เคานต์ดาวน์ไอคอนสยามร้อยล้านวิว ดันเศรษฐกิจไทย เงินสะพัด 6 หมื่นล้าน

08 ม.ค. 2568 | 22:00 น.

งานเคานต์ดาวน์ไอคอนสยาม ประสบความสำเร็จ มีผู้ชมทั่วโลกกว่าร้อยล้านคน สร้างเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่เศรษฐกิจไทยกว่า 6 หมื่นล้านบาท

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของงานเคานต์ดาวน์ว่า “มหาปรากฏการณ์เคานต์ดาวน์ ฉลองที่สุดของไทยและที่สุดของโลก นำ Amazing Thailand Countdown 2025 at ICONSIAM สู่เวทีเคานต์ดาวน์ Top 5 ของโลกได้สำเร็จและเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทย

ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 26% ของปีก่อนหน้า กระจายเม็ดเงินมหาศาลสู่ระบบเศรษฐกิจไทยมูลค่ากว่า 62,000 ล้านบาท โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวทุกระดับ โดยอ้างอิงตามสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจสองฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด

เคานต์ดาวน์ไอคอนสยามร้อยล้านวิว ดันเศรษฐกิจไทย เงินสะพัด 6 หมื่นล้าน

ไม่ว่าจะเป็นยอดการเข้าพักโรงแรม ธุรกิจร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พบว่ามียอดจองเต็ม 95-100%  ทราฟฟิกทางเรือเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว สร้างรายได้ให้ธุรกิจและชุมชนพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของชุมชนโดยรอบอย่างครอบคลุม

ไอคอนสยาม ภาคภูมิใจที่เป็นส่วนสำคัญในการนำพาประเทศไทยชนะใจคนทั้งโลกอย่างสง่างาม โดยเป็นตัวแทนประเทศไทยส่งงานเคานต์ดาวน์ ยืนหนึ่งครองใจคนทั่วโลก ตอกย้ำศักยภาพการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่เชิดชูความเป็นไทยสู่สากล

โดยการจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2025 at ICONSIAM ได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากตลอดการจัดงาน 3 วัน 3 คืน มียอดผู้ร่วมงานมากกว่า 1,000,000 คน มียอดผู้ชมทั่วโลกจากช่องทางต่างๆกว่า 100 ล้านวิวจากทั่วทุกมุมโลก

เคานต์ดาวน์ไอคอนสยามร้อยล้านวิว ดันเศรษฐกิจไทย เงินสะพัด 6 หมื่นล้าน

นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ความสำเร็จของงาน Amazing Thailand Countdown 2025 ที่ไอคอนสยาม  ได้ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตัวจริงในการสร้าง Experiential World-Class Destination ปักหมุดประเทศไทยบนเวทีโลกอย่างสง่างาม โดยยึด 3 กลยุทธ์หลัก  

1.ที่หนึ่งในใจผู้คน  : Amazing Thailand Countdown 2025 ที่ไอคอนสยาม เกิดขึ้นจากการทุ่มทุน และสรรพกำลัง เพื่อสร้างมหาปรากฏการณ์ โดยความร่วมมือกับกองทัพศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก และพันธมิตรชั้นนำ เชื่อมโยงหัวใจคนไทยและสายตานานาชาติ

ส่งมอบความสุขผ่านเสียงเพลง และความสว่างไสวจากพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลายเป็นความทรงจำของผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก ทำให้คนไทยก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยความภาคภูมิใจ ว่าประเทศเราไม่เป็นที่สองรองใคร 

การเฉลิมฉลองถูกถ่ายทอดผ่านจอไทม์สแควร์ ใจกลางมหานครนิวยอร์ก  และอีกกว่า 50 ล้านคนที่ชมผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วทุกมุมโลก กว่า 20 ช่องทาง รวมถึง CNN, BBC, AP, AFP, Reuters, CNBC, ABC,CCTV, South China Morning Post, MBN TV  และ Live Streaming  ทำให้มียอดวิวผ่านสื่อออนไลน์กว่า 100 ล้านวิว จากทุกแพลตฟอร์ม กลายเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียติดอันดับโลก เป็นที่กล่าวขวัญและสร้างความประทับใจสูงสุดแก่ผู้คนที่ร่วมชมจากทุกช่องทางทั่วโลก

เคานต์ดาวน์ไอคอนสยามร้อยล้านวิว ดันเศรษฐกิจไทย เงินสะพัด 6 หมื่นล้าน

2.ที่หนึ่งในใจของคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ : ความสำเร็จจากการจัดงานเคานต์ดาวน์ครั้งนี้ นอกจากจำนวนผู้ร่วมงานที่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 1,000,000 คน ยังส่งผลให้ร้านค้า-คู่ค้า-พันธมิตรทางธุรกิจ ภายในไอคอนสยาม มียอดขายในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นมากกว่า 35%

ขณะเดียวกัน ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจชุมชนและผู้ประกอบการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวในทุกระดับ นับเป็นการตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำในการสร้าง Experiential World-Class Destination ที่ก้าวไปไกลกว่าธุรกิจรีเทล เสริมเศรษฐกิจทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาในประเทศไทยตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ได้อย่างสง่างาม

เคานต์ดาวน์ไอคอนสยามร้อยล้านวิว ดันเศรษฐกิจไทย เงินสะพัด 6 หมื่นล้าน

3.ที่หนึ่งของโลก : ปรากฏการณ์ Amazing Thailand Countdown 2025 ไอคอนสยาม ได้สร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้คนไทยและประเทศไทย ก้าวสู่หนึ่งใน Top 5 Countdown Destinations ของโลก นับเป็นการปักหมุดประเทศไทยบนเวทีโลกอย่างสง่างามอีกครั้งหนึ่ง 

งาน Amazing Thailand Countdown 2025 ณ ไอคอนสยามที่จัดเสร็จสิ้นไปในปีนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของไอคอนสยาม ในฐานะแลนด์มาร์กระดับโลก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทย

และพลังความร่วมมือของพันธมิตรภาครัฐและเอกชนที่จะช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ พร้อมสร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไปสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก และปักหมุดประเทศไทยให้เป็น Global Destination หนึ่งในประเทศที่ผู้คนทั่วโลกต้องมาเยือนตลอดไป