Lifestyle Solution ของ GEN Y ในการรับมือกับความท้าทาย
ด้วยอุปสรรคที่ขวางพวกเขาจากการตามหาสมดุลในการใช้ชีวิต GEN Y ในวันนี้ พวกเขามองหาชีวิตที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น (Flexibility) ซึ่งไม่ได้เฉพาะแค่ในเรื่องของการทำงาน แต่ครอบคลุมไปถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตหลากหลายแง่มุม พวกเขามองว่าการคลายกรอบและกฎการใช้ชีวิตให้ยืดหยุ่นขึ้นคือ หัวใจสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงสมดุลในชีวิตและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความหมาย
โดยเหล่า GEN Y เลือกใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่นขึ้นในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ ในการใช้ชีวิตและงานอดิเรกอย่างการช้อปปิ้งออนไลน์และใช้โซเชี่ยลมีเดียเป็นแหล่งการเข้าถึงความบันเทิงและการหาความสุขในชีวิตและการใช้แอปพลิเคชันในการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพจิตตนเอง
รวมไปถึงการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มใหม่ๆ เป็นช่องทางการหารายได้เสริมอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่า GEN Y มีความสนใจในเรื่องราวใหม่ๆ และพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ตลอดเวลา อย่างเช่นการเริ่มใช้ ChatGPT ในการทำงานมากขึ้น รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกับคนอื่นๆ ผ่านการแชร์ คอมเมนท์บน Social Media Platform เป็นประจำ เช่น Facebook, TikTok หรือ Pantip
การมองหาช่วงเวลาแห่งความสุขเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตประจำวัน (Micro Happiness) จากเดิมที่ GEN Y เคยอดใจทำงานรอช่วงเวลาแห่งความสุขในวันพักผ่อนหยุดยาว หรือ ให้รางวัลชิ้นใหญ่กับตัวเองสำหรับการทำงานหนัก อาจไม่ทันการพอสำหรับเป้าหมายในการรักษาสมดุลในชีวิต GEN Y ในวันนี้ ได้หันมาหาความสุขที่พวกเขาสามารถที่จะพบเจอได้ใกล้ๆตัวและถี่บ่อยมากยิ่งขึ้น จาก ปี 2019 จนถึง ปี 2023
แบรนด์จะเอาชนะใจ GEN Y ในวันนี้ได้อย่างไร
โดยสรุปแล้วนั้นแบรนด์ที่มีความสนใจหรือมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคน GEN Y ไม่ควรสนใจแค่จะทำอย่างไรให้พวกเขาซื้อของหรือใช้บริการเพียงอย่างเดียว เหล่า GEN Y กำลังกลายเป็นหนึ่งในกำลังซื้อสำคัญของสังคมและสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาอยู่คือแบรนด์ที่มีความหมายต่อพวกเขา เข้าใจเขาและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของพวกเขาด้วยความจริงใจ โดยสามารถแบ่งเป็นกลยุทธ์ต่างๆได้ ดังนี้
1. Purpose Driven Campaign with Shared Value : สร้างแคมแปญที่มีความหมายต่อกลุ่ม GEN Y ด้วยการสื่อสารถึงเป้าหมายของแบรนด์ จุดที่แบรนด์สามารถสร้างผลดีต่อผู้บริโภค คนในองค์กร หรือสังคม ยิ่งถ้าเป็น value และ เป้าหมายที่ GEN Y เห็นด้วยและให้ความสำคัญ ก็จะยิ่งทำให้แบรนด์สามารถครองใจพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น
2. Real & Rare Collaboration with Brand/Influencer : สร้างจุดร่วมด้วยการ collab ระหว่างแบรนด์ หรือ เหล่า Influencer ที่ไม่เพียงแค่เหมาะสมกับแบรนด์ในเรื่องของความนิยม แต่ยังมีจุดแข็งและจุดร่วมซึ่งสามารถส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของ GEN Y ได้อย่างแท้จริง
3. Data-Fueled Personalization at Scale : เมื่อดิจิตอลและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกวินาทีของชีวิตของ GEN Y ทำให้แบรนด์สามารถรู้ความต้องการของแต่ละคนได้ลึกกว่าเดิม การใช้ Data & Technology จะช่วยเสริมพลังเป็นตัวขับเคลื่อนแบรนด์ในการกระตุ้นความสนใจที่ตรงใจ GEN Y ได้อย่างแม่นยำ real time และต่อยอดไปสู่การปิดการขาย
4. Social Media & Digital Platform Optimization : แบรนด์ต้องมีกลยุทธ์ทิศทางในการปรับเปลี่ยนและเลือกใช้ Social Media & Digital Platform ของแบรนด์ให้อยู่ในบริบทที่ใช่ที่สุดสำหรับ GEN Y ทั้งเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสื่อและสอดรับกับพฤติกรรมของ GEN Y ที่มีการเปิดรับแพลตฟอร์มดิจตอลใหม่ๆและเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ตามกาลเวลา
5. Interactive Experience & Sharable Experience : ด้วย lifestyle ของ GEN Y ที่เปิดรับการมีส่วนร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมให้ตนเองได้สามารถแบ่งปันไอเดียและเรียนรู้ จากตรงนี้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับพวกเขา ผ่านการเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมทางประสบการณ์ไปกับแบรนด์ หรือมอบประสบการณ์ที่เอื้อให้ GEN Y สามารถส่งต่อให้คนอื่นๆ ได้
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,912 วันที่ 10 - 12 สิงหาคม พ.ศ. 2566