นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการชั้นนำในอาเซียนด้านโลจิสติกส์ครบวงจรและบริหารจัดการซัพพลายเชน เปิดตัวธุรกิจบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน MeSpace Self Storage (มี สเปซ เซลฟ์ สโตเรจ) ที่มีโซลูชันให้เลือกหลากหลายตามความต้องการมากที่สุดในประเทศไทย
ได้แก่ ห้องเก็บของส่วนตัวที่มีขนาดให้เลือกตามความต้องการ, ตู้นิรภัย, ห้องเก็บไวน์, บริการรับ-ส่ง-เก็บของผ่านแอปพลิเคชัน ฯลฯ ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ประสบปัญหาพื้นที่ใช้สอยในที่พักมีจำกัด ตอกย้ำภาพผู้นำอันดับหนึ่งด้านบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “More Space MeSpace ปลอดภัย ง่าย สะดวก”
ทั้งนี้บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 หรือ 9 ปีมาแล้วในชื่อ “JWD Store It” เพื่อเป็นการตอบรับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจ Self Storage ในอนาคตและทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนชื่อจาก “JWD Store It” ให้เป็น “MeSpace” โดยเราต้องการรีเฟรชภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความโดดเด่น
เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายและเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ปัจจุบัน MeSpace เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม B2C เจ้าของบ้านและคนทั่วไปที่อาศัยในบ้านหรือคอนโดแต่ต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น และ กลุ่ม B2B ได้แก่ นักธุรกิจ แม่ค้าออนไลน์ หรือ เจ้าของบริษัทที่ต้องการเก็บสต๊อกสินค้า สินค้าคงคลัง อุปกรณ์ ตลอดจนเอกสารสำนักงานต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียถือได้ว่าเป็นปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Self Storage เพราะมีการนำและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ คาดการณ์ว่าตลาด Self Storage ในเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราเติบโต (CAGR) ที่ 8.36% ในช่วงปี 2565-2570 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์การเติบโตของทั้งตลาดทั่วโลกเกือบเท่าตัว
สำหรับตลาดประเทศไทยในปี 2566 เป็นปีที่ธุรกิจ Self storage เติบโตได้ดี สังเกตได้จากการเปิดสาขาเพิ่มเติมของผู้ให้บริการแต่ละรายในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว รวมถึงอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองที่พบว่าตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขนาดห้องเล็กลง เช่น คอนโดฯ 1 ห้องนอน เดิมมีขนาด 65 ตร.ม. ปัจจุบันเหลือพื้นที่เพียง 28 ตร.ม. ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มขึ้น
“เรามั่นใจในศักยภาพสู่การเป็นผู้นำตลาดห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าอันดับหนึ่งในไทย จากการเป็นผู้นำในธุรกิจ Logistics และ Supply Chain สามารถเชื่อมต่อบริการกับธุรกิจภายในเครือ ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง CPN ผู้นำอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยในการจัดหาพื้นที่ให้บริการและการขยายตลาด และ STORHUB ผู้นำธุรกิจ Self Storage ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในการแชร์เทคโนโลยีและระบบการจัดการ สามารถตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ”
ด้านนายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด กล่าวถึง 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่เก็บของนอกบ้าน ได้แก่ 1. การเติบโตของเมือง 2. การทำงานที่บ้าน 3. การสะสมสิ่งของ 4. การย้ายบ้านหรือปรับปรุงบ้าน 5. การเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์ โดยเป้าหมายของ MeSpace คือ เราต้องการทำให้การใช้ชีวิตในเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพราะเราเข้าใจในวิถีชีวิตคนเมืองที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด เราจึงมีบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน
ด้วย 3 จุดแข็งและกลยุทธ์หลักที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ MeSpace บริษัทผู้นำอันดับหนึ่งด้านบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าในประเทศไทย ได้แก่
1. Convenience: สะดวกสบาย ใกล้บ้านด้วยจำนวนสาขาที่มากที่สุดในประเทศไทย (10 สาขา นับรวมสาขาที่จะเปิดใหม่ภายในต้นปี 2567) คิดเป็นพื้นที่ให้บริการ 28,000 ตร.ม. ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และมีการขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างจังหวัด
2. Flexible Solutions: มีโซลูชันพื้นที่เก็บของที่หลากหลายให้เลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ ตั้งแต่ห้องเก็บของหลากหลายขนาด ตู้ล็อกเกอร์ ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บของนิรภัย และ ตู้รับฝากของอัตโนมัติ เริ่มต้นเพียง 499 บาท/เดือน (เช่าขั้นต่ำ 1 เดือน) พร้อมบริการรับ-ส่งของเพื่อนำมาเก็บในพื้นที่เก็บของ ผ่านแอปพลิเคชัน CloudRoom รวมถึงบริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการขนย้ายพร้อมติดตั้งด้วยผู้เชี่ยวชาญ, บริการจัดเก็บ-แพ็ก-ขนส่ง สำหรับธุรกิจ SME เป็นต้น
3. Worry-free Care: มั่นใจด้วยการดูแลระดับพรีเมียมในพื้นที่จัดเก็บ ติดระบบปรับอากาศทุกสาขา ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และแพ็คเกจประกันภัยที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ รวมถึงการออกแบบห้องเก็บของที่คำนึงถึงความปลอดภัยตามมาตรฐานห้องเก็บของระดับสากล
ปัจจุบัน มีสเปซ เปิดให้บริการครอบคลุมทั้งใน กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และ พัทยา รวม 9 สาขา ล่าสุดได้เปิดสาขาบางซื่อ เป็นสาขาที่ 9 และภายในต้นปี 2567 มีแผนเปิดสาขารัชดา-พระราม 9 ซึ่งเป็นสาขาที่ 10 ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย คิดเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งหมดประมาณ 28,000 ตร.ม. หรือ คิดเป็นการเติบโตของพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 78%
โดยคาดว่าปีนี้จะรายได้ราว 70 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 108 ล้านบาทในปีหน้า หรือเติบโตราว 53% สำหรับแผนการเติบโตในปีถัดไปเรามีเป้าหมายที่จะทำให้ Self Storage เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองมากขึ้น โดยมุ่งปรับปรุงระบบการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและมีประสบการณ์ที่ดีและสะดวกสบายในการใช้บริการมากขึ้น พร้อมด้วยแผนงานขยายพื้นที่ให้บริการในอนาคต