ส้มตำนัว (SOMTAMNUA) เป็นหนึ่งแบรนด์อาหารอีสานที่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตากันดี โดยมีเมนูชูโรงเป็น “ตำมั่ว” ซิกเนเจอร์เมนูที่สร้างชื่อให้กับร้านเป็นอย่างมาก แม้จะได้รับความนิยมอย่างมากแต่ในปัจุบันที่โลกและผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นตัวเร่งให้ ตำมั่ว เข้าใกล้ความเป็นแบรนด์ที่อาจกำลัง “ตกยุค”
เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ ตำมั่ว ภายใต้การกุมบังเหียนของ “อภิรัตน์ อังกุรนาค” จึงตัดสินใจ รีเฟรชแบรนด์ใหม่ในรอบ 23 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ ใหม่ที่มีชื่อว่า “Enjoy Nua Meal” เพื่อปรับแบรนด์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงปรับโลโก้แบรนด์ใหม่ และการตกแต่งร้าน ด้วยการนำคู่สีใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็มให้ภาพรวมของแบรนด์ดู POP สดใส สนุก มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อภิรัตน์ อังกุรนาค ผู้อำนวยการอาวุโสแบรนด์ส้มตำนัว (SOMTAMNUA) เปิดเผยถึงที่มาของการปรับลุคแบรนด์ใหม่ในครั้งนี้ด้วย 3 โจทย์หลักว่า “โจทย์แรกคือ ความต้องการที่หลากหลายในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการอะไรใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงเสมอ และอาหารอีสานยังคงเป็น 1 ในอาหารที่เป็น Top of mind ของผู้บริโภค เราต้องการคงรูปแบบการรับประทานอาหารอีสานที่เป็นการทานด้วยกันหลาย ๆ คน ซึ่งจะทำให้มื้ออาหารนั้น ๆ มีความสนุกสนานมากขึ้น ด้วยการสอดแทรกความเป็นแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เข้ามาด้วย
โจทย์ที่สอง คือชื่อร้าน ด้วยการนำเอาคำว่า “นัว” ซึ่งเป็นภาษาอีสาน ที่มีความหมายว่า อร่อย กลมกล่อม และเป็นอัตลักษณ์หรือ Brand Identity ของเรา มาผสมความครีเอทีฟ ใส่เป็นลูกเล่นสนุก ๆ มาใส่ในหลาย ๆ จุด ภายในร้าน จนเกิดเป็นแท็กไลน์ (Tagline) ‘I’m Nua : นัวแต่ไหน” เพื่อเป็น Key message ที่ Connect กับลูกค้า และสร้างการจดจำ ว่าเราเป็น “นัว” ตัวจริงเสียงจริงมายาวนานกว่า 23 ปี
และโจทย์สุดท้าย ในแง่ของการสื่อสาร เริ่มจากการปรับโลโก้แบรนด์ สร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการปรับเส้นสายให้ดู Smooth ยิ่งขึ้น แต่ยังคงเค้าโครงเดิมไม่ให้ลูกค้าสับสน และ Mood & Tone ใหม่ พร้อมกับการตกแต่งร้านใหม่ในรูปแบบของ “Nua Home” ที่สร้างบรรยากาศทำให้เหมือนลูกค้าทานอาหารอยู่ที่บ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบาย ๆ เหมาะกับการมาพักผ่อน และทานอาหารอร่อย ๆ สไตล์อีสานแท้ ๆ ไปด้วยกัน
นอกจากนี้ ยังมีการเลือกใช้วัสดุ และใส่องค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีสีสันเข้ามาผสมผสาน เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเลือกเปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ สาขาแรกที่ เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่สำคัญอีกแห่งของกรุงเทพฯ เพราะเป็นแหล่งที่พักอาศัย และมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งการคมนาคมสะดวก พร้อมตั้งเป้าขยาย 5 สาขาในปี 2023