‘YUZU GROUP’ สยายปีก รุกหัวเมืองใหญ่ ปั้น 10 แบรนด์ ผงาดธุรกิจร้านอาหาร

07 ม.ค. 2567 | 10:30 น.
อัพเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2567 | 10:34 น.

เปิดแนวรบ “ยูซุ กรุ๊ป” เดินหน้าปั้น 10 แบรนด์ผงาดธุรกิจร้านอาหาร เผยแผนปี 67 ประกาศรุกขยายสาขาหัวเมืองใหญ่ ตั้งเป้าเติบโต 20% มั่นใจภาพรวมตลาดสดใส จากกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

นายปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร Founder & CEO บริษัท ส้มพาสุข จำกัด หรือ ยูซุ กรุ๊ป (YUZU GROUP) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในปี 2567 มีแนวโน้มสดใสและมีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ยังต้องระวังหรือปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และความไม่แน่นอนทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจโลก

สำหรับผลประกอบการในปี 2566 ของยูซุ กรุ๊ป พบว่ารายได้มีการเติบโตขึ้น 20% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 426.8 ล้านบาท มาจากการเปิดร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2567 ยูซุ กรุ๊ปจะเดินหน้าเกมรุกขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีความยั่งยืนและมั่นคง ซึ่งตั้งเป้าหมายปี 2567 เติบโตอีก 20%

“ปี 2566 ถือเป็นปีทองของ YUZU GROUP เนื่องจากมีการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ทั้งการเสริมพอร์ตด้วยร้านอาหารใหม่ ๆ และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการขยายร้านอาหารให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้วิเคราะห์เทรนด์ร้านอาหาร และพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา เพื่อจับกระแสในการตอบรับไลฟ์สไตล์ดังกล่าว”

หลังจากก้าวเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหารในวัย 25 ปี “ปรมินทร์” เริ่มต้นธุรกิจกับการลงทุนร้าน Yuzu Ramen สาขา “สยามสแควร์วัน” เป็นสาขาแรก เพราะอยากให้คนไทยได้ประสบการณ์์กับรสชาติใหม่ ที่เมื่อรับประทานแล้วรู้สึกสดชื่น จึงนำมาเปิดที่ไทย ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะได้รสชาติที่เข้ากับคนไทย จากนั้นได้ขยายแบรนด์ที่ 2 คือ “Yuzu Omakase” ซึ่งเริ่มต้นจากการโฟกัสในกลุ่มอาหารญี่ปุ่นเป็นหลัก หลังจากนั้นได้ขยายไปยังกลุ่มอื่น ๆ เพื่อครอบคลุมให้ทุกเซ็กเมนต์

‘YUZU GROUP’ สยายปีก  รุกหัวเมืองใหญ่  ปั้น 10 แบรนด์ ผงาดธุรกิจร้านอาหาร

ปัจจุบันยูซุ กรุ๊ปเป็นเชนร้านอาหารระดับพรีเมียม มีหลากหลายประเภทและหลายสัญชาติ ซึ่งจุดเด่นคือมีรสชาติที่เข้มข้น วัตถุดิบหาทานได้ยาก ไม่สามารถหาทานได้ในท้องตลาดทั่วไป ถือเป็นจุดแข็งของตัวแบรนด์ด้วย

โดยล่าสุดยูซุ กรุ๊ปมีแบรนด์ในเครือทั้งหมด 10 แบรนด์ ได้แก่ Yuzu Omakase-ร้านอาหารญี่ปุ่น สไตล์โอมากาเสะ,Yuzu Suki-ร้านชาบู, Yuzu Ramen-ราเมน ซุปส้มยูซุ, Yuzu Sushi Deliery-ซูชิที่มีเฉพาะหน้าร้าน

Yuzu Honey- เครื่องดื่มน้ำส้มยูซุ, Thai Thai Boat Noodles- ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือไทย, Yuzu Rame n Express-แบรนด์ลูกของ Yuzu Ramen สูตรเดียวกัน แต่มีราคาย่อมเยากว่า และเน้นเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างกว่า, Kogoro Katsu -ร้านหมูทอดทงคัตสึ, Chicken Club Thailand-ร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี, DA ZHENG-เป็นร้านชาบู หม้อไฟหม่าล่า

จาก 10 แบรนด์ในเครือ มีสาขาในประเทศจำนวน 18 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศจำนวน 3 สาขา ในประเทศกัมพูชา 2 สาขาและเวียดนาม 1 สาขาและล่าสุดกับร้านชาบูกับการเปิดสแตนด์อะโลนครั้งแรกที่สาขาอารีย์ ใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท โดยจะเปิดในเดือนมกราคมนี้

“ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีการวิเคราะห์เทรนด์ และพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งทุกวันนี้เทรนด์การกินข้าวคนเดียวนั้นถือว่ามาแรกเป็นอย่างมากในธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากช่วงโควิด 19 ทำให้ผู้บริโภคนิยมทานคนเดียว ประกอบชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ยูซุ กรุ๊ปต้องปรับตัวตาม ด้วยการเพิ่มที่นั่งสำหรับกลุ่มนี้โดยเฉพาะ”

นายปรมินทร์ กล่าวอีกว่า ทิศทางและแผนงานในอนาคต 3-5 ปีจะมีการเปิดร้านไปที่หัวเมืองใหญ่ และแบ่งไปทำการตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น คิดเป็น 5% ต่อปี รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 โดยจะมีแผนเปิดร้านในหลายๆ สัญชาติ เพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น สำหรับผลประกอบการในปี 2565 ของ YUZU GROUP มีรายได้รวม 426.8 ล้านบาท คิดเป็นกำไรทั้งสิ้น 80.2 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2566 คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาทเติบโตกว่า 20%

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,955 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2567