สุดยิ่งใหญ่สะพัด800ล้าน“ยี่เป็งเชียงใหม่2565”กลับมาแล้ว
สุดยอดยิ่งใหญ่อลังการ ”ยี่เป็งเชียงใหม่ 2565 สืบสานตำนานแห่งนครพิงค์” ในประเพณีลอยกระทงอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังโควิด ปลุกบรรยากาศท่องเที่ยวคึกคัก คาดเงินสะพัด800ล้านบาท
นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ขอเชิญร่วมงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ร่วมสืบสานตำนานแห่งนครพิงค์ ระหว่างวันที่ 7 – 9 พฤศจิกายน 2565
โดยในปีนี้ถือเป็นการกลับมาจัดงานอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเกิดความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่พร้อมใจกันจัดงานประเพณียี่เป็งอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นปฐมฤกษ์ในการประกาศถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว หวังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง
ในปีนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้กำหนดจัดงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครามหานที” ระหว่างวันที่ 7 – 9 พฤศจิกายน 2565 โดยเป็นปีแรกหลังจากการ
แพร่ระบาดของโควิด -19 ที่กลับมาจัดการประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป เส้นทางเดินขบวนเริ่มจากบริเวณข่วงประตูท่าแพสิ้นสุดที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
นอกจากนี้ยังมีการจัดงานทางวัฒนธรรมประเพณีอื่นๆ กระจายไปตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเขียงใหม่ อาทิ กิจกรรมต๋ามผางประติ๊ดส่องฟ้าฮักษาเมือง กิจกรรมประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ “ใต้แสงแห่งความสุข ปิงนครามหานที”
รวมถึงกิจกรรมยี่เป็งจากความร่วมมือร่วมใจหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมอื่นอีกในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด"แสงศิลป์ถิ่นล้านนา" งานยี่เป็ง ณ โหล่งฮิมคาว ในสไตล์ต่อนยอน งานมหัศจรรย์จ้องล้านนา โคมล้านนา ตลอดจนกิจกรรมต่อยอดแสงหลวง บวงสรวงมหาเจดีย์วัดเจดีย์หลวง เป็นต้น
คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่กันอย่างคึกคัก จากการที่เชียงใหม่กลับมาจัดกิจกรรมต่างๆ กันอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงสายการบินต่างๆ ทั้งเส้นทางในและระหว่างประเทศ เริ่มกลับมาทำการบินในหลายเส้นทาง โหลดแฟกเตอร์ อยู่ที่ 80-90% อัตราการเข้าพักแรกของโรงแรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ประมาณ 90% ซึ่งเรียกว่าสูงมาก ในขณะโรงแรมที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำ ทราบมาว่าโรงแรมเต็มทุกที่ 100%
จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565 จะเดินทางมาก่อนหน้านั้น และจะอยู่ต่อไปในช่วง 1 สัปดาห์ อยู่ที่ประมาณ 120,000 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดศักราชการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่หลังจากที่โควิดเริ่มคลี่คลาย และยังมีความเชื่อมั่นว่า จากความร่วมมือร่วมใจกันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจัดงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง
นักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังคงเป็นตลาดระยะไกล จากยุโรป อเมริกา ยังเดินทางเข้ามาอยู่ อีกทั้งในช่วงเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ มีการนำเอาเอเย่นต์จากอเมริกา 25 ราย 25 มลรัฐ เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ และมาชมเทศกาลยี่เป็งด้วย เพราะฉะนั้นมีจาก อเมริกาไทเป ส่งทีมงานทีวีเข้ามาถ่ายทำ จากเวียดนามที่เดินทางเข้ามา และตลาดระยะใกล้อื่นๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งมีเที่ยวบินตรงเข้ามา ก็เชื่อว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลยี่เป็งแน่นอน
ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของเชียงใหม่พอดีและผนวกกับเรื่องของเทศกาลยี่เป็งด้วยแล้ว เชียงใหม่ยังได้รับการโหวตให้เป็น World Festival & Event City เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าเรื่องของFestival ซึ่งเป็น Soft Power สำคัญก็จะเป็นตัวหนึ่งที่จะเอามาสร้างในเรื่องของการบอกเล่าความเป็นมา ก็ดึงคนเข้ามาท่องเที่ยวต่อยอดเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมาเหมือนเดิม
ด้านนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ ท่าอากาศยานไทย มีผู้โดยสารทั้งอินเตอร์ และ โดเมสติก ประมาณ 21,345 คน ปริมาณผู้โดยสารเดินทาง เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ
สายการบินต่างประเทศก็เพิ่มเข้ามา ล่าสุดจะมีสายการบินลาว ที่เข้ามา และสายการบินแอร์เอเชีย บินมาจากฮานอย ดานัง เป็นไฟท์ปฐมฤกษ์เข้ามา ตอนนี้ถ้าเป็นลองวีคเอนด์ น่าจะทะลุถึง 25,000 คน อันนี้เป็นการคาดการณ์ แต่สายการบินก็เพิ่มเติมเข้ามาเป็นจำนวนหลายสายการบิน
สถานการณ์ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็คึกคักขึ้น เราให้ความสำคัญในเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัย ต่างๆ และมีการตรวจช่วงที่ผู้โดยสารเยอะโดยการเพิ่มวงรอบจาก 5 รอบเป็น 10 รอบ
รวมถึงเพิ่มการตรวจการปล่อยโคมช่วงช่วงนี้ จากเพิมตรวจอยู่ 4 ตอนนี้เพิ่มเป็น 10 เที่ยวเพื่อให้ความปลอดภัยกับผู้โดยสารมากที่สุด ก็ได้ประชุมกับหน่ายงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสายการบินและส่วนราชการที่อยู่ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่
ความคึกคักนี้ทำให้สายการบินที่เคยหยุดบินในช่วงโควิด กลับมาแล้ว ถ้าเทียบกับปี 2562 ก็ประมาณ 70% แล้วตอนนี้ จำนวนเที่ยวบินมีทั้งหมด 110-120 เที่ยวบิน ก็เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ท่าอากาศยานก็สามารถรองรับได้และต้องดูเรื่องความปลอดภัยให้ดีที่สุด จำนวนที่รองรับได้มากที่สุดต่อวันประมาณ 30,000 คนรับได้สบาย ๆ ถ้าเต็มจำนวนจริง ๆ เราก็มีแผนสำรอง เตรียมรองรับไว้ด้วยแล้ว