PTG ปั้น “ซับเวย์” ขึ้นแท่น TOP 3 ตลาด QSR ใน 3 ปี ลุยขยาย 500 สาขา

26 เม.ย. 2567 | 02:21 น.
อัปเดตล่าสุด :26 เม.ย. 2567 | 02:25 น.

PTG เปิดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ บ.ย่อย “โกลัค” ปั้น “ซับเวย์” ขึ้นแท่น TOP 3 ตลาดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ภายใน 3 ปี ตั้งเป้าขยายสาขามากกว่า 500 สาขา ทั่วประเทศใน 10 ปี

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัท โกลัค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยของ PTG ได้รับสิทธิ์ มาสเตอร์ แฟรนไชส์ ซับเวย์ ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว โดยธุรกิจ F&B เป็น 1 ใน 8 ธุรกิจหลักที่ PTG ตั้งเป้าที่จะเข้าลงทุนตามแผน Diversify Portfolio เพื่อขยายกลุ่มธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโตมากขึ้น ซึ่งในอนาคตบริษัท โกลัค จำกัด จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ รวมถึงต่อยอดและขยายธุรกิจกลุ่ม F&B ของ PTG ที่มีอยู่เดิมให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเสริม Max World ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกคนให้ได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกด้านของช่วงชีวิต

PTG ปั้น “ซับเวย์” ขึ้นแท่น TOP 3 ตลาด QSR ใน 3 ปี ลุยขยาย 500 สาขา
 

ทั้งนี้ เชื่อว่าแบรนด์อาหารระดับโลกอย่างซับเวย์ จะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจ F&B ของบริษัทฯ สร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับลูกค้าทั้งภายในและภายนอกสถานีบริการ รวมถึงกลุ่มสมาชิก PT Max Card กว่า 21 ล้านสมาชิกให้สามารถเข้าถึงชีวิตที่อยู่ดีมีสุขในทุกช่วงของชีวิต ซึ่งเป็นการต่อยอดประสิทธิภาพของระบบนิเวศทางธุรกิจของ PTG (Max World Ecosystem) และแบรนด์ PTG ได้เป็นอย่างดี  

“เรามองเห็นถึงความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้นต่อซับเวย์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาทางเลือกด้านสุขภาพ สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัวที่สุด โดยเชื่อว่า Subway จะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจ F&B ของบริษัทฯ และสามารถสร้างการเติบโตร่วมกันในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน” คุณพิทักษ์ กล่าว

ด้านคุณเพชรัตน์ อุทัยสาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลัค จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวเป็นผู้ดำเนินการ “มาสเตอร์ แฟรนไชส์ ซับเวย์” ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว เรายังคงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ เป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับคนรักสุขภาพในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR)  และคงไว้ซึ่งแบรนด์ที่อยู่ในใจของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัวที่สุด และมีจุดยืนในเรื่องของการเป็น Healthy Choice ให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่อร่อย เสิร์ฟ สด ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eat Fresh, Feel Good”  ซึ่งร้านซับเวย์เป็น QSR เดียว ที่อบขนมปัง สด ใหม่ ในร้านทุกวัน โดยนำเข้าจากต่างประเทศ มีให้เลือกมากถึง 5 ชนิด รวมถึงขนมปังโฮลวีต มีเนื้อสัตว์หลากหลาย เช่น ทูน่า ไก่ เนื้อ ที่ไม่ผ่านการแปรรูป พร้อมผักสดหลากหลายชนิด มีซอสให้เลือกมากถึง 12 แบบ โดยลูกค้าสามารถเลือกทานได้ทั้งในรูปแบบ แซนวิช แรป หรือสลัด พร้อมคุกกี้ 4 รสชาติ

PTG ปั้น “ซับเวย์” ขึ้นแท่น TOP 3 ตลาด QSR ใน 3 ปี ลุยขยาย 500 สาขา

จากการวิจัยพบว่า การสั่งซับเวย์ค่อนข้างซับซ้อน และใช้เวลาค่อนข้างนานทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าสั่ง เราจึงเน้นให้ลูกค้าสั่งเมนูยอดนิยม อร่อยตามสูตรของซับเวย์โดยไม่ต้องเลือก เช่น แซนวิชทูน่า, ไก่เทอริยากิ, สเต็ก แอนด์ ชีส และอื่น ๆ อย่างไรก็ตามลูกค้าที่ต้องการ DIY ยังสามารถเลือกเมนูได้ตามใจชอบเช่นเดิม

นอกจากนี้ทางเราจะมุ่งเน้นในเรื่อง Value Campaign เพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มการกลับมาซื้อซ้ำ โดยมีการนำเสนอขาย combo เป็นชุด รวมทั้งโปรโมชั่นต่าง ๆ เพิ่มความหลากหลายของเมนู Snack และ Finger Food

ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารของ “โกลัค” สาขาที่เปิดใหม่จะถูกตกแต่งด้วยแนวคิดการออกแบบ “Fresh Forward 2.0” ของซับเวย์ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ตกแต่งด้วยแนวคิดดังกล่าว รวมทั้งการนำวัฒนธรรมไทย มาผสมผสานในการออกแบบให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้นำรูปแบบ “ไดร์ฟทรู” มาใช้ด้วยเช่นกัน โดยทางบริษัทฯ จะเปิดไดร์ฟทรูสาขาแรกในประเทศไทย ภายในสถานีบริการน้ำมันเรือธงของ PT ที่นครชัยศรี ภายในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในปัจจุบัน และยังคงมุ่งเน้นทำเลที่สะดวกเข้าถึงง่าย และมองเห็นเด่นชัด

ปัจจุบันซับเวย์มีสาขาทั้งหมด 148 สาขา  ทางบริษัทฯ มีแผนขยายสาขาอีกมากกว่า 500 สาขาภายใน 10 ปี ทั้งในกรุงเทพ และปริมณฑล แหล่งท่องเที่ยว รวมไปถึงหัวเมืองหลักทั่วประเทศ โดยเน้นที่ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ออฟฟิศ สนามบิน โรงพยาบาล รวมไปถึงรูปแบบ Stand Alone เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และสร้างการเข้าถึงร้านซับเวย์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ วัยรุ่น คนทำงาน และกลุ่มครอบครัว    

เรามีความมุ่งมั่นในการเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าผ่านการขยายสาขา เพิ่มช่องทาง Online, Mobile Application, Self-Ordering Kiosk, QR Ordering, Order and Pick Up, E Wallet และ CRM ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ  โดยการใช้ Max World Ecosystem ที่แข็งแกร่งของ PTG ในเรื่องจำนวนสาขา และจำนวนสมาชิก ถือเป็นกำลังหลักในการทำให้เราได้รู้จักลูกค้ามากขึ้น รวดเร็วขึ้น ผ่านระบบ CRM จากฐานลูกค้าผ่านสมาชิกบัตร PT Max Card ที่มีมากกว่า 21 ล้านสมาชิก