“ชฎาทิพ” กางแผนซอฟต์พาวเวอร์ ผ่าอุตสาหกรรมเฟสติวัล สร้างงาน 20 ล้านคน

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ และ กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กางยุทธศาสตร์ดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยในงานเสวนา “Soft Power โอกาสประเทศไทย”

“ซอฟต์พาวเวอร์ ทำจากสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด สิ่งที่เป็นคุณค่าให้กลายเป็นมูลค่าได้ โดยการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ในไทยมีเป้าหมาย 3 ระยะ ครอบคลุม 11 อุตสาหกรรม”

กางแผนซอฟต์พาวเวอร์ ดันอุตสาหกรรมเฟสติวัล

แผนหลักคือการผลักยุทธศาสตร์ Thailand as a Festival Country โดยการยกระดับมาตรการด้วยการยกระดับระดับงานเทศกาลชั้นนำระดับประเทศให้ก้าวสู่ World Class Event พร้อมกับทำให้อีโคซิสเท็มของภาคธุรกิจการจัดงานมีความเข้มแข็ง เพื่อให้มีงานเทศกาลระดับโลกในไทยจำนวนมาก ตั้งเป้ากระจายรายได้ สร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทย 20 ล้านคนใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ

แนวทางการยกระดับอุตสาหกรรม เน้นพัฒนาศักยภาพบุคลากรมืออาชีพ ผู้ประกอบการ และมืออาชีพอิสระ ด้านเฟสติวัลเพื่อยกระดับความคิดสร้างสรรค์และมาตรฐานของการจัดงานเฟสติวัล ผ่าน National Festival Academy โดยทำงานร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์กรมหาชน) มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ โดยเฉพาะในเรื่อง

•  Creative Content
•  Festival Design
•  Service Design
•  Influence/Ai
•  การให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์ และดารจดทะเบียนลิขสิทธิ์ IP
• ยุทธศาสตร์หลักคือการนำผู้เชี่ยวชาญไทยและระดับโลกมาให้องค์ความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่

นางชฎาทิพ ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนคุณค่าทางวัฒนธรรมให้กลายเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะจัดงานเทศกาลอวดเมืองในทุกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในชุมชน โดยเฉพาะในเมืองรอง

ภายใต้โครงการเทศกาลอวดเมือง แต่ละจังหวัดจะได้โอกาสในการนำเสนอเอกลักษณ์และความโดดเด่นของท้องถิ่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีการวางแผนที่จะจัดงานเทศกาลในรูปแบบของ "เฟสติวัล ซิตี้" ที่หมุนเวียนไปในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งและยั่งยืน