นายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทจะเดินหน้ากลยุทธ์ Sport Marketing พร้อมขยายฐานลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับไฮเอนด์
"ปีหน้าไฮเออร์เห็นเทรนด์เรื่องสุขภาพมากแรง พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น และได้วางแผนขยายกลุ่มสินค้าที่ใส่ใจสุขภาพ เพื่อรับมือกับเทรนด์ที่มา พร้อมเจาะกลุ่มคนรุ่นหรือ กลุ่ม Y กับ Z ตั้งเป้ายอดขาย 1.1 หมื่น"
สำหรับในปีนี้ ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้น 8-10% เมื่อเทียบกับปี 2565 แต่ไฮเออร์ประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะปิดยอดขายที่ 9,070 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วมียอดขาย -4% โดยมีสินค้ายอดนิยม ได้แก่
สาเหตุที่ภาพรวมไฮเออร์ -4% โดยนับรวมแบรนด์ในเครือทั้งหมด รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น กำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมา และภาครัฐที่ยังไม่มีนโยบายที่คอยสนับสนุน ประกอบกับแบรนด์ Yudee (ในเครือ) มีนโยบายให้ลูกค้าผ่อนชำระการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ภาพรวมธุรกิจทั้งหมดของไฮเออร์ติดลบ นายธเนศร์ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ถึงภาพรวมธุรกิจจะติดลบ แต่สินค้านิยมกลับเติบโตถึง 12 % โดยเฉพาะตู้เย็น
อย่างไรก็ตาม ถึงตู้เย็นจะนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แต่ได้มีข้อมูลเผยออกมาว่า ตลาดตู้เย็นมีแนวโน้มที่จะลดลงในปีหน้า เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีการแปลงเปลี่ยน โดยพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีอัตราการซื้อที่ลดลง ผู้บริโภคมีความคิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องมีตู้เย็น เพราะมีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ สามารถหาซื้อได้ง่าย
โดยปี 2567 ไฮเออร์ มีแผนทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาทสำหรับการทำกิจกรรมทางการตลาดให้กับแบรนด์ ไฮเออร์ และ คาซาร์เต้ นอกจากนี้ยังมีการปรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของไฮเออร์และคาซาร์เต้ให้กว้างขึ้นโดยมีสินค้าระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์
สุดท้ายที่ไฮเออร์จะปรับคือ บริการหลังการขาย ยังคงดำเนินตามมาตรฐาน 210 Quick Service โดยจะติดต่อกลับหาลูกค้าภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากพนักงานรับเรื่องผ่านทาง Haier Care 1789 จะสรุปแนวทางแก้ไขให้ลูกค้าภายใน 1 วัน และแต่ละวันงานค้างต้องเป็น 0 ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ซ่อมบริการรวมกว่า 187 ศูนย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%