นายปฏิญญา อมรรัตนานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานเทคโนโลยี บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ARV ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ และเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีอากาศยานอัตโนมัติไร้คนขับ ภายใต้ชื่อ "ฮอรัส" (HORRUS)
ร่วมเสวนาในเวที “AI Thailand Forum 2024” มหกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Sustainable Growth with AI” ที่มุ่งเน้นการใช้ AI ในการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืน ผ่านการเข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “การใช้ AI เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืน”
นายปฏิญญา เล่าว่า “จุดเริ่มต้นของ ARV เริ่มจากการพัฒนานวัตกรรม AI และหุ่นยนต์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการปฏิบัติการให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ให้เกิดความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อาทิ บริษัท โรวูล่า (ประเทศไทย) จํากัด หรือ ROVULA หนึ่งในบริษัทภายใต้กลุ่ม ARV เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Subsea IRM (Inspection Repair & Maintenance) ที่ให้บริการเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ในการสำรวจ และซ่อมบำรุงท่อปิโตรเลียมใต้ทะเลอย่างครบวงจร
ด้วยการพัฒนานวัตกรรมหุ่นยนต์ใต้ทะเลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงท่อปิโตรเลียมใต้ทะเล รวมถึงลดความเสี่ยงจากการทำงานโดยนักดำน้ำซึ่งมีโอกาสเกิดอันตรายถึงชีวิต อีกทั้งบริษัท สไกลเลอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ SKYLLER อีกหนึ่งบริษัทภายใต้กลุ่ม ARV ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการอากาศยานไร้คนขับ (UAV) หรือ โดรน ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโซลูชันตรวจจับการรั่วไหลของก๊าซได้อย่างแม่นยำ
พร้อมช่วยประเมินความปลอดภัยและตรวจสอบความผิดปกติของสินทรัพย์ เช่น รอยแตก รอยร้าวหรือรอยกัดกร่อนบนพื้นผิวโลหะทั้งบริเวณชายฝั่ง (onshore) เเละนอกชายฝั่ง (offshore) เทคโนโลยีดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้เกือบ 50% อีกด้วย ทำให้เป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน”
“ถึงแม้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคปัจจุบัน ARV เห็นว่า AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่เป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยยกระดับศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น
นายปฏิญญา กล่าวต่อว่า สำหรับองค์กรที่ต้องการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความยั่งยืนนั้น การเลือกใช้ AI ที่สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด การลงทุนใน AI เพียงเพื่อให้ทันกระแส หรือการนำ AI มาใช้โดยขาดการวางแผนที่รอบคอบ อาจส่งผลให้เกิดการลงทุนที่ไม่ได้ผลคุ้มค่าและต้องยุติโครงการในที่สุด อีกทั้งการนำ AI มาใช้ไม่จำเป็นต้องลงทุนในเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและมีราคาสูงเสมอไป แต่สิ่งสำคัญคือ AI นั้นต้องสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจได้จริง นอกจากนี้ การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะในการใช้งานและดูแลรักษา AI รวมถึงการปรับปรุงระบบ AI ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การนำ AI มาใช้ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม นายปฏิญญาได้กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้เทคโนโลยี AI จะมีความก้าวหน้าไปมาก แต่บทบาทของมนุษย์ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำกับดูแลและควบคุมการทำงานของ AI เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น"