นายโชติ เชษฐโชติศักดิ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดอาหารและเครื่องดื่มยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นร้านแฮงก์เอาต์ที่มีแนวโน้มเติบโตควบคู่กับภาคการท่องเที่ยว ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักการสังสรรค์ร่วมกับเพื่อนฝูง
ด้านธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยก็ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง สะท้อนจากจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นประเทศไทยที่มีมากเป็นอันดับ 6 ของโลก ประกอบกับ OKONOMI เองเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เหมาะกับกลุ่มคนรักสุขภาพ สอดรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน สำหรับธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน Mom’s Touch ก็เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดจากประเทศเกาหลี สามารถโตไปกับเทรนด์อาหารเกาหลีที่กำลังอยู่ในกระแส ในขณะเดียวกัน GIFT ก็มุ่งดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน โดยเน้นที่ธุรกิจที่มีมาร์จินสูง พร้อมกับศักยภาพที่จะปรับตัวให้เท่าทันทุก Disruption ไปจนถึงสามารถ Scale Up และเติบโตได้ในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ GIFT Hospitality ภายใต้ GIFT จึงตัดสินใจลงทุนในร้านอาหารและสถานที่แฮงก์เอาต์ต่างๆ ที่มีศักยภาพสูง
หลังจากได้รับการอนุมัติจากประชุมคณะกรรมการบริษัท GIFT ได้เดินหน้าเข้าซื้อร้านอาหารและสถานที่แฮงก์เอาต์ต่างๆ ภายใต้ 3 สายธุรกิจ ได้แก่
ร้านอาหารต่างๆ ที่บริษัทฯ เข้าซื้อล้วนมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่โดดเด่น ด้วยคุณภาพและประเภทอาหารที่หลากหลาย รวมถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ใน Prime Location เข้าถึงง่ายทั้งสำหรับผู้บริโภคทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งยังมีศักยภาพในการขยายสู่แบรนด์ใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอได้อีกในอนาคต
โดยหลังจากที่ร้านอาหารเหล่านี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ GIFT อย่างเป็นทางการ เราจะเดินหน้าขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในหลากหลายเซ็กเมนต์ โดย OKONOMI จะมุ่งเน้นการขยายร้านในรูปแบบ Café Module ซึ่งใช้เงินลงทุนต่ำ ทำให้สามารถขยายได้รวดเร็ว ด้านร้านแฮงก์เอาต์ภายใต้ BEAMX จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน Mom’s Touch จะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจ Food & Beverage ได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 พร้อมสร้างการเติบโตให้กับ GIFT ตามแผนได้ทันที” คุณโชติ กล่าวสรุป