ไทยบิสฯ จัดใหญ่มหกรรมสินค้าฯไทย-จีน เปิดช่องเจรจาธุรกิจขยายฐานลูกค้า

11 ธ.ค. 2567 | 07:25 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ธ.ค. 2567 | 07:37 น.

“ไทยบิส อินโฟ แอนด์ เซอร์วิส” จัด 2 งานใหญ่ ‘CTCE Trade Expo 2024 - งานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจีน’ เปิดช่องเจรจาธุรกิจ MOU สร้างเครือข่าย-ขยายตลาดสู่ประเทศแดนมังกร ณ ศูนย์แสดงสินค้าซามาเนีย พลาซา 12-14 ธ.ค.นี้

นายมงคล แซ่ต้าย ผู้จัดการ บริษัท ไทยบิส อินโฟ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดสินค้าจีนในปัจจุบันโดยเฉพาะสินค้าจากเมืองลิมโบ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจีน ได้รับความสนใจอย่างมากในไทย โดยสินค้าจากเมืองนี้มีคุณภาพสูง เน้นการส่งออกไปยังตลาดยุโรปและอเมริกา และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มขยายตลาดเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย

เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างไทยและจีน บริษัท ไทยบิส อินโฟฯ จึงผนึกพันธมิตรไทย-จีน จัดงาน มหกรรมสินค้าและบริการไทย–จีน  เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจ สร้างเครือข่าย และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ

ไทยบิสฯ จัดใหญ่มหกรรมสินค้าฯไทย-จีน เปิดช่องเจรจาธุรกิจขยายฐานลูกค้า

ล่าสุดบริษัทจับมือกับ Qice Exhibition Services Co., Ltd. ผู้ให้บริการด้าน Exhibition จากประเทศจีน จัดงานมหกรรมสินค้า ‘CTCE Trade Expo 2024’ และ ‘งานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจีน’ ซึ่งได้รับสนับสนุนจากสำนักงานพาณิชย์เมืองหนิงโป สำนักงานพาณิชย์เมืองฉือซี และหน่วยงานต่างๆ ณ ซามาเนีย พลาซ่า (ถนนบางนา-ตราด กม.26) ระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม 2567

“จุดมุ่งหมายของงานเพื่อรองรับการค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน การขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนระหว่างไทยและจีน กลุ่มเป้าหมายหลักของงาน

ประกอบด้วย สมาคมการค้าและอุตสาหกรรม ผู้จัดจำหน่าย อินฟลูเอนเซอร์ ร้านค้าและลูกค้าทั่วไป  ผู้มองหาตลาดรองรับการลงทุนธุรกิจ เข้าร่วมเป็นดีลเลอร์ จำหน่ายสินค้าในงานนี้ด้วย”

สำหรับไฮไลท์สำคัญของงาน คาดว่าจะมีผู้ประกอบการกว่า 300 รายจากจีน เช่น เมืองหนิงโป เมืองฉือซี และเมืองอวี่เหยา รวมทั้งผู้ประกอบการชาวไทย และชาวจีนในประเทศไทย

ไทยบิสฯ จัดใหญ่มหกรรมสินค้าฯไทย-จีน เปิดช่องเจรจาธุรกิจขยายฐานลูกค้า

ร่วมนำเสนอสินค้าทุกหมวดหมู่ ทั้งอุตสาหกรรม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน,สุขภัณฑ์, เครื่องมือฮาร์ดแวร์, ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน, อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ฯลฯ บนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม.

นอกจากนี้ภายในงานยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบปะกับเจ้าของโรงงานจากประเทศจีนโดยตรง เพื่อเจรจาธุรกิจ การลงนามความร่วมมือ และการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจในระยะยาว โดยงานนี้ได้เน้นการทำธุรกิจแบบ B2B เป็นหลัก

เพื่อส่งเสริมให้เกิดการค้าขายระหว่างผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทย อีกทั้งภายในงานยังมีบริการให้คำปรึกษาการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

“ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าอุตสาหกรรม

ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่องในตลาดไทย งานมหกรรมนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายได้นำเสนอสินค้าและบริการของตนเอง และสร้างความร่วมมือทางธุรกิจในระยะยาว”

สินค้าที่นำมาจัดแสดงมีหลายหมวดหมู่ ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน ไปจนถึงสินค้าเทคโนโลยีและสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดไทยในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น ส่วนเทรนด์สินค้าจีนที่ได้รับความสนใจ คือสินค้าประเภทเอาท์ดอร์ อุปกรณ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ไทยบิสฯ จัดใหญ่มหกรรมสินค้าฯไทย-จีน เปิดช่องเจรจาธุรกิจขยายฐานลูกค้า

ในอนาคตคาดการณ์ว่าสินค้าจีนที่เข้าสู่ตลาดไทยจะมีคุณภาพสูงขึ้นและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสินค้าพรีเมียมและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคของผู้บริโภคไทยที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย

สำหรับกระแสต่อต้านสินค้าจีนนั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่องานครั้งนี้ เพราะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งผู้ประกอบการจีนและไทยในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจและทำข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ผู้ซื้อที่เป็นผู้นำเข้าหรือร้านค้าระดับสูง ซึ่งมักจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากกว่าที่มาของสินค้า

ไทยบิสฯ จัดใหญ่มหกรรมสินค้าฯไทย-จีน เปิดช่องเจรจาธุรกิจขยายฐานลูกค้า

นอกจากนี้คุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานยุโรปในราคาที่เป็นธรรม ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทย ทำให้ผู้เข้าร่วมงานมั่นใจได้ว่าสินค้าที่นำมาจัดแสดงนั้นมีคุณภาพที่น่าเชื่อถือ 

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐของไทยในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎระเบียบและขั้นตอนการนำเข้าสินค้าในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอีกด้วย