นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า DITP ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางเจรจาธุรกิจและเครือข่ายทางการค้า เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศให้กับผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทย เห็นได้จากในปีนี้ DITP มีการดำเนินโครงการส่งเสริมดิจิทัลคอนเทนต์สู่ตลาดโลก 18 โครงการ สร้างมูลค่าแล้วมากกว่า 12,000 ล้านบาท
ซึ่งการจัดงานในวันนี้ สอดคล้องกับนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการใช้พลังสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม หรือ “ซอฟต์พาวเวอร์” ขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น Hub ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ เป็นผู้นำด้าน IP ของเอเชีย ผลักดันให้ไทยเป็นแหล่ง Outsource งานระดับสูง และเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต
สำหรับงาน BIDC 2024 กรมยังคงสานต่อการสนับสนุนกิจกรรมเจรจาการค้า (Business Matching) และสร้างเครือข่ายธุรกิจ (Business Networking) ที่จัดขึ้นในวันที่ 5 – 7 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับพันธมิตรธุรกิจจากทั่วโลก โดยปีนี้มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 73 บริษัท และผู้ประกอบการเป้าหมายจากต่างประเทศจำนวน 42 บริษัท จาก 10 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 110 บริษัทมากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา
และมีนัดหมายเจรจาการค้าแล้วมากกว่า 540 คู่ คาดว่าสร้างมูลค่าได้มากกว่า 800 ล้านบาทอย่างแน่นอน นอกจากนี้ กรมยังต่อยอดนำคณะผู้ประกอบการต่างชาติเยี่ยมชมบริษัทดิจิทัลคอนเทนต์ชั้นนำของไทย เพื่อแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยอีกด้วย
นางหริสุดา บุญยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนต์ และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB) กล่าวว่า TCEB ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีพันธกิจในการพัฒนาและยกระดับงานเทศกาลนานาชาติของไทยให้เติบโตในระดับนานาชาติ มุ่งหวังให้งานเทศกาลนี้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการรวมตัวและต่อยอดธุรกิจของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ให้เป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งงาน BIDC 2024 สอดคล้องกับพันธกิจของ TCEB ในการพัฒนาและยกระดับงานเทศกาลนานาชาติของไทยให้เติบโตในระดับนานาชาติ จึงได้มีการสนับสนุนการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรก จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 11 ปี ทั้งนี้ TCEB ยังได้จัดทำการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดงานพบว่า งาน BIDC ได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อรายได้ประชาชาติ (GDP) มีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 240 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานกว่า 11,000 ตำแหน่ง ยิ่งไปกว่านั้นงาน BIDC ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของคนไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ตามเจตนารมณ์ของผู้จัดงาน และสอดรับกับนโยบาย Soft Power ที่จะผลักดันให้ดิจิทัลคอนเทนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ มีการประเมินว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ จะสามารถเติบโตต่อเนื่อง โดยมูลค่ารวมจะขยายตัวไปถึง 44,983 ล้านบาท ภายในปี 2568 และในปีนี้ ดีป้าก็มีโครงการที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ โดยเฉพาะเกม และอีสปอร์ต ซึ่งได้รับความสนใจจากนักพัฒนาเกมไทยเป็นอย่างมาก
เห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในอนาคต ดีป้าตั้งจุดมุ่งหมายไว้ว่างาน BIDC 2024 จะยังคงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ทั้งด้านเกม แอนิเมชัน CG VFX คาแรคเตอร์ อีเลิร์นนิ่ง ผ่านทางกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการประกาศรางวัล Global Achievement Awards 3 สาขา โดยกรรมการสมาคมหรือสมาชิกสมาคมฯ ด้านดิจิทัลคอนเทนต์
ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกรายชื่อที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงบุคคลหรือนิติบุคคลที่สร้างชื่อเสียงในวงการดิจิทัลคอนเทนต์ ผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยไปสู่ระดับโลก โดยขอแสดงความยินดีผู้ได้รับรางวัลในสาขา Game ได้แก่ คุณเนนิน อนันต์บัญชาชัย สาขา Animation ได้แก่ คุณอัจฉรา กิจกัญจนาสน์ สาขา Visual Effect ได้แก่ The Monk Studios
ด้านผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) โดย นายอิศรา เปี่ยมพงศ์สานต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมเครือข่ายอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กล่าวว่า ในงาน BIDC 2024 ทาง CEA ร่วมผลักดันการพัฒนาผลงานของแรงงานสร้างสรรค์ และเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการในการเชื่อมโยง การผลิตผลงานคุณภาพ ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน
และในปี 2567 CEA มีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์กลุ่ม Creative Content มุ่งยกระดับทักษะ และพัฒนาขีดความสามารถที่จำเป็น พร้อมทั้งส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงตลาดงาน ผ่านกิจกรรมการนำเสนอผลงาน การเจรจาธุรกิจ และการสร้างเครือข่าย โดยในปีนี้ ได้มีกิจกรรมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่บุคลากรสายอาชีพระดับต้นในอุตสาหกรรมเกมและแอนิเมชันเพื่อการส่งออกสู่ตลาดสากล
โดยดำเนินการประกาศรางวัลด้านดิจิทัลคอนเทนต์ Rising Star Awards รวม 4 สาขา ประกอบด้วย เกม แอนิเมชัน การออกแบบคาแรกเตอร์ และ อิลลาสเตรเตอร์ หรือการวาดภาพประกอบ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ รวมถึงผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้ายในแต่ละสาขา จะมีโอกาสได้นำเสนอผลงาน และสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทยและต่างชาติชั้นนำอีกด้วย ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 สิงหาคม 2567
สำหรับ นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง ในฐานะผู้แทนภาคอุตสาหกรรมในการจัดงาน BIDC 2024 และนายกสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) กล่าวว่า ในนามผู้แทนภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ Bangkok International Digital Content Festival 2024 (BIDC 2024) ก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ในการเป็นเทศกาลด้านดิจิทัลคอนเทนต์ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังของภาคอุตสาหกรรม 5 สมาคมและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฏาคม - 8 สิงหาคม 2567
และในปีนี้ยังมีกิจกรรม Business Pitching และ Networking Session ระหว่างคณะ Rising Star Awards 12 คนสุดท้าย กับผู้ประกอบการที่มาร่วมในงาน BIDC 2024 และปิดท้ายกับกิจกรรมพิเศษในปีนี้คือ Studio Visit การนำผู้ประกอบการต่างชาติไปเยี่ยมชมสตูดิโอไทยชั้นนำ ทั้งสายเกม และแอนิเมชั่น คณะทำงานขอขอบคุณทุกการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ Bangkok International Digital Content Festival 2024 เป็นเวทีแสดงศักยภาพและความพร้อมของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยในเวทีระดับสากล