ตลาดนมพรีเมียมระอุ “พรีเมียมมิรุคุ” ส่งนม "วิตามิน ดี" เปิดเซกเมนต์ใหม่

"พรีเมียมมิรุคุ" รับจังหวะโอกาสทอง คนไทยดื่มนมน้อย-ชาวกรุงเทพ 71% ขาด Vitamin D ทุ่ม 10 ล้านบาท ปูพรมการตลาดแจ้งเกิด "D-Chan Vitamin D Milk" หวังเจาะตลาดลูกค้าแม่และเด็ก คนทำงาน และผู้สูงอายุ กลุ่มพรีเมียม

นายณัฐวริทธิ์ เตชัสอนันต์ ผู้บริหาร บริษัท พรีเมียมมิรุคุ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดนมพร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยตลาดนมพาสเจอร์ไรส์มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันคนไทยดื่มนมน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ แม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์แล้วก็ตาม

นอกจากนี้ ประชากรไทยในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครกว่า 71% อยู่ในภาวะขาด Vitamin D เพราะประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้นใกล้เส้นศูนย์สูตร คนไทยจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ Vitamin D เพราะคิดว่าต้องเจอแดด แต่ไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ใช้ชีวิตอยูในออฟฟิศ หรือห้องแอร์มากกว่าเจอแดดกลางแจ้ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่กลัวแดด ทาครีมกันแดดและใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลาทำให้ไม่ได้รับ Vitamin D ที่เพียงพอ

"พรีเมียมมิรุคุ" จึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจาก 2 Pain Point นี้ส่งนมคุณภาพ “D-Chan Vitamin D Milk” เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ตามรอยประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง ประเทศแคนาดา และประเทศสวีเดน มีการออกกฎหมายบังคับให้เพิ่ม Vitamin D ในผลิตภัณฑ์นม รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาถึงแม้ไม่ได้บังคับเป็นกฎหมาย แต่ผู้ผลิตนมแทบทุกบริษัทมีการเพิ่ม Vitamin D ในนมเช่นกัน

ทั้งนี้ D-Chan เชื่อว่า นมพาสเจอร์ไรส์สามารถคงคุณค่าทางสารอาหารไว้ได้มากที่สุด จะเห็นได้จากประเทศญี่ปุ่นจะมีจำหน่ายเพียงนมพาสเจอร์ไรส์เท่านั้นเพราะต้องการให้ประชากรได้รับนมที่มีคุณภาพดี โดยD-Chan มีพาร์ทเนอร์เป็นฟาร์มวัวนมในโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซัพพลายน้ำนมดิบระดับพรีเมียมไม่มีการปนเปื้อนจากฟาร์มอื่นและควบคุมคุณภาพตั้งแต่รีดนมจากเต้านมวัว ลงสู่ท่อ Pipe Line ที่ควบคุมอุณหภูมิที่ 2 องศา และเก็บเข้า Storage Tank แล้วส่งน้ำนมดิบเข้าโรงงานโดยรถควบคุมอุณหภูมิจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สู่มือผู้บริโภค 

ปัจจุบันมีกลุ่มคนไทยดื่มนมแล้วท้องเสียหรือปวดท้อง ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าแพ้แลคโตส แต่ในความเป็นจริงแล้วน่าจะมาจากจุลินทรีย์ในนมที่ไม่สะอาด  น้ำนมดิบจากฟาร์มของพาร์ทเนอร์D-Chan มีความบริสุทธิ์มาก มีเชื้อจุลินทรีย์น้อยมากทำให้นม D-Chan Vitamin D Milk เก็บได้นานถึง 21 วัน 

"สำหรับการทำตลาดและโฆษณา ได้วางงบประมาณเอาไว้ 10 ล้านบาท เราเน้นการสื่อสารที่ครบวงจรครอบคลุมทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในทุกเพศทุกวัย โดยเน้นไปกลุ่มแม่และเด็ก คนทำงาน และผู้สูงอายุ ที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล"