เบอร์เกอร์คิงรุก ปั้นเมนู “เบอร์เกอร์หมูกะทะ”ชิงแชร์ตลาด QSR

นายเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director และ คุณชนินทร์ นาคะรัตนากร Senior Digital Marketing Manager บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในปี 2567 เบอร์เกอร์คิง ยังคงตั้งเป้ามุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำตลาดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนแนวหน้าของประเทศ (QSR) ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคครอบคลุม ซึ่งไฮไลท์ของปีนี้เน้นการทำตลาดเพื่อเจาะฐานผู้บริโภคคนไทย ผ่านกลยุทธ์การตลาด “เบอร์เกอร์คิง ไทย ซีรีส์”

สู้ตลาดด้วยแคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้”

ธุรกิจ QSR เป็นตลาดใหญ่มูลค่ากว่า 9.5 พันล้าน ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์บิ๊กเนมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เบอร์เกอร์คิงเองก็เช่นเดียวกัน การทำตลาดในประเทศไทยถือมีความท้าทายมากมาย เจ้าตลาดอย่าง KFC เป็นแบรนด์ที่มีคนจดจำ (Brand Awareness) มีสัดส่วนกว่า 90% รองลงมาคือแมคโดนัลด์ 70% และเบอร์เกอร์คิง 50% สมรภูมิธุรกิจอาหารคือการชิงพื้นที่กระเพาะของคนไทย บิ๊กเนมจึงเลือกการใช้อาหารประจำท้องถิ่น (Local Food) เพื่อดึงดูดลูกค้า

การส่งแคมเปญใหม่ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้”  ที่เน้นนำเสนอเมนูรสชาติถูกปากคนไทย ของเบอร์เกอร์คิงมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 66 มีการเปิดตัวไก่ทอดหาดใหญ่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนปัจจุบันได้เป็นเมนูประจำ สำหรับกลยุทธ์ไทยซีรีส์ของเบอร์เกอร์คิงที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอเมนูรสชาติถูกปากคนไทยอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าจะเป็น เมนูโจ๊ก เมนูไก่ทอดหาดใหญ่ หรือเมนูของหวานอย่างพายขนมครก โดยครั้งนี้นอกจากการนำเสนอเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ ยังได้ต่อยอดเมนูสุดฮิต ไก่ทอดหาดใหญ่โคตรหอมเจียว

ทำให้แบรนด์มองเห็นโอกาสจากอินไซต์ของคนไทย สู่การนำเสนอเมนุใหม่อย่าง “เบอร์เกอร์หมูกะทะ” จากการสำรวจพบว่าคนไทยชื่นชอบการกินหมูกระทะ กินหมูกระทะใน 1 เดือนถึง 4 ครั้งต่อคนจึงเกิดเป็นการต่อยอดเมนูใหม่โดยนำหมูกระทะมาอยู่ในรูปแบบเบอร์เกอร์

ซิงเกิ้ล หมูกระทะ เบอร์เกอร์ ราคา 89 บาท และดับเบิ้ล หมูกระทะ เบอร์เกอร์ ราคา 149 บาท ที่จะมาตอบโจทย์ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษข้าวหมูย่างซอสหมูกระทะ ที่มาในราคาเพียง 79 บาท เพื่อเป็นเมนูทางเลือกเพิ่มเติม รวมถึงเตรียมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ หลากหลายรูปแบบให้ผู้บริโภคเพื่อสร้างการจดจำ โดยเมนูดังกล่าวเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2567 จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ร้านเบอร์เกอร์คิงทุกสาขา (ยกเว้นสาขาท่าอากาศยานและสาขาท่องเที่ยว)

ควบคู่กับการทำกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ผ่านสื่อหลากรูปแบบในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา อาทิ การเปิดตัวเสื้อสงกรานต์ที่นำไก่ทอดหาดใหญ่มาเรียงร้อยในรูปแบบของเสื้อลายดอก การทำสื่อเต้นท์การ์ดให้กับร้านอาหารท้องถิ่นที่หยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ การเปิดตัวรถกุ๊กกุ๊กไก่ทอดหาดใหญ่ที่ช่วยสร้างการรับรู้

และกระตุ้นความสนใจจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายท้องถิ่นได้อย่างกว้างขวาง และการมอบส่วนลดในเมนูไก่ทอดหาดใหญ่สำหรับผู้ที่เดินทางโดยสารสายการบินทั้งในและต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาอีกด้วย “จากการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้" ทำให้เบอร์เกอร์คิงมีฐานผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 10% จำนวนการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งแคมเปญนี้จะเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่จะมาช่วยต่อยอดขยายฐานผู้บริโภค ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 สามารถขยายฐานผู้บริโภคคนไทย 25% ใน

“ปัจจุบันเบอร์เกอร์คิงมีสาขาทั้งหมด 123 ซึ่งมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เน้นสาขาสแตนอโลนและสาขาตามคอมมูนิตี้มอลล์เป็นหลักเพื่อขยายฐานลูกค้าไม่ยังเขตชายเมือง มองว่าในอนาคตการขยายสาขาไปในต่างจังหวัดเป็นแผนที่เบอร์เกอร์คิงมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อการขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด QSR” นายเจริญชัย กล่าวทิ้งท้าย