมโยงผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามการส่งยาได้เรียลไทม์ โดยบริษัทจะเป็นผู้พัฒนาระบบให้กับสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลและทำการเชื่อมโยงกับไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีความเชี่ยวชาญและพัฒนาระบบหลักของโรงพยาบาลต่างๆอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์มประมาณ 5-6 รายและปี2566 ตั้งเป้าขยายความร่วมมือกับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอย่างน้อย4 แห่ง นอกจากนี้ยังจะมีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2568 อีกด้วย
“ในยุคของโควิด “Healthcare Logistics” เข้ามามีบทบาทอย่างมาก เดิม“เมดิคอล อินเทลลิเจนซ์”เป็นบริษัทที่ทำเทคโนโลยีทางด้านHealthcare ไม่ว่าจะเป็นระบบหลักให้กับโรงพยาบาลต่างๆ หรือระบบที่เกี่ยวข้องอย่างเทเลเมดิซีนหรือทางแพทย์ทางไกล รวมไปถึงระบบติดตามขนส่งยา เรามีโซลูชั่นที่รองรับโรงพยาบาลหลายแห่ง ส่วนไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น มีความเชี่ยวชาญในการส่งยาเย็นหรือวัคซีนให้กับเครือโรงพยาบาลต่างๆไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาลหรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง การร่วมมือกันครั้งนี้เราจะรับหน้าที่พัฒนา API เชื่อมต่อกับระบบให้บริการของ THPD และโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเพื่อรองรับระบบการแพทย์ทางไกลและการจัดส่งยาผ่านระบบโลจิสติกส์ทั้งแบบควบคุมอุณหภูมิและยาแห้งที่ไม่ต้องควบคุมอุณหภูมิ”
ด้านนาย พีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จํากัด (ปณด) กล่าวว่า บริษัทมีความแข็งแกร่งในทุกๆด้านโดยเฉพาะ health care Solution ที่ประสบความสำเร็จด้วยดีจากการวางรากฐานที่ผ่านมา โดยให้บริการทั้งภาครัฐและหน่วยงานสังคมรวมถึงเอกชนซึ่งมีการเติบโตในทุกๆปี การจับมือกันครั้งนี้เป็นการนำความเก่งของทั้ง 2 หน่วยงานมาผสมกัน ซึ่งทางฝั่งไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่นมีความเชียวชาญเรื่องคลังสินค้าที่ได้รับมาตรฐานและเรื่องของการจัดส่งที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งมีระบบต่างๆในส่วนของการควบคุมอุณหภูมิไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ การกระจาย รวมทั้งการควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐานสากลปัจจุบันเราเริ่มมีการให้การบริการบางส่วนในส่วนของเทเลเฮลท์แล้ว
สำหรับการให้บริการและควบคุมบริการระบบ การขนส่งและติดตามยาแบบสําเร็จรูป (Healthcare Solutions ) ในระยะแรกรองรับโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลธนบุรี และในอนาคตขยายไปยังและสถานพยาบาลต่าง ๆ โดยไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จะรับหน้าที่ให้บริการจัดส่งและติดตามสถานะของยาและเวชภัณฑ์ทั้ง แบบควมคุมอุณหภูมิและไม่ควบคุมอุณหภูมิ รวมถึงระบบการขนส่งที่ได้รับมาตรฐานคุณภาพ Quality Mark (Q-Mark)