เมเจอร์ทุ่ม 1 พันล้าน ปั้น "Green Cinema" 300 โรง ฉายหนังด้วย Laser Projector

04 มิ.ย. 2567 | 12:58 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2567 | 13:22 น.

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กางแผน 5 ปี ก้าวเต็มขั้น “โรงหนังรักษ์โลก GREEN CINEMA” ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท เปลี่ยนเครื่องฉายหนังเป็น “Laser Projector” ทุกโรง ทุกสาขา ปักธง Green เปลี่ยนเครื่องฉายครบ 300 โรง ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายนนี้

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ก้าวเต็มขั้น “โรงหนังรักษ์โลก Green Cinema” ตั้งเป้าเปลี่ยนเครื่องฉายเป็นระบบ Laser Projector ครบทุกโรง ทุกสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2568-2572 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ปักธง Green เปลี่ยนเครื่องฉายระบบ Laser Projector ได้ครบ 300 โรง ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2567 ช่วยลดขยะจากการใช้หลอดไฟ Xenon ได้ถึง 1,200 หลอดต่อปี ลดการใช้ไฟฟ้าลง 3.71 ล้าน Kwh/ปี และที่สำคัญช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.80 ล้าน Kg Carbon รวมทั้งทำให้ลูกค้าที่ได้สัมผัสการดูหนังในโรง Laser Projector ได้รับอรรถรสจากการดูหนังที่สมจริงด้วยภาพที่คมชัดและสว่างมากกว่าเครื่องฉายระบบอื่น

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตั้งเป้าหมายที่จะเป็น “โรงหนังรักษ์โลก หรือ Green Cinema” อย่างเต็มรูปแบบ โดยปัจจุบันได้เปลี่ยนขั้นตอนการส่งสื่อภาพยนตร์จากระบบขนส่งโดยยานพาหนะ เป็นการส่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G ของเอไอเอส ส่งตรงไปยังโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทุกสาขา เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป้าหมายภายใน 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2568-2572 จะเปลี่ยนระบบเครื่องฉายหนังทุกโรง ทุกสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นระบบ Laser Projector ครบ 100% ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

เมเจอร์ทุ่ม 1 พันล้าน ปั้น \"Green Cinema\" 300 โรง ฉายหนังด้วย Laser Projector

เครื่องฉายระบบ Laser Projector เป็นระบบเครื่องฉายหนังที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดขยะจากระบบการฉายแบบเดิมที่ต้องใช้หลอดไฟซีนอน อีกทั้ง ยังช่วยลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้า และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะสัมผัสความพิเศษของเครื่องฉายระบบ Laser Projector ได้โดยตรงจากการดูหนังในโรง Laser จะให้อรรถรสอารมณ์ความรู้สึกถึงความสมจริงจากภาพที่คมชัดยิ่งกว่าและแสงที่สว่างมากกว่าระบบการฉายอื่น ๆ เนื่องจากแหล่งกำเนิดแสงเป็นแสง Laser มีความแม่นยำของสีที่เหนือกว่า ทำให้ได้ภาพที่สดใสและสมจริงมากกว่าเมื่อเทียบกับ Xenon Projector แบบเดิม และยังรักษาความสว่างและประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอตลอดอายุการใช้งาน

นรุตม์ กล่าวว่า บริษัทฯ เป็น “โรงหนังรักษ์โลก” ที่พยายามช่วยลดภาระและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายนนี้ บริษัทฯ ได้เปลี่ยนระบบเครื่องฉายหนังเป็นระบบ Laser Projector ครบ 300 โรง    ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยมีโรงภาพยนตร์ 32 สาขาที่เป็นโรงภาพยนตร์ที่ใช้เครื่องฉายระบบ Laser Projector ครบทุกโรง อาทิ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ไอคอน ซีเนคอนิค, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิทและรัชโยธิน, อีสต์วิลล์        ซีนีเพล็กซ์, เมกา บางนา, บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ 

เมเจอร์ทุ่ม 1 พันล้าน ปั้น \"Green Cinema\" 300 โรง ฉายหนังด้วย Laser Projector

สำหรับการเปลี่ยนเครื่องฉายหนังเป็นระบบ Laser Projector ครบ 300 โรง กับ Major Go Green with 300 LASER PROJECTORS สามารถลดขยะและลดภาระให้กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน ดังนี้

  • ลดการใช้หลอดไฟ Xenon ได้ 1,200 หลอดต่อปี
  • ลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 3.71 ล้าน Kwh/ปี เมื่อเทียบกับการใช้เครื่องฉายแบบ Xenon Lamp
  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.80 Kg Carbon

อย่างไรก็ตาม เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เป็นโรงภาพยนตร์ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้เริ่มเปลี่ยนระบบการฉายหนังจากระบบ Digital มาเป็นระบบ Laser Projector ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดขยะจากการใช้หลอดไฟ Xenon ได้มากถึง 5,952 หลอด, ลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 18.40 ล้าน Kwh และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 8.92 Kg Carbon