โรงแรมเล็กอ่วม เจอ 2 เด้ง รายใหญ่ตัดราคา เอเชียเปิดประเทศ

การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในขณะนี้ ถือ ว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะด้วยกลุ่มตลาดต่างชาติระยะไกลหรือกลุ่ม Long-haul ที่เดินทางเข้าไทยยังไม่มากนัก ประกอบกับประเทศเอเชีย ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทย ต่างทยอยเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่ต่างยังคงต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคาในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ โรงแรมขนาดเล็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งทะลุ 6 ล้านคนไปแล้ว และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ไทยน่าจะนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 10 ล้านคน แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับก่อนโควิด-19 ที่ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉียด 40 ล้านคน ทำให้โรงแรมส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพิงนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก และกังวลต่อแรงกดดันด้านกำลังซื้อที่อาจลดลงจากเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อรายได้และรายจ่าย แต่คนไทยก็ยังเดินทางเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของ ภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” ที่เพิ่งหมดไปและกำลังเตรียมจะคลอดโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5"

ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นตลาดจากเอเชียและตะวันออกกลางเป็นหลัก ดังนั้นแม้โรงแรมจะมีรายได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงแรมส่วนใหญ่มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น แต่ในภาพรวมยังมีรายได้อยู่ในระดับตํ่าเมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด-19 และโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยตํ่ากว่าอัตราการเข้าพักที่คุ้มทุน

ประกอบกับหลายประเทศในเอเชียและแปซิฟิกทยอยผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีตัวเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับคนไทยเอง จากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเที่ยวกันแต่ในประเทศ ก็เริ่มหันไปเที่ยว ต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่ลดข้อจำกัดต่างๆ ลงแทบจะหมดแล้ว

โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่ได้เปิดฟรีวีซ่า (ไม่ต้องขอวีซ่า) ยกเลิกการจำกัดจำนวนการเดินทางเข้าประเทศ ดูแค่การฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม (ยี่ห้อวัคซีนตามเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกหรือ WTO) รับรอง ซึ่งตอนนี้ฉีดวัคซีนซิโนแวคก็เที่ยวญี่ปุ่นได้ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา คนไทยแห่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเป็นจำนวนมาก สายการบินต้นทุนตํ่าทั้งของไทยและญี่ปุ่นหันมาเปิดจุดบินเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศกันอย่างคึกคัก

ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งทำให้ตลาดมีการแข่งขันที่สูงขึ้น และด้วยตลาดที่มีจำกัด ในยุคที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่งจะกลับมาเพียง 25% ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่ยังต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคาในการแข่งขันโดยการจัดโปรโมชั่น การกำหนดราคาที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมถึงข้อจำกัดจากโควิด-19 ของแต่ละประเทศที่ทยอยหมดไป ทั้งประเทศต่างๆ เหล่านี้ยังจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย อาทิ ฮ่องกงเตรียมแจกตั๋วเครื่องบินฟรี 5 แสน มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 8,015 ล้านบาท

การตัดราคาห้องพักของธุรกิจโรงแรมไทยที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อโรงแรมขนาดเล็ก เนื่องจากไม่สามารถตัดราคากับรายใหญ่ได้ กระทบสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ นี่เองจึงทำให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ต้องการผลักดันให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ที่พักขนาดเล็กมีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ

เพราะสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ เพื่อต่อลมหายใจให้ธุรกิจ ระหว่างรอดีมานต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเริ่มเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้นในช่วงไฮซีซั่นนี้ ตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ซึ่งในปีหน้าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 50% ของก่อนเกิดโควิด

ทั้งนี้สมาคมโรงแรมไทย (THA) ก็คาดหวังว่า ช่วงโค้งท้ายปี 2565 จากแผนกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงเข้าไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ในปลายปีนี้ กับการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น การที่จะสวมหรือไม่สวมหน้ากากอนามัยส่งผลปัจจัยบวกกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว รวมถึงการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค (APEC 2022 Thailand) จะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนและกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากวิกฤตโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการเดินทางและการท่องเที่ยวของประเทศ