ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ห้องประชุมมุขหน้า ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วย“การใช้เทคโนโลยี ผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตการเกษตรไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชอัตลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต”
โดยมีนายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ (วว.) นายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ต ผศ.ดร. หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายศึกษา สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ร่วมลงนาม
นายณรงค์ กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีเป็นอย่างมาก ต่อการใช้ประโยชน์งานทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาใช้พัฒนาพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะการท่องเที่ยว แหล่งธรรมชาติ ที่มีพรรณไม้พื้นถิ่นที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัด สืบเนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 นอกจากปัญหาด้านสาธารณสุข สุขภาพของประชาชนแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน คือ ปัญหาระบบเศรษฐกิจของจังหวัด
การหดตัวเรื่องการท่องเที่ยวส่งผลกระทบต่อจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร รวมทั้งธุรกิจของฝากและของที่ระลึก ซึ่งได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน
เมื่อสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง หลายประเทศเริ่มคลาย lockdown รวมทั้งประเทศไทย เริ่มให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกได้ รวมทั้งแต่ละประเทศก็กำลังแสวงหากลยุทธ์ใหม่ ๆ กระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือน หรือมาท่องเที่ยวอีกครั้ง
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การทำงานแบบบูรณการร่วมกันหลายฝ่าย สร้างความยั่งยืนครั้งนี้ จะเป็นแนวคิดรูปแบบใหม่ คือ การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ประโยชน์ในการสร้างแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมิใช่เพียงแค่การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
ทั้งนี้โครงการยังจะสร้างงาน สร้างอาชีพ และธุรกิจใหม่ ให้กับจังหวัด ด้วยการพัฒนา Model การท่องเที่ยว แหล่งที่ 3 ของจังหวัดภูเก็ต นอกเหนือจากทะเล เมืองเก่า ที่เป็นการนำศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี มาผสมผสานกับวิถีชีวิต การแต่งกาย และอาหารพื้นเมืองของเมืองภูเก็ตอวันนี้จะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ คือ ถนนสายดอกไม้ของเมืองภูเก็ต
การดำเนินงานด้านไม้ดอกไม้ประดับของจังหวัดภูเก็ตนั้น จะเกิดจากความร่วมมือ ประกอบด้วย 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 2.องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ภูเก็ต 3. สมาคมโรงแรม 4. มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต และ 5.จังหวัดภูเก็ต ที่จะเป็นหน่วยงานร่วมรับผิดชอบด้วย
โดย วว. จะนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี ด้านการพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับ มามอบให้กับจังหวัด เพื่อนำความรู้เหล่านี้ถ่ายทอดให้กับเกษตรกร ผู้ปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับ อีกทั้งใช้ทรัพยากรที่มีในพื้นที่สร้างประโยชน์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้กับจังหวัด พร้อมทั้งการออกแบบให้เข้ากับภูมิอากาศและภูมิทัศน์ จากปัจจุบัน จังหวัดภูเก็ตนำเข้าไม้ดอกไม้ประดับมาจากนอกพื้นที่ ซึ่งต่อไปนี้คนภูเก็ตเอง จะเป็นผู้ผลิตและเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากไม้ดอกไม้ประดับได้โดยตรง
นอกจากพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแล้ว วว. ก็ยังพัฒนาเป็นองค์ความรู้ เพื่อสร้างผู้ประกอบการ สร้างอาชีพ ให้เกิดธุรกิจใหม่ด้านการเกษตรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อีกทั้งได้รับการสนับสนุนและร่วมกันพัฒนาพื้นที่ จากทาง อบจ. จังหวัดภูเก็ต นำพื้นที่มาใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาด้านการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ
อีกหนึ่งหน่วยงานหัวใจสำคัญในการผลักดันงานให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้จะเข้ามาเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากไม้ดอกไม้ประดับ นอกจากนำไปใช้ตกแต่งสถานที่ ตามโรงแรมต่าง ๆ ในเครือข่ายสมาคมแล้ว ยังสามารถนำไปประดับใน menu อาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ในเครือข่ายของสมาคม
ทางสมาคมจะเป็นผู้สร้างตัวกลางหรือ trader ไม้ดอกไม้ประดับของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างโรงแรมต่าง ๆ และเกษตรกร เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่ รวมทั้ง มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ร่วมสนับสนุน โดยจะมาช่วยพัฒนานิสิตนักศึกษา คนรุ่นใหม่ของจังหวัดภูเก็ต มาร่วมทำธุรกิจด้านไม้ดอกไม้ประดับ รวมทั้งจะเป็นพี่เลี้ยงด้านเทคโนโลยี และเป็นศูนย์การบ่มเพาะ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ ให้กับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ กับกระบวนการปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่ ถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพแก่เกษตรกรชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง และลดการนำเข้าไม้ดอกไม้ประดับจากนอกพื้นที่ ซึ่งจะเป็นกรลดต้นทุนแก่ผู้ประกอบการ และยังป็นการสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว คณะลงมาปลูกต้นไม้ ในบริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย