ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เผยอินไซต์พฤติกรรมนักช้อปไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่า 5 กลุ่ม สินค้าที่มีอัตรายอดขายเติบโตสูงสุด ได้แก่ สินค้ากลุ่มเล่นน้ำและแฟชั่นสงกรานต์ สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มและสินค้ากลุ่มแช่แข็ง สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อปาร์ตี้สังสรรค์ สินค้ากลุ่มของฝากเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ และสินค้าเพื่อความสิริมงคลสำหรับสงกรานต์
ด้านกลุ่มลูกค้าพบ GEN Y และ Gen X ครองสัดส่วนจำนวนนักช้อปมากที่สุดในช่วงเทศกาลถึง 40.2% และ 35% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มชาวต่างชาติที่เป็นลูกค้าสมาชิก มีสัดส่วนยอดใช้จ่ายต่อตะกร้าสูงกว่าคนไทยถึง 2 เท่า ทั้งนี้ ยังเดินหน้าสร้างโมเมนตัมยอดขายในช่วงไตรมาส 2 และตอกย้ำความเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์การจัดแคมเปญในทุกช่วงเทศกาลกับ “Discover Fun Fest ง่ายๆ เพียงแปะอะไรก็ลด” มอบอำนาจการช้อปให้ลูกค้าเลือกแปะส่วนลดสำหรับสินค้าที่ต้องการได้ตามต้องการ กระตุ้นการมีส่วนร่วมกับแคมเปญและดึงลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 20%
พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรแบรนด์ดังชั้นนำกว่า 93 แบรนด์ ตบเท้าร่วมมอบส่วนลดสินค้าต่างๆ อีกหลากหลายรายการเพิ่มเติมพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 20% ให้ช้อปได้อย่างสนุกสนานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์ แคร์และ PET 'N ME ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เม.ย. 2568 โดยตั้งเป้ากระตุ้นยอดขายให้พุ่งสูงขึ้นกว่า 20%
นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า สงกรานต์ถือเป็นเทศกาลแม่เหล็กของไทยที่ช่วยกระตุ้นทุกภาคส่วนทางเศรษฐกิจให้คึกคัก และส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศมีการเติบโต โดยรายงานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดรวม 26.5 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 4.76 แสนคน เพิ่มขึ้น 3% และการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้เอง ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกและบริการได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งการเลือกซื้อสินค้าเพื่อเตรียมฉลองเทศกาล การใช้จ่ายในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ รวมทั้งพฤติกรรมการซื้อสินค้าจากกลุ่มผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาทั่วประเทศ
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า การเติบโตดังกล่าวยังสอดรับกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าช่วงสงกรานต์ในปี 2567 ที่ผ่านมาของลูกค้าท็อปส์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ โดยมีสถิติที่น่าสนใจพบว่า มูลค่าต่อตะกร้าของลูกค้าสมาชิก The 1 เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 7.7% ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ยอดขายในต่างจังหวัดเติบโตกว่า 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ โดย 3 ภูมิภาค ที่มียอดคนใช้จ่ายเติบโตสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือโต 20.4% และภาคตะวันออกเฉียงเหนือโต 14.7% ภาคกลางและภาคตะวันตกโต 9.3% ซึ่งภูมิภาคเหล่านี้ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะที่กลุ่มสินค้าที่มีอัตรายอดขายเติบโตสูงสุดในช่วงสงกรานต์ เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ได้แก่ สินค้ากลุ่มเล่นน้ำและแฟชั่นสงกรานต์ เช่น ปืนฉีดน้ำ ซองกันน้ำ,
กระเป๋ากันน้ำ กางเกงช้าง เสื้อฮาวาย และรองเท้าแตะช้างดาว สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มและสินค้ากลุ่มแช่แข็ง อาทิ โซดา เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟกระป๋อง น้ำดื่ม น้ำอัดลม ไอศครีม และน้ำแข็ง สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อปาร์ตี้สังสรรค์ เช่น หม้อต้มสุกี้ กระทะปิ้งย่าง สินค้ากลุ่มของฝากเพื่อสุขภาพผู้ใหญ่ เช่น ซุปไก่สกัด และรังนก และสินค้าเพื่อความสิริมงคลสำหรับสงกรานต์ เช่น ชุดสังฆทาน ผ้าไตรจีวร และ น้ำอบ เป็นต้น
สำหรับสัดส่วนจำนวนกลุ่มลูกค้าที่มาช้อปสินค้าช่วงสงกรานต์มากที่สุด พบว่า Gen Y ครองแชมป์อยู่ที่ 40.2% รองลงมา ได้แก่ Gen X 35%, Baby Boomer 17% และ Gen Z 7.6% ทั้งนี้กลุ่ม Gen Z คือนักช้อปที่มีความถี่ในการซื้อบ่อยที่สุด ในขณะที่กลุ่ม Baby Boomer คือ Gen ที่มีมูลค่าการใช้จ่ายต่อตะกร้ามากที่สุดในการช้อปปิ้งแต่ละครั้ง นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มลูกค้าสมาชิกชาวต่างชาติใช้จ่ายต่อตะกร้าสูงถึงสองเท่าของคนไทย ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเทศกาลสงกรานต์ยังคงเป็นช่วงเวลาที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายของคนไทยทุกเจเนอเรชัน และเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ท็อปส์ ในฐานะผู้นำค้าปลีกฟู้ด ได้เล็งเห็นโอกาสในการสร้างโมเมนตัมค้าปลีกให้คึกคัก ต่อเนื่องจากช่วงต้นปี ที่มีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น โครงการ Easy E-Receipt, โครงการ Digital Wallet และความคึกคักของตลาดรีเทลในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา โดยมองว่าในช่วงไตรมาสสองนี้ ตลาดจะคึกคักต่อเนื่อง จึงได้นำเอาแคมเปญสติกเกอร์ “สติกเกอร์ แปะปุ๊บ ลดปั๊บ” ที่เปิดตัวไปในปี 2567 ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จอย่างมากมาย มาช่วยเพิ่มความสนุกในการช้อปให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “Discover Fun Fest ง่ายๆ เพียงแปะอะไรก็ลด” โดยมีดาต้าความสำเร็จจากแคมเปญในปีก่อนหน้ามาการันตีความสำเร็จในปีนี้ ทั้งในมุมของการกระตุ้นยอดซื้อของคนที่เข้าร่วมแคมเปญสติ๊กเกอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 35.3% เพิ่มความถี่ของการช้อปสินค้ามากขึ้นได้ถึง 17.1% รวมถึงเพิ่มมูลค่าการซื้อสินค้าต่อตะกร้าเพิ่มขึ้นถึง 15.4% นอกจากนี้ แคมเปญสติ๊กเกอร์ดังกล่าวยังทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 9% อีกด้วย
และด้วยความสำเร็จของแคมเปญสติ๊กเกอร์ในปีที่ผ่านมา ท็อปส์เชื่อว่าแคมเปญสติ๊กเกอร์ในปีนี้ จะช่วยเสริมความสนุก กระตุ้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแคมเปญ ปลุกบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ได้อย่างดี ตอกย้ำการเป็น Best Shopping Destination in Season ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และซัมเมอร์ พร้อมปลุกไลฟ์สไตล์การช้อปให้สนุกกว่าที่เคย ภายใต้กลยุทธ์ 4Cs Customer-Centric promotion: Biggest in season ,Curated Songkran assortment ,Customer experience - Bringing the Festival to Life ,Collaborative partnership for Maximum Impact
“เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญ “Discover Fun Fest ง่ายๆ เพียงแปะอะไรก็ลด” ไม่เพียงแต่จะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย แต่ยังเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงไฮซีซัน พร้อมตอกย้ำการเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ของท็อปส์ ที่แตกต่าง และมุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์นักช้อปภายใต้แนวคิด Customer Centric ผ่านกลยุทธ์สำคัญในการสร้างสีสันให้แก่วงการค้าปลีก โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มทราฟฟิกร้านค้าและผลักดันยอดขายให้เติบโตมากกว่า 20%” นายจักรกฤษณ์ กล่าวสรุป