“เบ็ตเตอร์บีฯ” รุกภูธร ดึง SME ขนสินค้าวางขายผ่านออนไลน์

24 ก.ค. 2567 | 11:08 น.
อัพเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2567 | 11:13 น.

“เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส” ปรับแผนรุกภูธร เปิดทางผู้ประกอบการ SME ชุมชนงานคราฟท์ 8 จังหวัด นำสินค้าวางขายผ่าน “น็อคน็อค” หวังเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น

นายอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด ผู้บริหาร “น็อคน็อค” ศูนย์รวมสินค้าและบริการเกี่ยวบ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ กล่าวว่า กลยุทธ์การทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมดึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ผลิตสินค้าชุมชนงานคราฟท์ เข้ามาจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับร้านมาร์เก็ตเพลสของน็อคน็อค และยังช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในแต่ละท้องถิ่น

อนุพงศ์ ทะสดวก

ทั้งนี้บริษัทเริ่มขยายตลาดในต่างจังหวัด โดยสร้างการรับรู้ผ่านการใช้สื่อท้องถิ่น และสร้างคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่นซึ่งปัจจุบันขยายไปแล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ชลบุรี พร้อมกับปรับการจำหน่ายสินค้าเน้นกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น เป้าหมายของเราคือ ต้องการกระจายความเสี่ยง หลังจากที่พบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะไม่เติบโต จึงมุ่งขยายฐานลูกค้า รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

“เรามีแผนร่วมกับชุมชนในการสร้างแบรนด์สินค้า และเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าในท้องถิ่น  โดยมีทีมออกแบบเข้าไปช่วยแนะนำไอเดีย แนวคิดดีไซน์ใหม่ๆที่ทันสมัย เพื่อใช้ประกอบกับวัสดุที่มีในชุมชน จากปัจจุบันที่มีชุมชนนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายแล้ว 100 ร้านค้า จากทั้งหมด 6,000 ร้านค้า สินค้าทั้งหมด 7 แสนรายการ”

“เบ็ตเตอร์บีฯ”  รุกภูธร ดึง SME ขนสินค้าวางขายผ่านออนไลน์

ล่าสุดบริษัทได้จัดงานบ้านและไลฟ์สไตล์ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง “NocNoc Fair 2024”  สร้างประสบการณ์เรื่องบ้านออนไลน์และออฟไลน์สุดครีเอทให้เชื่อมต่อกันทุกมิติตั้งแต่ Idea  และสินค้าตกแต่งบ้านลดสูงสุด 85% ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.ค. นี้ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้ยีงมีแผนจัดโรดโชว์ที่จังหวัดขอนแก่น ในเดือนกันยายน และจังหวัดชลบุรีในเดือนตุลาคมนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสินค้าที่ได้รับความนิยมในน็อคน็อค ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ มียอดขายราว 40% เครื่องใช้ไฟฟ้า 30% ส่วนที่เหลือเป็นสินค้าปรับปรุงบ้าน และกลุ่มลีฟวิ่งแอนด์ไลฟ์สไตล์ อาทิ สินค้าแม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง ธุรกิจกาแฟ ผู้สูงอายุ และฟิตเนส โดยมียอดซื้อเฉลี่ย 1.5 หมื่นบาทต่อครั้ง เช่นเดียวกับปีก่อน ทำให้ในปีนี้บริษัท ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเติบโต 40% จากปีก่อนที่มียอดขาย 4,000 ล้านบาท