นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คอนเซ็ปต์สโตร์สาขา “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) สาขาล่าสุดในประเทศไทย นับเป็นสาขาที่ 38 ซึ่งบริษัทต้องการยกระดับรูปแบบร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ เติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งของเหล่าคนเมืองให้เป็นมากกว่าการจับจ่ายใช้สอย ครบครันในทุกมิติ ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 3,040 ตารางเมตร เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบัน ที่พร้อมให้บริการอย่างแบบเต็มรูปแบบด้วยสินค้าครอบคลุมทุกหมวดหมู่กว่า 5,000 รายการ โดยสินค้าทุกประเภทจะไม่ต่างจากสาขาหลักในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากมีสินค้ามูจิครบครันและเต็มรูปแบบ ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน (Local Community Collaboration) เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืน (Sustainability) และจะจัดกิจกรรม Community Market ตลาดนัดมูจิ ทั้งหมด 8 ร้าน เพื่อให้ร้านค้าท้องถิ่นได้เข้ามาจำหน่ายสินค้าประเภทงานศิลปะ งานคราฟท์ แฮนด์เมด และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ เพิ่มโอกาสให้ร้านค้ารายย่อย สานต่อในแนวคิดของการเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน (Sustainable Brand) ในเฉพาะช่วง Grand Opening ไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นี้
ด้าน นางสาวอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มูจิ วัน แบงค็อก มีความพิเศษกว่าสาขาอื่นๆ ในประเทศไทยคือมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด นิทรรศการ เวิร์คช็อป เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและแบรนด์ มีโซนสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมโซนอื่นอีกหลากหลายที่สาขาอื่นไม่มี และที่ตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศคือโซนอาหารที่เปิดตั้แต่ 7.00 น.
"เรามีโซนขายสินค้าที่หลากหลาย แต่หมวดหมู่หลักของแบนรด์มูจิคือโซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายภายในบ้าน โดยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมีสัดส่วนยอดขายมากถึง 50% ถัดมาคือเครื่องใช้ภายในบ้านประมาณ 49% ที่เหลือคือผลิตภัณฑ์อาหาร และการเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของมูจิในไทย เราตั้งเป้ารับลูกค้าทุกกลุ่ม และต้องการเพิ่มสัดส่วนลูกค้า office worker หรือ พนักงานออฟฟิศในช่วงอายุ 25-34 ปี ให้มากขึ้น"
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มูจิได้พัฒนาสินค้าและบริการจากภาพลักษณ์พรีเมี่ยมให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และปรับราคาประมาณ 20% ลงมาเกือบทุกหมวดหมู่เพื่อให้เข้าถึงคนไทยทุกคน เพราะสินค้ามูจิสามารถครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการใช้ในชีวิต ใช้ได้ทุกประเภท ทั้งยังทำการตลาดมากขึ้น โดยใช้สื่อ Out of home, อินฟลูเอนเซอร์, KOL และใช้ดาราครั้งแรกในรอบ 18 ปี ของมูจิในประเทศไทยกับสาขา "มูจิ วัน แบงค็อก" เพื่อให้คนไทยทุกคนรู้จักมากขึ้น รวมทั้งรู้จักในสาขาต่างจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค ทั้งเชียงใหม่ หาดใหญ่ อุดรธานี ขอนแก่น นครสวรรค์ ฯลฯ
สัดส่วนสาขามูจิในกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 30 สาขา ต่างจังหวัดประมาณ 8 สาขา โดยในปี 2567 เปิดสาขารวมประมาณ 10 สาขา ล่าสุดถัดจากสาขาคอนเซ็ปต์สโตร์ “มูจิ วัน แบงค็อก” คือสาขาที่ 39 ในจังหวัดนครราชสีมา ในปี 2568 จะเปิดเพิ่มอีก 4-5 สาขา และในอีก 3 ปีนับจากนี้จะขยายสาขาเพิ่มในประเทศไทยให้ครบ 70 สาขา
นางสาวอริญา กล่าวว่า ศักยภาพของประเทศไทยถือว่าค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง ช่วง 3 ปีที่ผ่านมายอดขายมูจิในประเทศไทยโตขึ้นมากกว่า 20% ถือว่ามียอดขายสูงที่สุดในอาเซียน ทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าคนไทยกว่า 80% ลูกค้าต่างชาติประมาณ 20% แล้วแต่สาขาและพื้นที่ ขณะที่สินค้าขายดีของมูจิ มีดังนี้
"นับตั้งแต่ปี 2565-ปัจจุบัน เรารุกตลาดเร็วทั่วประเทศไทย ด้วยสินค้าราคาที่จับต้องได้ และการขยายสาขาของมูจิในประเทศก็เกิดจากการเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพที่ตลาดจะเติบโตได้อีก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอายุ 18-20 ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ขณะที่ยอดขายส่วยใหญ่จะมาจากกลุ่มอายุ 40 ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม สัดส่วนลูกค้าอันดับแรกคืออายุ 25-35 ปี ถัดมา 35-44 ปี และ 45 ปีขึ้นไป"