thansettakij
ท็อปส์ เปิดตลาดตรุษจีน จับเทรนด์ผู้บริโภค ชี้ "Storytelling" คือสิ่งสำคัญ

ท็อปส์ เปิดตลาดตรุษจีน จับเทรนด์ผู้บริโภค ชี้ "Storytelling" คือสิ่งสำคัญ

14 ม.ค. 2568 | 12:30 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ม.ค. 2568 | 02:53 น.

ท็อปส์ เปิดตัวแคมเปญใหญ่ช่วงตรุษจีน ด้วยกลยุทธ์ ‘The Great 3As’ พร้อมเรื่องราวความเชื่อเอาใจสายมูเตลูด้วย "Storytelling" ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 20%

นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลตรุษจีน โดยปี 2568 ท็อปส์ กลุ่มธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จะเน้นไปยัง "Storytelling" ที่ถือว่าเป็นเทรนด์ สามารถสร้างมูลค่าให้กับสินค้าและเข้ากับการตลาดในช่วงตรุษจได้

ท็อปส์ เปิดตลาดตรุษจีน จับเทรนด์ผู้บริโภค ชี้ \"Storytelling\" คือสิ่งสำคัญ

"ข้อมูลทางการตลาดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ท็อปส์เข้าใจลูกค้าและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และเทศกาลตรุษจีปีนี้อยู่ในช่วงต้นปีเดือนมกราคม ถือเป็นโอกาสดีตรงกับกับช่วงมาตรการของรัฐบาล Easy E-Receipt เกิดการจับจ่ายในเชิงบวก ดังนั้นเทศกาลตรุษจีนนับเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโมเมนตัมของธุรกิจค้าปลีกที่ต่อเนื่องมาจากช่วงปีใหม่ สร้างความคึกคักและก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมทั่วประเทศ"

โดยในปี 2567 ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 โดยคาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้มูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาท ส่วนอัตราการเติบโตของ E-Commerce เฉลี่ย 7% ต่อปี ด้วยปัจจัยหลักจากกลุ่มลูกค้าเจน Z ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน และนิยมช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์ค่อนข้างสูง และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 คาดว่าได้รับอานิสงค์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง 

ท็อปส์ เปิดตลาดตรุษจีน จับเทรนด์ผู้บริโภค ชี้ \"Storytelling\" คือสิ่งสำคัญ

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า ท็อปส์ได้เล็งเห็นโอกาสในการกระตุ้นภาคการบริโภคของตลาดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ และเดินหน้าจัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกของปี THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ต้อนรับปีมะเส็ง ด้วยสารพัดสินค้าและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็มที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อเป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยจับเทรนด์ของผู้บริโภค ดังนี้

4s Trends ผู้บริโภคในปี 2568 

1. Smart Spending & Value Equation : ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความจำเป็นของสินค้าเป็นปัจจัยหลัก ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า คุ้มราคา โดยเศรษฐกิจไทยจะยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการจากภาครัฐช่วยเป็นแรงหนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา 

2. Self-Healing : ผู้บริโภคชาวไทยมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากขึ้น โดยความสุขที่ใกล้ตัวและตอบสนองความต้องการได้เร็วที่สุด ก็คือการซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ๆ และมีเรื่องราวที่ทำให้ประทับใจ 

 

3. Sustainability : เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก สินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น 

4. Saiyasart : คนไทยกว่า 88% เชื่อยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3%

นอกจากนี้ จากผลสำรวจของวิจัยกรุงศรี พบว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณ 1 ใน 3 ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ มากกว่า 1,000 บาทต่อปี ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดย 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี

ท็อปส์ เปิดตลาดตรุษจีน จับเทรนด์ผู้บริโภค ชี้ \"Storytelling\" คือสิ่งสำคัญ

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และ Gen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลc]tยังพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว มียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อตะกร้า (Basket Size) เติบโตขึ้น 23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ รวมทั้งในปี 2567 มียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ของท็อปส์ที่เติบโตขึ้น 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุด ในวันจ่ายเพิ่มขึ้น +35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ 

ทั้งนี้มี 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567 และคาดการร์ว่าในปี 2568 จะไม่แตกต่างกันมากนัก คือ ผักและผลไม้ (Produce) 22.2%, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning) 20.5%, เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร (Cooking) 11.7%, เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat & Seafood) 9.4% และ ของใช้ในบ้าน (Home Care) 8.6% โดยท็อปส์ยังมีกลยุทธ์แนวใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า ดังนี้

ท็อปส์ เปิดตลาดตรุษจีน จับเทรนด์ผู้บริโภค ชี้ \"Storytelling\" คือสิ่งสำคัญ

กลยุทธ์ ‘The Great 3As’ สำหรับตรุษจีนปี 2568  

  • The Great ASSORTMENT: ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดมาสู่มือลูกค้า 
  • The Great ANG-PAO: เดินหน้ามอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณ แจกหนักจัดเต็มกว่าทุกๆ ปี 
  • The Great CX with AMBASSADOR: ฉีกกฎตรุษจีนแบบเดิม ๆ กับการเป็น ‘A Cultural Leader’ ที่เชื่อมโยงขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย ด้วยผลิตภัณฑ์และกิจกรรมใหม่ๆ 

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ท็อปส์ยังได้คัดสรรความอร่อยหลากหลายเมนูจีน จากร้านดัง เพื่อให้ท็อปส์เป็นจุดหมายของการจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรกที่มอบทั้งความครบ คุ้มค่า เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของไตรมาสที่ 1 ของประเทศให้คึกคัก โดยตั้งเป้าไว้ว่าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20%