นายทศพร อสุนีย์ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทพัทยา เปิดเผยว่า บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กับก้าวสำคัญสู่ปีที่ 9 ด้วยการจัดงาน “Pattaya Group Next to Beyond” ขึ้น เพื่อประกาศถึงความเข้มแข็งของกลุ่มบริษัทพัทยา รวมถึงการปรับตัวเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตในอนาคต
โดยที่ผ่านมากลุ่มบริษัทพัทยาได้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่เครื่องบินจอดสนิทพร้อมกันทั่วโลก อันเนื่องมาจากสาเหตุการระบาดของโควิด-19 ซึ่ง กลุ่มบริษัทพัทยา ก็สามารถก้าวผ่านสถานการณ์นี้มาได้ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เรา สามารถผ่านอุปสรรคมาได้ คือ “บุคลากร” อันเป็นกำลังหลักในบริษัททุกคน สร้างความเชื่อมั่นให้ “กลุ่มบริษัทพัทยา”
สำหรับเป้าหมายในปี 2566 พัทยากรุ๊ป ตั้งเป้ารายได้โต 50% มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมอีก 3-5 บริษัท มุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนการลงทุนใน กลุ่มธุรกิจใหม่ที่เสริมศักยภาพการเติบโต โดยอยู่ระหว่าง การศึกษาหลายโครงการ ถึงกลยุทธ์เชิงรุกทางธุรกิจของพัทยากรุ๊ปในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากรากฐานธุรกิจหลักที่มั่นคง และนอกจากจะช่วยสร้าง New S-Curve แล้ว ยังเป็นการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนและการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินเติบโตไปอีกขั้น
สำหรับอีกหนึ่งก้าวสำคัญในปี 2568 บริษัทคาดการณ์สัดส่วนและตั้งเป้าทำกำไรจาก ธุรกิจการบิน 30% ธุรกิจขนส่งภายในและต่างประเทศเติบโต 40% ธุรกิจการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเติบโต 20% และ ธุรกิจ New S-Curve อีก 10%
“การจัดงาน “Pattaya Group Next to Beyond” ครั้งนี้ถือเป็นการประกาศจุดยืนพร้อมพัฒนาก้าวต่อไปเติบโตสู่ระดับสากล ตั้งเป้าเสริมศักยภาพองค์กร ด้วยการขับเคลื่อนการลงทุนใน 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ผ่านการ ร่วมทุน (Joint Venture : JV) และ การควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดจากฐานธุรกิจหลักที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยสร้าง New S-Curve ให้การขับเคลื่อนความยั่งยืนและการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินอีกขั้น”
นายทศพร กล่าวว่า กลุ่มบริษัทพัทยา ก้าวสู่วงการอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น จำกัด เมื่อ 8 ปีก่อน โดยปัจจุบันมีบริษัทในเครือ ทั้งสิ้น 8 บริษัท ได้แก่
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัยมาโดยตลอด ซึ่ง Partner ล่าสุดคือบริษัท Aron Flying Ship KOREA โดยผู้บริหาร Aron : Mr.Hyun Wook CHO, ARON, Chief Executive Officer ได้มีการลงนาม ร่วมธุรกิจกับ “กลุ่มบริษัทพัทยา” ในธุรกิจ Wing-In-Ground Effect แห่งแรกของโลก