PSP แตกไลน์ธุรกิจ ปั้น 2 แบรนด์ใหม่บุกตลาด B2C

"PSP" เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ PROTECH และ MASTER เดินหน้าบุกตลาด B2C สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ สอดรับวิสัยทัศน์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร พร้อมเดินหน้าสู่ตลาดที่มีมูลค่าสูงเพื่อสร้างการเติบโตและขยายฐานลูกค้า ตั้งเป้าเริ่มจำหน่ายปลายปี 2566 นี้

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร กล่าวว่า “หนึ่งในกลยุทธ์หลักที่บริษัทได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คือการมองหาโอกาสในการต่อยอดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายฐานลูกค้า

โดยเน้นไปที่ตลาดที่มีโอกาสเติบโตและมีอัตราการทำกำไรสูง ซึ่ง 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ทั้ง “PROTECH” น้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ (PROTECH Multi-Purpose Oil) รวมไปถึงอีก 2 ผลิตภัณฑ์จาก “MASTER” ได้แก่ สเปรย์ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ (MASTER Air cleaner & Refresher Spray) และสเปรย์ขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ (MASTER Deodorizer Spray) ในครั้งนี้ ถือเป็นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด B2C และเป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าใหม่ที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปเป็นครั้งแรกของบริษัท

ทั้งนี้ทาง PSP มั่นใจว่า สินค้าทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ มีคุณภาพสูง ซึ่งพัฒนามาจากความพร้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาสูตรสินค้า รวมไปถึงความเชี่ยวชาญและศักยภาพของบริษัทที่มีนั้น จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน” 

 

คุณชาญชัย จันทรพิมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์และพัฒนาธุรกิจ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “PSP มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมามากกว่า 30 ปี มีการบริหารจัดการกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง มีห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลครอบคลุมทั้งด้านการรับรองและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้า

ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยหลักในการสร้างความแตกต่างและได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำจากทั้งในและต่างประเทศตลอดมา การแตกไลน์ธุรกิจในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการนำจุดแข็งและศักยภาพดังกล่าวของบริษัทมาต่อยอดและพัฒนาออกมาเป็น 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ทาง PSP ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาและค้นคว้าตลาด

รวมไปถึงการลงทุนเพิ่มเติมสำหรับการวางแผนการตลาด ซึ่งทำให้มั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี” 

 

ผลิตภัณฑ์ PROTECH น้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ (PROTECH Multi-Purpose Oil) มีเทคโนโลยี Active Shield Molecules ช่วยหล่อลื่นและยึดเกาะผิวโลหะ ป้องกันสนิม ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่เป็นอันตรายเมื่อสัมผัสต่อผิวหนัง โดยมีขนาด 400 มล. 200 มล. และ 80 มล.

ส่วนแบรนด์ MASTER มีจุดขายด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความหอม สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารก่อมะเร็งและสาร CFC ซึ่งผลิตภัณฑ์ MASTER มี 2 แบบที่วางขายในตลาดภายใต้แบรนด์นี้ ได้แก่

1. ผลิตภัณฑ์สเปรย์ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศโดยไม่ต้องใช้น้ำ (MASTER Air Cleaner & Refresher Spray) มีจุดเด่นคือ มีนวัตกรรม Active Intelligent Molecules โมเลกุลอัจฉริยะที่คอยดักจับสิ่งสกปรกในแอร์ ให้เกาะไปกับน้ำพร้อมไหลลงสู่ท่อน้ำทิ้งแอร์ มีขนาด 500 มล. และ 250 มล.
2. ผลิตภัณฑ์สเปรย์ขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ (MASTER Deodorizer Spray) พร้อมให้ความหอม สะอาด มีนวัตกรรม Nano Complex Formulation ที่ช่วยดักจับและขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ และให้กลิ่นหอม สะอาด สดชื่นในทุกโอกาส มีขนาด 300 มล. และ 80 มล. ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นั้น มี 2 กลิ่นได้แก่ กลิ่นซีบรีซ และกลิ่นดอกซากุระ 

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย ครอบคลุมทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยสำหรับทางออฟไลน์นั้น ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ทาง PSP ได้มีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับทางบริษัท บอร์เนียว เทคนิเคิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมืออุตสาหกรรม

อีกทั้งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอุปกรณ์ อะไหล่รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่มีประสบการณ์ในประเทศไทยมากว่า 160 ปี มีระบบโลจิสติกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่รองรับการขายและกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ มาเป็นพันธมิตรหลักในการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศได้

 

Q&A กับ PSP

Q. สิ่งที่ทำให้ PSP ตัดสินใจเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น 3 ผลิตภัณฑ์นี้

PSP ดำเนินธุรกิจเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ที่เน้นจำหน่ายให้กับลูกค้า B2B เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในกลุ่มน้ำมัน อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 30 ปีแล้ว แต่เนื่องจากเราได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

และจากที่ PSP มีความชำนาญในด้านนี้อยู่แล้ว จึงวางแผนกลยุทธ์ในการต่อยอดขยายธุรกิจให้เติบโต ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นในนามของตัวเอง เพื่อบุกเข้าตลาด B2C เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ให้มากขึ้น จากที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายให้กับธุรกิจในตลาด B2B มาตลอด

Q. จุดแข็งและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ภายใต้ PSP

ผลิตภัณฑ์ของ PSP จะมีการออกแบบที่เน้นความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก รวมถึงมีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ รวมถึงเล็งเห็นว่าสินค้าในหมวดหมู่นี้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ pain point ของลูกค้าได้หลายจุด อีกทั้ง เล็งเห็นถึงช่องว่างของตลาดที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ PSP ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาที่จับต้องได้ 

Q. แผนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเป้าหมายในการขาย

ในด้านของการตลาด PSP มีแพลนสร้างช่องทางการสื่อสาร ผ่านทาง TVC, Social Media แพลตฟอร์มต่างๆ, พาร์ทเนอร์, Influencer KOL กว่า 30 คน รวมถึงได้มีการปล่อยโฆษณาในรูปแบบของบิลบอร์ด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนรู้จักแบรนด์และสินค้าของ PSP อีกทั้งได้มีการปล่อย Rider Ads ตามเส้นทางถนน เพื่อประชาสัมพันธ์ไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้ (1 พ.ย.66)

PSP มั่นใจว่าแผนการสร้างแบรนด์จะสามารถทำให้ลูกค้าเห็นและรู้จักสินค้าในวงกว้าง เนื่องจาก PSP มีแผนการตลาดที่ครอบคลุม และมีงบประมาณในการสนับสนุนด้านการตลาดที่จะสามารถทำให้ยอดขายไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้

ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายในการขายนั้น จากการศึกษาและสำรวจข้อมูลจาก Market size แล้ว PSP คาดว่าจะทำให้ได้ 10% ภายใน 3 ปี นับเป็นการขายรวมจากสินค้าทั้งหมด มองเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้าง Portfolio ใหม่ และเป็นการเปิด Category ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกด้วย

Q. แผนการดำเนินธุรกิจใน 5 ปีนี้ และการทำกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน

PSP มีแพลนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่หลายสิบตัว เพื่อแตกขยายไปในหลากหลายตลาด อาทิ ตลาดสัตว์เลี้ยง ในส่วนของแผนธุรกิจในตอนนี้ PSP จะเริ่มจากในประเทศไทยก่อน แต่ต่อไปจะมีการขยับขยายไปในต่างประเทศ และประเทศข้างเคียงด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ได้มีการเริ่มพูดคุยกับตัวแทนในประเทศที่ทำงานร่วมกับ PSP ที่ ณ ปัจจุบันมีอยู่ราว 35 ประเทศ และหากประเทศไหนสนใจที่จะเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าร่วมกัน PSP ก็ยินดี ในส่วนของตลาดเป้าหมายที่มองไว้คือ อาเซียน เนื่องจากมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และมองว่าไม่ยากที่จะพูดคุย เจรจาร่วมทำธุรกิจด้วยกัน

ในส่วนของกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน PSP มีแผนที่จะเป็นส่วนหนึ่งในผู้ยั่งยืน และมีการทำมาต่อเนื่องอยู่แล้ว ทั้งนี้ ก็ได้มีการแพลนกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนอยู่ในหลากหลายด้านเช่นเดียวกัน

Q. ช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ของ PSP 

มีทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ทางออฟไลน์ PSP เล็งจะวางจัดจำหน่ายที่ Villa Market, Big C และ Mr.Diy เป็นต้น ในส่วนของออนไลน์ PSP ได้มีการทำ Social Shop ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook, Tiktok, Line Add, Youtube รวมถึงใน Marketplace อย่าง Shopee, Lazada และ Tiktok Shop ครบทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ 

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด สามารถติดตามได้ที่ www.facebook.com/masterofficial.th และ www.facebook.com/Protechofficial.th

 

ทั้งนี้ คุณชาญชัย จันทรพิมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์และพัฒนาธุรกิจ ได้ทิ้งท้ายว่า PSP มีโรงงานการผลิตที่ใหญ่ มีทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีแล็ปทดลองรองรับ และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสายนี้เป็นจุดแข็ง ทำให้ PSP เป็นที่น่าเชื่อถือของแบรนด์ใหญ่มากมายมากว่า 30 ปี มั่นใจสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศได้