จ่อเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นำร่อง บางลา ป่าตอง โกยรายได้เพิ่ม 2.5 หมื่นล้าน

20 ต.ค. 2565 | 04:31 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2565 | 14:19 น.

กระทรวงท่องเที่ยวฯจ่อชงครม.ไฟเขียวโซนนิ่งขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นำร่องถนนบางลา ป่าตอง จ.ภูเก็ต ดันรายได้เข้าประเทศเพิ่ม 25,000 ล้านบาท งัดผลศึกษา 3 สถาบันการศึกษา หนุนขยายเวลาเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 44% ด้านภาคธุรกิจหนุนเต็มสูบ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระทรวงท่องเที่ยวฯ อยู่ระหว่างผลักดันให้รัฐบาลพิจารณาขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น.ในลักษณะการทำโซนนิ่งในพื้นที่ท่องเที่ยว

 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

ได้แก่ กรุงเทพฯ (ถนนข้าวสาร,ถนนพัฒน์พงศ์) พัทยา (แหลมบาลีฮาย ถนนคนเดิน ภูเก็ต (บางลา ป่าตอง) กระบี่ (อ่าวนาง) สุราษฏร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน) พังงา (เขาหลัก) โดยจะนำร่องที่ถนนบางลา ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่แรก และยังมองพัทยาที่อยากทำให้เป็นพื้นที่นำร่องไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในโซนภาคใต้และภาคตะวันออก

 

จ่อเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4  นำร่อง บางลา ป่าตอง โกยรายได้เพิ่ม 2.5 หมื่นล้าน

เนื่องจากการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น.มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจากผลการวิจัยของ 3 สถาบันการศึกษา คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า),มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทย จะเป็นกลุ่มที่เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิง คิดเป็นสัดส่วน 25% โดยเดินทางเที่ยวหลังจากเที่ยงคืนไปแล้ว และมีการใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวถึง 44 %

 

“ก่อนหน้านี้เรามีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 6.1 หมื่นบาทต่อคน เพราะตอนนั้นมีมาตรการเข้มงวดการเดินทางเข้าไทย ทั้งจำนวนวันพัก การตรวจRT-PCR แต่เมื่อมีการยกเลิกข้อจำกัดเหล่านี้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยก็ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 4-5 หมื่นบาทต่อคน แต่ถ้าเราขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงได้ถึงตี4 เพียงแค่ขยายเวลาเพิ่มอีก 2 ชั่วโมงก็ทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 44% ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น”

การกำหนดพื้นที่ในการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 พื้นที่ดังกล่าวจะต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์จากคนในพื้นที่ก่อน ซึ่งในขณะนี้ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่จัดทำประชาพิจารณ์เสร็จแล้ว และสนับสนุนในเรื่องนี้ นอกจากพื้นที่เหล่านี้แล้ว ทางผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีความต้องการในเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งก็ต้องไปกำหนดพื้นที่ขึ้นมาและทำประชาพิจารณ์ในชุมชนด้วยเช่นกัน

 

โดยพื้นที่บางแห่งปัจจุบันก็มีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาอยู่แล้ว อย่างเกาะพะงัน ที่ขึ้นชื่อเรื่องฟูลมูน ปาร์ตี้ แต่เราก็มองว่าควรทำให้ถูกกฎหมาย สำหรับการผลักดันในเรื่องนี้จะเข้าไปหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยภายในเดือนนี้ เพื่อนำเสนอผลการวิจัยจากทั้ง 3 สถาบันการศึกษาดังกล่าว และจะนำเข้าหารือในครม.ต่อไป โดยนำร่องที่บางลา ป่าตอง ภูเก็ต

 

นายศุภกร พจมานศิริกล อดีตผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพและพัฒนาธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เผยว่า ก่อนเกิดโควิดสถาบันได้ทำวิจัยเรื่องปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการมาท่องเที่ยวบางลา ป่าตอง ซึ่งก็พบว่าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจากตี 1ไปเป็นตี 4 มีผลมากต่อการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ธุรกิจอื่นในพื้นที่รวมไปถึงกลุ่มเอสเอ็มอี กลุ่มคนตัวเล็กอย่าง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนขายลูกชิ้นปิ้ง และยังได้รับการสนับสนุนในเรื่องนี้เป็นอย่างมากจากชุมชน รวมถึงฝ่ายปกครองในพื้นที่ด้วย

 

ธนากร คุปตจิตต์

 

เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะออกจากโรงแรม และกินข้าวเย็นก่อน และจะมาเที่ยวถนนบางลา ในเวลา 23.00 น. โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะจับจ่ายใช้สอยช่วงเวลา 01.00-04.00 น. หรือเฉลี่ยประมาณ 70 ล้านบาทต่อวัน และพบว่าช่วงเวลา 03.00-04.00 น.ร้านค้าและสถานบันเทิงยามค่ำคืน จะมีรายได้เฉลี่ยต่อคืนสูงสุด

 

ขณะที่ปัญหาอุปสรรคของการปิดสถานบริการเวลา 01.00 น.จะทำให้สูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 25,000 ล้านบาทต่อปีในพื้นที่บางลา การกระจายรายได้ไปยังธุรกิจต่อเนื่องจะน้อยลง เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยต่อบ้านเมือง ทั้งโอกาสในการเกิดอาชญากรรมต่อนักท่องเที่ยวและขยะ เนื่องจากส่วนใหญ่พอสถานบันเทิงปิดตี 1 นักท่องเที่ยวก็จะไปซื้อเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ที่ร้านเซเว่น แล้วไปนั่งกินที่ชายหาดต่ออยู่ดี

 

นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลังยกเลิกศบค.การเปิดปิดสถานบันเทิงในแต่ละพื้นที่มีเวลาไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่จะปิดเวลาไม่เกินตีหนึ่ง และมองว่าการที่รมว.ท่องเที่ยวฯผลักดันขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4 ในย่านที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่จะสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และกระจายรายได้ให้กับธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง โดยที่รัฐบาลไม่ต้องจัดหางบประมาณของแผ่นดินใดๆ มาเพิ่มเติมเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งหากไทยตัดสินใจช้าก็จะทำให้เสียโอกาสเพราะเป็นช่วงเวลาไฮซีซัน

 

“การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจนถึงตี 4 ถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวกลางคืนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่มาใช้บริการ ถือเป็นการนำร่องและทดลองโดยมีการเฝ้าติดตามและประเมินผล ซึ่งหากการขยายเวลาสร้างปัญหามากกว่าที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รัฐบาลก็สามารถที่จะยกเลิกการขยายเวลาได้ อีกทั้งเป็นการช่วงชิงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในภูมิภาคนี้ ซึ่งหากไทยตัดสินใจช้าก็จะทำให้เสียโอกาสเพราะเป็นช่วงไฮซีซัน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ” นายธนากร กล่าวทิ้งท้าย