หนึ่งในกลยุทธ์ของ THG คือ การมองหาโอกาสลงทุนสร้างการเติบโตในตลาด “เวียดนาม” ซึ่งยังเปิดกว้างจากกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงที่มองหาบริการด้านสุขภาพจากแพทย์ไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เข้าเป็นผู้ให้คำปรึกษากับ FV Hospital ในนครโฮจิมินห์ ทั้งด้านก่อสร้าง ออกแบบตกแต่ง จัดวางโครงสร้างระบบบริหารจัดการ จัดหาทรัพยากร รวมถึงเตรียมบริหารศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (IVF - In-vitro Fertilization) เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด THG ได้ลงนามความร่วมมือกับ IFF Holdings ผู้ประกอบการด้านการเงินการลงทุนและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเวียดนาม และ บริษัท มิตรไมตรีการแพทย์ จำกัด เพื่อลงทุนในโครงการ BeWell Wellness Clinic ศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงลึกเฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยีการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ พร้อมการดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ณ Somerset Vista Building ในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ทั้งนี้นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า โครงการBeWell Wellness Clinic ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 170 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้น 3 ราย ได้แก่ IFF Holdings ถือหุ้น 60% THG ถือหุ้น 30% ขณะที่ มิตรไมตรีการแพทย์ ถือหุ้น 10% คาดผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ประมาณ 20% ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) ภายใน 4 ปีครึ่ง
ลูกค้าเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงในเวียดนาม พร้อมเปิดให้บริการเดือนธันวาคม 2566 นอกจากนี้ยังตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มในอีก 2 เมืองท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ดานัง และ โฮทรัม คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568
ด้านMs.Nguyen Thi Mai ซึ่งเป็น Chairwoman ของ IFF Holdings กล่าวว่า การลงทุนในโครงการ BeWell Wellness Clinic ครั้งนี้สอดรับกับเทรนด์ด้านเวลเนสที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมอย่างสูงในเวียดนามและภูมิภาคอาเซียน หลังจากผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
"เชื่อมั่นประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ระดับสากลของ THG รวมถึงความชำนาญของมิตรไมตรีฯ ด้านคลินิกเวชกรรม จึงมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวฯ จะช่วยให้ IFF Holdings สามารถยกระดับบริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพและนำองค์ความรู้ด้านเวลเนสเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเวียดนามให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้นอันเป็นเป้าหมายสำคัญที่บริษัทฯ วางไว้"
นายวรศักดิ์ มานิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตรไมตรีการแพทย์ จำกัด กล่าวว่า เวียดนามเป็นตลาดสำคัญที่มิตรไมตรีฯ มองเห็นโอกาสขยายธุรกิจเวลเนส เพราะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งด้วยประสบการณ์ในธุรกิจคลินิกเวชกรรมของมิตรไมตรีฯ ที่มีมากว่า 27 ปีในประเทศไทย เมื่อผนวกรวมศักยภาพที่แข็งแกร่งของ THG และ IFF Holdings ก็เชื่อมั่นว่าโครงการ BeWell Wellness Clinic จะตอบโจทย์ความต้องการส่วนนี้ได้อย่างตรงจุด และจะกลายเป็นศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงลึกเฉพาะบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากชาวเวียดนามและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศเวียดนามในอนาคตต่อไป