นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบนโยบายสำคัญจากท่านนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกกระทรวงดำเนินนโยบายเร่งรัด 100 วันทำได้จริง หรือ Quick Win ให้ประสบความสำเร็จโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ต้องการนำรายได้มาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาโดยเร็ว
ดังนั้นจึงถือว่าเป็นพันธกิจอันสำคัญและท้าทายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งล่าสุดได้ประกาศมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนในการเดินทางท่องเที่ยวไทยเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567
ประกอบกับในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของไทยได้เข้าพบนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อโปรโมทและสร้างความเชื่อมั่นต่อการเดินทางท่องเที่ยวไทย ทำให้มั่นใจว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 700,000 คนต่อเดือน หรือ 30% หรือเพิ่มเป็น 4,100,000 คน ถึง 4,400,000 คน จากเดิมที่ไม่มีมาตรการฟรีวีซ่าอยู่ที่ 3,600,000 คนถึง 3,700,000 คน
“วันนี้ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้านทั้ง short stay and long stay การที่ผู้ประกอบการไทยได้ทำความรู้จักและเข้าถึงแพลตฟอร์มชั้นนำของจีน ทั้ง 5 แพลตฟอร์ม นี้จะทำให้ไทยได้มีโอกาสรับฟังแนวทางในการเพิ่มจํานวนการท่องเที่ยวและการจัดการด้านความสะดวกสบาย ตลอดจนด้านความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว
ซึ่งผู้บริหารทั้ง 5 แพลตฟอร์ม ต่างมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างดี ทำให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวตามที่ได้ตั้งใจไว้ และทำให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในใจของชาวจีน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวFIT หรือ Free Independence Travelers เพื่อให้เกิดการ Visit และ Re-visit ต่อเนื่องต่อไป”
ด้านนางสาวพรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย จำกัด (Digilink Thailand Co.,Ltd.) กล่าวว่า การจัดเวทีฟอรั่ม “Time to Take off” ภายใต้แนวคิด The Rebound of Chinese Travelers and Reborn of Thai Economy ในวันนี้ เกิดขึ้นโดยความร่วมมือของ ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ AV Group ถือเป็นครั้งแรกในเอเชีย ที่ทั้ง 5 แอปพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่ของจีน
ได้แก่ ไบท์พลัส, เทนเซน, เสียวหงชู, หม่าเฟงวอ, จูไว่ ไอคิวไอ มาอยู่ร่วมกันบนเวทีเดียวกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นช่องทางการดำเนินธุรกิจ ยังมีข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่าย ความต้องการของชาวจีนแบบอินไซต์ และ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว FIT ซึ่งมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบอิสระ ไม่ใช้บริการทัวร์ ซึ่ง FIT มีจำนวนมากขึ้นทุกปี จนกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
โดยเวทีฟอรั่ม “Time to Take off” แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วง 1. พบกับการบรรยายถึงทิศทาง โอกาส และอุปสรรคของตลาดจีน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมพูดคุยกับนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จ นำโดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร, นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์,นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช , นายพลพัฒน์ อัศวะประภา เป็นต้น ถึงเทคนิคครองใจลูกค้าชาวจีน และ FIT
ตามด้วย 5 ผู้บริหารระดับสูงจาก 5 แอปพลิเคชั่นดังจากประเทศจีน นำโดย Mr. Zhang Yong Liang, จาก BytePlus, Douyin Tech กับการนำเสนอเทคโนโลยี มาเสริมพลังของวิดิโอสั้น เพื่อเข้าถึงชาวจีน, Ms. Alice Yu จาก Tencent กับ ecosysterm ของ WeChat ซูเปอร์แอปที่ครองใจชาวจีนกว่า 1 พันล้านคน, Ms. Mona Liu จาก Mafengwo กับการปลดล็อกพลังนักท่องเที่ยว FIT และการเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่
Mr. Hao Zhang จาก Juwai IQI กับ การอัปเดตเทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีน พร้อมตอบคำถามทำไมคนจีนจึงอยากได้อสังหาริมทรัพย์ในไทย, Mr. Jake Lee จาก Xiaohongshu กับ การใช้พลังโซเชียล KOL KOC นำรีวิวมาต่อยอดธุรกิจ และ Mr. Krittakorn Uttamo จาก FAR-E ผู้บุกเบิกนำเข้าสินค้าไทยสู่ตลาดจีน เบอร์ 1 ด้านการนำเข้าและอีคอมเมิร์ซในยูนนาน ที่จะมาบอกเล่าเส้นทาง อุปสรรค เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย
ช่วง 2. พบกับ Exclusive Dinner แลกเปลี่ยน พูดคุยอย่างใกล้ชิด กับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วย 5 ผู้บริหารระดับสูงจาก 5 แอปพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่ของจีน ที่พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เติบโตในตลาดจีน เต็มรูปแบบ
“ชาวจีนให้การยอมรับและนิยมเลือกซื้อสินค้าและบริการจากประเทศไทยจำนวนมาก แต่พบว่า ยังมีตัวเลือกจำกัด จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่มีความพร้อมและต้องการเข้าไปขยายตลาดให้กับชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจในกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ (Tourist & Hospitality) บริการทางการแพทย์ (Medical) บริการเพื่อสุขภาพและความงาม (Health & Wellness) ธุรกิจอาหาร (Food) อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) และแฟชั่นและรีเทล (Fashion & Retail)
เวทีฟอรั่มนี้เกิดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในจีน ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้ในตลาดจีน เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีน การใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ถูกจังหวะและถูกเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้หาได้จากเวทีฟอรั่มนี้ เพื่อให้คุณก้าวสู่ตลาดจีนได้แบบก้าวกระโดด”