ทายาทเจ้าสัวเจริญ ปูพรมตลาดฮ่องกง จ่อลงทุน “Kai Tak” ต้นแบบเมืองในอนาคต

28 ก.ย. 2566 | 15:06 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.ย. 2566 | 22:12 น.

ทายาทเจ้าสัวเจริญ เดินหน้าขยายตลาดฮ่องกง จ่อลงทุนโครงการไคตั๊ก (Kai Tak) ต้นแบบพัฒนาเมืองในอนาคต หลังเทคโอเวอร์ AbouThai 24 แห่งรวด มั่นใจกวาดยอดขาย 1,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 69

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BRC) ร่วมกับนางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า หลังจากที่บิ๊กซี รีเทล ได้ซื้อกิจการร้าน AbouThai ทั้ง 24 สาขา ในฮ่องกง และเปลี่ยนชื่อเป็นบิ๊กซี (Big C) ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนกันยายน 2566

ทายาทเจ้าสัวเจริญ ปูพรมตลาดฮ่องกง จ่อลงทุน “Kai Tak” ต้นแบบเมืองในอนาคต

พร้อมวางแผนเปิดสาขาเพิ่มปีละ 25 สาขา เพื่อให้มีสาขารวมมากถึง 99 สาขา ภายในสิ้นปี 2569 และวางแผนการลงทุนระยะยาวในฮ่องกงด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยคาดว่ายอดขายบิ๊กซีในฮ่องกงจะเติบโตอย่างรวดเร็วจะมากกว่า 1,000 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ในปี 2568 และมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 2569

ทายาทเจ้าสัวเจริญ ปูพรมตลาดฮ่องกง จ่อลงทุน “Kai Tak” ต้นแบบเมืองในอนาคต

ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของ บิ๊กซี รีเทล ในการขยายธุรกิจออกนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนการยกระดับ Big C ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติไทยในกลุ่ม TCC ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ให้มีคุณภาพระดับพรีเมียม รวมถึงมีความสนใจการลงทุนในโครงการพัฒนาไคตั๊ก (Kai Tak) เป็นพื้นที่มหาศาลอยู่กลางเมืองและติดริมน้ำ ซึ่งฮ่องกงต้องการให้ไคตั๊กเป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองฮ่องกงในอนาคต

อย่างไรก็ดี ฮ่องกงสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เชื่อว่าฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำในเอเชียที่เชื่อมโยงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจีนแผ่นดินใหญ่  มีศักยภาพทางธุรกิจสูง รวมถึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยปัจจัยที่เอื้อต่อธุรกิจและการลงทุน มีความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในฐานลูกค้านักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของบิ๊กซี

ทายาทเจ้าสัวเจริญ ปูพรมตลาดฮ่องกง จ่อลงทุน “Kai Tak” ต้นแบบเมืองในอนาคต

ด้วยปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้ บิ๊กซี รีเทล ได้เลือกฮ่องกงเป็นตลาดแรกนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากขยายธุรกิจในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านทั้ง ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อขยายสาขาบิ๊กซีกว่า 2,000 แห่ง ในรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ประกอบด้วย บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี มาร์เก็ต, บิ๊กซี ฟู้ดเพลส และบิ๊กซี มินิ

สำหรับสำนักงานของ บิ๊กซี ในฮ่องกงจะเป็นสำนักงานอิสระและดำเนินงานเฉพาะบิ๊กซีในฮ่องกงเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สำนักงานใหญ่หรือสำนักงานระดับภูมิภาค และการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ บิ๊กซี รีเทล ในการมองหาโอกาสในตลาดที่มีอยู่และการขยายสู่ตลาดใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ