เจาะกลยุทธิ์ 20 ปี “แกมโบล” รักษาแชมป์รองเท้าในใจคนไทย

29 ก.ค. 2566 | 12:34 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2566 | 13:07 น.

ถอดกลยุทธิ์ความสำเร็จ “แกมโบล”พร้อมแผนรบในทศวรรษใหม่ ส่งรองเท้าลุยตลาดอาเซียน รองรับการเติบโตของตลาดรองเท้าลำลอง พร้อมกวาดส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม 10% รักษาแชมป์แบรนด์รองเท้าอันดับหนึ่งในใจคนไทย

อยู่ในตลาดมานานนับ 20 ปีสำหรับแบรนด์รองเท้าแตะ “แกมโบล” ภายใต้การบริหารของ “ บิ๊กสตาร์ ” จนไต่ทะยานขึ้นเป็นแชมป์แบรนด์รองเท้าอันดับหนึ่งในใจคนไทย ได้สำหรับ โดย  นิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ “แกมโบล” (GAMBOL) ย้อนเบื้องหลังความสำเร็จนี้ว่า  ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา แกมโบล มีการขยายการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย และขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ ออนกราวด์ และออนไซต์ รวมทั้งการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ควบคู่ไปกับใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา รวมถึงยังมีการ Revamp Digital Asset ทั้งหมดเพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น 

เจาะกลยุทธิ์ 20 ปี “แกมโบล” รักษาแชมป์รองเท้าในใจคนไทย

ในขณะเดียวกันก็มีการออก Product ใหม่ให้เข้ากับ Seasonal เน้นปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้ Data ของ Consumer ด้วยความเข้าใจ และสามารถตอบโจทย์พฤติกรรม และอินไซต์ (Insight) ของกลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน และอนาคต​โดยยังคงมีรูปแบบรองเท้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เน้นความทันสมัย รวมถึงมีการออกแบบรองเท้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มผู้ชาย กลุ่มผู้หญิง กลุ่มเด็ก และกลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬา

 

อีกหนึ่งจุดแข็งคือแกมโบล เป็นผู้ผลิตรองเท้าแตะ EVA รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นผู้บุกเบิกรองเท้าแตะ EVA ในประเทศไทย และที่สำคัญแกมโบล (GAMBOL) มีกระบวนการการผลิตที่จบครบในทีเดียว ตั้งแต่วัสดุจนถึงขั้นตอนการผลิต นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรม การผลิตที่ทันสมัยด้วย จีโบลด์เทคโนโลยี (G-BOLD Technology™) ที่มีคุณสมบัติ นุ่ม ทน เบา สวมใส่สบาย ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศ และต่างประเทศ

รองเท้าแตะ EVA

ส่วนด้านการตลาด แกมโบล ทำการตลาดแบบใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้า ด้วยความเข้าใจ เพื่อสามารถตอบโจทย์พฤติกรรม (Behavior) และข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันได้ มีการออกแบบสินค้าและการผลิตรองเท้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น รองเท้าสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กโดยผ่านกระบวนการทำงานที่มีระบบ เป็นขั้นเป็นตอน สร้างความชัดเจนและความแตกต่างเพื่อครองใจลูกค้าตลอดมา อาทิ 

 

 • การสร้างความไว้วางใจ : เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า โดยการทำสินค้า และบริการที่ดี เพื่อตอบสนองต่อข้อสงสัย หรือปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ

• การสร้างประสบการณ์ที่ดี : เป็นวิธีการครองใจลูกค้าในระยะยาว ทางแบรนด์จึงมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และปรับปรุงกระบวนการบริการให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากที่สุด

• สร้างความพึงพอใจในลูกค้า : เราให้ความสำคัญในการให้บริการที่มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเหมาะสมจึงเป็นมาตรฐานอย่างสูงที่จะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

• การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ : เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อครองใจลูกค้าในระยะยาว เราจึงมีการสร้าง และส่งเสริมค่านิยมของแบรนด์ เช่น ความคุ้มค่า ความสร้างสรรค์ ความประณีต หรือความยั่งยืนของแบรนด์

• การให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม : เป็นสิ่งที่สร้างความพอใจ และความภักดีในลูกค้า เราสร้างวัฒนธรรมให้องค์กรที่เน้นการให้บริการที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการให้คำปรึกษา และการช่วยเหลือที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

• การติดตามและปรับปรุง : เราติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อนำความต้องการและความคิดเห็นของลูกค้ามาปรับปรุงสินค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเหมาะสม

• การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว : เน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและยั่งยืนกับลูกค้า โดยมีการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์และสื่อสังคมออนไลน์

• พัฒนารองเท้าให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย : ด้วยการใช้ Data Analysis และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกมิติ ทั้งนวัตกรรมรองเท้าและดีไซน์

​สำหรับแผนการรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ สู่ยุคดิจิตอล โดยปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมในการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีการสื่อสาร และช่องทางในการซื้อขายสินค้า เราจึงหาแนวทางเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคดังนี้

 • ศึกษาและวิเคราะห์ตลาด : ทำการวิเคราะห์ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน โดยใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อสร้างความเข้าใจกลุ่มลูกค้าอย่างละเอียด

• ปรับกลยุทธ์การตลาด : วิเคราะห์ข้อมูลและความเข้าใจในตลาด โดยเน้นการทำการตลาดออนไลน์และการใช้ช่องทางอื่นๆ ที่เหมาะสมในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง

• การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ : เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เช่น การใช้แอปพลิเคชั่น การติดต่อสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ และการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์

• การรับฟังและการปรับปรุง : ท้ายที่สุด ธุรกิจควรเปิดโอกาสให้กับการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของลูกค้า และทำการปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน​แต่การทำตลาดออนไลน์เปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และมีการแข่งขันที่สูงขึ้น แบรนด์ที่สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในรูปแบบออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีโอกาสที่จะอยู่อย่างยากลำบากของคู่แข่งในตลาด 

“แต่ก็พบปัญหาในกระบวนการขาย เนื่องด้วยสินค้าออนไลน์ เห็นแต่รูปภาพไม่ได้เห็นสินค้าจริง อาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนไม่แน่ใจว่า สินค้าจริงจะตรงปกมั้ย ส่งผลต่อโอกาสในการขายได้และแบรนด์เรื่องความน่าเชื่อถือได้ ปัญหาการลดราคา การตัดราคา จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นกลไกตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง อาจส่งผลให้ต้องลดราคาสินค้าจัดโปรโมชันต่างๆ เพื่อมาเอาใจตลาด ซึ่งเป็นวิธีหนึ่ง ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้มากขึ้น ยิ่งมีคู่แข่งที่มากขึ้นทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเราต้องสร้าง value added ให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆด้วย ยิ่งขณะเดียวกันความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: ด้านข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า สมัยนี้ข้อมูลส่วนตัวสามารถเอามาทำประโยชน์อะไรได้หลายอย่างคนจึงไม่ค่อยอยากให้ข้อมูลส่วนตัวกับแบรนด์เราจึงรู้จักลูกค้าได้ยากกว่าสมัยก่อน” 

อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดรวมรองเท้าแตะลำลองมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ 60% ของตลาดรองเท้าแตะลำลองเป็นรองเท้าที่มีแบรนด์ มีอัตราเจริญเติบโตในกลุ่มแบรนด์รองเท้าแตะลำลอง เฉลี่ยค่อนข้างต่ำ ตลาดเป็นลักษณะ Fragment ในกลุ่ม Others มีแบรนด์ย่อย และ Non Brand ของจีนประมาณ 50 ยี่ห้อทั่วประเทศ สำหรับส่วนแบ่งทางการตลาดแบรนด์แกมโบล ปัจจุบันยังคงเป็นเลข 2 digit หรือประมาณ 10% ของภาพรวมตลาดรองเท้าแตะลำลอง ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

 และในปี 2566 นี้แกมโบล (GAMBOL) ตั้งใจจะขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายโดยการทำSegmentation Targeting ทั้งกลุ่มเด็ก กลุ่มผู้ใหญ่ ที่ชื่นชอบสัตว์ ชื่นชอบกีฬา หรือกลุ่มคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีดนตรี ศิลปะ เป็นต้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของตลาดรองเท้าลำลองในประเทศไทย พร้อมพัฒนาเป็นแบรนด์รองเท้าชั้นนำในอาเซียนภายในปี 2568 และก้าวขึ้นสู่แบรนด์รองเท้าระดับนานาชาติภายในปี 2570 ตามลำดับ