นางวรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า ในปี 2567 เมกาบางนาตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเน้นไปที่ COMMUNITY เฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยเพิ่มกิจกรรมที่รองรับกลุ่ม YOUNGER CUSTOMERS, PET LOVER และ AGING SOCIETY ไปจนถึงผู้บริโภคในตัวเมือง
โดยเตรียมงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท ยกระดับสมาชิก เมกา สไมล์ รีวอร์ดส รวมทั้งพัฒนาทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน, เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์, ยูทูป, LINE OA และเจาะกลุ่ม YOUNG GENERATION ด้วยการเปิดโซเชียลมีเดียสุดฮอตอย่าง TIKTOK
เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าและกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายใหม่ๆ เสิร์ฟประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว อีกทั้งเมกาบางนายังได้ร่วมมือกับศิลปินแนวครีเอทีฟอาร์ตในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตื่นตาตื่นใจในแต่ละเทศกาลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
โดยแนวคิดในการทำตลาด ยังคงตอกย้ำแนวคิดและวิสัยทัศน์ YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม จึงให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าที่ใช้บริการภายในศูนย์ฯ เพื่อนำมาดีไซน์กิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง และสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ ‘ถูกใจ’ และ ‘ตรงใจ’ มากยิ่งขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับผู้เช่าเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับแค่ที่สาขาเมกาบางนาเท่านั้น
“ในปีที่ผ่านมาเราจัดอีเว้นต์รวม 13 อีเว้นต์ โดยเป็นซิกเนเจอร์อีเว้นต์ 5 งานส่วนที่เหลือเป็นอีเว้นต์ตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งทุกอีเว้นต์ล้วนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ในปีนี้บริษัทจะยังคงเดินหน้าจัดอีเว้นต์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะซิกเนเจอร์อีเว้นต์ ที่ลูกค้าต่างรอคอย”
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาถือว่าเมกาบางนาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยพบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวน 53 ล้านคน/ครั้ง สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยเฉลี่ย 1.2 แสนคนต่อวันในวันธรรมดา และ 2.2 แสนคนต่อวันในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 คิดเป็น 10% โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 10%
ขณะที่การใช้จ่ายของลูกค้าพบว่าในปีที่ผ่านมา พบว่า มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 4,500 บาทต่อคนต่อบิลขึ้นไป โดย 81% ลูกค้ามาเพื่อรับประทานอาหาร, 32% สำหรับการช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์ และ 23% มาซื้อของตกแต่งบ้าน และในกลุ่มนี้ 53% เป็นกลุ่มครอบครัว และ 78% ใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางมาที่เมกาบางนา
“วันนี้เมกาบางนาเข้าใจลูกค้าผู้ใช้บริการอย่างลึกซึ้งมากขึ้น และเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั้งที่มาจาก CATCHMENT AREA และลูกค้าที่เป็น BRAND LOVER รวมถึงผู้ที่สนใจมาเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดของศูนย์ฯ”
ปัจจุบัน “เมกา สไมล์ รีวอร์ดส์” มีสมาชิกมากกว่า 3.6 แสนคน มียอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จอยู่ที่ 4,500 บาทขึ้นไป และมีอัตราการใช้งาน (ACTIVE MEMBER) อยู่ที่ 35% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป ขณะที่ เมกา สไมล์ คิดส์ มอบสิทธิประโยชน์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี มีสมาชิกกว่า 1.2 หมื่นคน
โดยสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส นอกจากจะได้สะสมแต้มและแลกของรางวัลแล้ว ยังใช้สิทธิ์จองที่จอดรถออนไลน์ภายในศูนย์ฯ, บริการรับจอดรถ (E-VALET) และบริการจองรถเข็นวีลแชร์ (WHEEL CHAIR) ทั้งหมดนี้สามารถจองผ่านทางแอปพลิเคชันเมกาบางนา ซึ่งบริการเหล่านี้เกิดจากการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดในทุกๆ ครั้งที่มาใช้บริการที่เมกาบางนาด้วย