KEY
POINTS
สนามรบตลาดค้าส่งคึกคักตั้งแต่ต้นปี 2567 เมื่อ “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” พลิกโฉม “แม็คโคร” สาขาบางบอนในรอบกว่า 30 ปี เจาะกลุ่มลูกค้าโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก สอดคล้องกับแผนงานที่เคยประกาศใช้งบลงทุนรวม 13,100-14,100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า และเปิดสาขาใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วน “เซ็นทรัล รีเทล” เปิดตัว “GO Wholesale” สาขาพระราม 2 เป็นสาขา 5 และเตรียมเพิ่มอีก ตามแผนขยายสาขา 50 แห่ง ภายใน 5 ปี ด้วยงบประมาณ 1.9 หมื่นล้าน เรียกได้ว่าท้าชนกันอย่างดุเดือด
"ฝั่งธนบุรี" ถือเป็นย่านการค้าสำคัญ มีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ทั้งศูนย์การค้า แหล่งช้อปปิ้ง และโครงการคอนโดมิเนียม พร้อมโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ขยายจากฝั่งกรุงเทพฯ เชื่อมไปถึง ไม่ว่าจะเป็นสายสีนํ้าเงินช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ สายสีทองจากสถานีกรุงธนบุรี-ไอคอนสยาม มีศักยภาพสามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้คนได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ประชากรในพื้นที่ยังเป็นกลุ่มครอบครัวใหญ่ มีรายได้และกำลังซื้อสูง จึงไม่น่าแปลกหากจะเห็น “แม็คโคร”และ “GO Wholesale” ขยายสาขามาสู้ศึกกันอยู่ในฝั่งธนฯ
เริ่มที่ “แม็คโคร” นำทัพโดย “เสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์” ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ปักธงให้ แม็คโคร สาขาบางบอน เป็น Destination ของค้าส่งรูปแบบใหม่ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ผู้ประกอบการและผู้บริโภคย่านฝั่งธนฯ ด้วยการนำสื่อดิจิทัลมาปรับรูปลักษณ์ให้บรรยากาศทันสมัย ทั้งนำจุดเด่นของสินค้าและบริการเข้ามาเสริมให้ตอบโจทย์ลูกค้า จำหน่ายอาหารสดรูปแบบใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ครบครันด้วยสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 2 หมื่นรายการ รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายในกลุ่มสินค้าอุปโภค (non-food) เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ยังจัดแคมเปญโปรโมชัน “โปรแรงถูกจริง” กับสินค้ายอดนิยม และพบกับซีพี อูโอริกิ ที่ยกตลาดปลาสดส่งตรงจากญี่ปุ่น มาพร้อมกับการโชว์แล่ปลาทูน่ายักษ์สุดอลังการจากเชฟชื่อดังแดนปลาดิบ เปิดประสบการณ์ใหม่กับเคาน์เตอร์ชีส เนื้อคุณภาพจากออสเตรเลีย สินค้าใหม่จากเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อย่างสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับสมาชิก 500 คนแรก ที่จะได้บัตรชมภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์พร้อมป๊อปคอร์นคอมโบ เซ็ท 1 ชุด ฟรี เมื่อซื้อสินค้าที่แม็คโคร บางบอน มูลค่า 2,500 บาทขึ้นไป
หากย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา “เสาวลักษณ์" เคยบอกไว้ว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) ผสานช่องทางขายออนไลน์และออฟไลน์ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อออกแบบแคมเปญให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มโอกาสขายสินค้าแก่เอสเอ็มอี เปิดตัวแอปพลิเคชัน Makro PRO ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม “สั่ง-ขาย-คุ้ม อย่างโปรในแอปเดียว” ด้วยการผสานเทคโนโลยีกับเครือข่ายสาขาของแม็คโครที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อทำค้าปลีกแบบออมนิชาแนล (Omni-channel Retail)
และจะลงทุนปรับพื้นที่ในสาขาที่มีศักยภาพกว่า 100 สาขา เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าขนาดย่อย รองรับการแพ็กสินค้าและจัดส่งแก่ลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งยอดขายสาขาเดิมเติบโตได้ดี
แน่นอนว่า "ฝั่งธน" คือตลาดที่แม็คโครครอบครองมาก่อน การจะก้าวเข้าไปชิงฐานลูกค้าเดิม ต้องมีการวางยุทธศาสตร์ที่แยบยล และต้องมั่นใจ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้ "GO Wholesale" ถือกำเนิดได้อย่างรวดเร็วคือ การมีทำเลที่ดี และนำเสนอให้ GO Wholesale เป็น "ทางเลือกใหม่"
ซึ่ง "สุชาดา อิทธิจารุกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล บอกว่า ตลาดค้าส่งใหญ่มากพอและสามารถเติบโตได้อีกมาก เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ยังเชื่อมั่นในผู้บริโภค การเปิดตัว GO Wholesale สาขาพระราม 2 อย่างเป็นทางการในปี 2567 ถือเป็นสาขาลำดับที่ 5 ถัดจาก 4 สาขาแรกที่ ศรีนครินทร์, เชียงใหม่, อมตะ ชลบุรี และพัทยาใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นร้านอาหาร ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร
สำหรับ GO Wholesale สาขาพระราม 2 ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1.5 หมื่นตารางเมตร ครอบคลุมลูกค้าขนาดใหญ่ จากทั้งเขตบางแค ย่านเพชรเกษม และห่างจากสมุทรสาครเพียง 20 กิโลเมตร สามารถส่งสินค้าถึงมือลูกค้าและ O2O (Online to Offline) ได้รอบด้าน จากสินค้ามากกว่า 2 หมื่นรายการ ภายในแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ ประกอบด้วย
โซนเอ ครบเครื่องเรื่องเครื่องดื่มและวัตถุดิบสำหรับธุรกิจเครื่องดื่ม, ขนมขบเคี้ยว, เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด รวมทั้ง Beverage Solution มุมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่ม
โซนบี สำหรับบรรจุภัณฑ์ ภาชนะ, อุปกรณ์ห้องครัว, สินค้าอุปโภคบริโภค, แหล่งรวมอาหารแช่แข็งขนาดใหญ่, เนย,นม,ชีส
โซนซี แผนกอาหารสดขนาดใหญ่, โซนอาหารทะเล, ผักผลไม้, เนื้อสัตว์, เครื่องเทศและวัตถุดิบนานาชาติ และ Go fe'
นอกจากนี้ภายในสาขายังมีแปลงสาธิตผักไฮโดรโปรนิกส์ ที่พัฒนาร่วมกับ AIS เป็นสมาร์ทฟาร์ม นำผลผลิตมาจำหน่ายในสาขาด้วย และมีเมนูอาหารที่เป็นสูตรเฉพาะ อาทิ ไก่ย่าง หมูปิ้ง และซี่โครงหมูย่าง เป็นไฮไลท์
“GO Wholesale เป็นศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารเพื่อผู้ประกอบการ สาขาพระราม 2 เป็นหนึ่งในสาขาที่ใหญ่มาก ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดี จากเดิมเป็นสาขาที่มีพื้นที่อยู่แล้วเมื่อมาปรับปรุงก็ใช้งบประมาณราว 100 ล้านบาท และยังสามารถเพิ่มสินค้าเข้ามาได้มากขึ้น”
“สุชาดา” บอกว่า หลังจากนี้จะเดินเครื่องเปิด GO Wholesale สาขาใหม่เพิ่มอีก 7 แห่ง ซึ่งจะเปิดได้อย่างแน่นอนภายในปี 2567 ด้วยงบลงทุน 2,500-3,000 ล้านบาท โดยสาขาที่ 6 คือสาขารังสิต มีพื้นที่ขนาดใหญ่ไม่แพ้สาขาพระราม 2 และมีพื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านอาหาร รวมแล้วในกรุงเทพฯ จะมีอยู่ 3 สาขา ส่วนอีก 4 สาขาอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
ทุกอย่างยังคงเดินตามแผน 50 สาขา ภายใน 5 ปี เน้นการเลือกทำเลศักยภาพ หัวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้าปลีกในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเน้นย้ำและเพิ่มน้ำหนักกลยุทธ์ การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยสินค้าและบริการหลากหลาย เพื่อตอบทุกความต้องการของผู้ประกอบการ พร้อมผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ทั้งแคมเปญและโปรชั่นอย่างต่อเนื่อง