“จีนเปิดประเทศ” ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มองว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยไม่ตํ่ากว่า 5 ล้านคน ส่งผลให้ตลอดทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย เพิ่มจากไม่ตํ่ากว่า 20 ล้านคน เป็นไม่ตํ่ากว่า 25 ล้านคน
การเปิดประเทศของจีน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของไทยที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกด้าน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าไทย โดยก่อนโควิด-19 จีนเที่ยวไทยสูงถึง 11.2 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวทั้งหมดกว่า 40 ล้านคน ดังนั้นการเปิดประเทศของจีนเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ภาคธุรกิจของไทย ก็จะกลับมาฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดเช่นกัน
บริษัททัวร์รีเทิร์นเปิดธุรกิจ 50%
นายวิชิต ประกอบโกศล ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลาดจีนรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า การเปิดประเทศของจีน ถือว่าเร็วกว่าที่คาดไว้มาก จากเดิมที่ผู้ประกอบการมองว่าจะเป็นการเปิดประเทศในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แต่ปรากฏว่าจีนเปิดเต็มรูปแบบโดยไม่มีเงื่อนไข ส่งผลในขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เคยรองรับตลาดจีน หลังจากปิดธุรกิจกันมานานกว่า 3 ปี เริ่มทยอยกลับมาเปิดธุรกิจอีกครั้ง
เริ่มจากบริษัทนำเที่ยว ซึ่งเดิมไทยมีผู้ประกอบการทัวร์ตลาดจีนกว่า 100 บริษัท เตรียมทยอยกลับมาเปิดธุรกิจกันแล้วราว 50% และในเร็วๆนี้คาดว่าจะกลับมาเปิดอีกราว 20% รวมเป็น 70% ส่วนอีก 30% ก็คงไม่กลับมาเพราะหายจากตลาดไปแล้ว ซึ่งการกลับมาเปิดธุรกิจอีกครั้งของบริษัททัวร์ เนื่องจากมั่นใจว่าจะมีดีมานด์ของนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา
ทำให้ธุรกิจต้องดิ้นรนหาเงินกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงแรมและธุรกิจขายของที่ระลึกยังรอดูสถานการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามามากเพียงพอที่จะกลับมาเปิดธุรกิจอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งหลายคนก็มองโอกาสที่จะกลับมาเปิดธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป
หลังมี.ค.กรุ๊ปทัวร์จีนทยอยเข้า
ทั้งนี้การเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.นี้ ยังไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) กลุ่มนักธุรกิจและคนที่เดินทางมาเยี่ยมญาติเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินเข้าไทยยังมีไม่มากนัก เพราะเพิ่งทยอยเปิดประเทศ แต่นับจากเดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป จะมีเที่ยวบินเข้าไทยเพิ่มขึ้นทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากหลายเมืองของจีนเข้ามา
ช่วงดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ที่จะทยอยการเดินทางเข้าไทย และจะเริ่มเดินทางกลับขึ้นมาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ซึ่งปัจจุบันการเปิดเส้นทางบินจากจีนเข้าไทย กว่า 80% จะเป็นสายการบินของจีนที่ทำการบินเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่สายการบินของไทย คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน จึงจะทยอยกลับมาเปิดเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น
นายวิชิต กล่าวต่อว่า สำหรับการกลับมาขายแพ็กเกจทัวร์ของผู้ประกอบการราคาทัวร์ก็จะมีราคาสูงกว่าก่อนเกิดโควิด-19 เพราะด้วยในช่วง 1-2 ปีนี้จะเป็นล้างรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ เพราะต้องเริ่มการทำทัวร์ใหม่ การทำสงครามราคาหรือขายทัวร์ศูนย์เหรียญ ทางผู้ประกอบการจีนจะยังไม่สามารถทำได้ เพราะทำไปก็ขาดทุน และทุนที่เคยมีก่อนเกิดโควิดที่นำมาใช้ทุ่มตลาดก็หมดไปแล้วหลังจากไม่ได้ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 3 ปี การทำทัวร์จีนก็เหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
“ผู้ประกอบการมั่นใจว่าในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาเที่ยวไทย 50% ของก่อนเกิดโควิด คืออยู่ที่ราว 5 ล้านคน และในปีหน้าน่าจะกลับมา 100% ใกล้เคียงกับก่อนเกิดโควิดที่ 11 ล้านคน”
สายการบินเฮโลเพิ่มเที่ยวบิน
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียจะทยอยนำเครื่องบินกลับมาขยายเส้นทางบินเข้าจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงาน และประสานกับสำนักงานการบินพลเรือนจีน (CAAC) เพื่อขอโควต้าเพิ่มเส้นทางบินเข้าออกจีน โดยสายการบินได้ขอไปทุกเส้นทางที่เคยทำการบินรวม 18 เส้นทางบิน ใน 13 จุดหมายปลายทางสู่จีน อาทิ กวางโจว 2 เที่ยวบินต่อวัน หนานจิง 4 เที่ยวบินต่อวัน
โดยแอร์เอเชียพร้อมแล้วที่จะกลับมาเปิดเส้นทางบินตรงสู่ประเทศจีนอีกครั้ง หลังจากที่หยุดให้บริการสู่เมืองจีนมานานกว่า 2 ปี ซึ่งในครั้งนี้จะเริ่มจากการเปิดบินตรงสู่ 8 เมืองในประเทศจีนทันทีที่ได้รับอนุญาต โดยแอร์เอเชียมีความพร้อมอย่างมาก ทั้งในด้านบุคลากร ฝูงบิน ที่จะสามารถนำกลับมาให้บริการบินสู่ประเทศจีนได้อย่างทันท่วงที
เส้นทางที่พร้อมเปิดสำรองที่นั่งแล้วในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้ ได้แก่ เส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ กวางโจว ฉงชิ่ง เซินเจิน คุนหมิง หางโจว นานจิง ฉางซา และมาเก๊า โดยแต่ละเส้นทางจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป และจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเดือนมีนาคม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางไป-กลับ สู่ประเทศจีน
นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีสายการบินสัญชาติจีนขอเปิดเที่ยวบิน และเพิ่มความถี่มาไทย ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2566 โดยได้รับการอนุมัติจาก กพท.ให้ทำการบินแล้วรวมจำนวน 1,035 เที่ยว หรือเฉลี่ยเดือนละกว่า 300 เที่ยวบิน
ถือเป็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการบินหลังจีนประกาศเปิดประเทศ อีกทั้งปัจจุบันสายการบินจีนยังทำคำขอเพิ่มเที่ยวบินเข้ามาอีกประมาณวันละ 40 เที่ยว อยู่ระหว่างการพิจารณาจาก กพท. ซึ่งจะต้องประเมินความพร้อมของสายการบิน รวมไปถึงบริการภาคพื้นที่รองรับผู้โดยสารด้วย
“ตอนนี้มีสายการบินจีนทำคำขอเข้ามาเยอะ แต่การจะอนุมัติเราต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงสายการบินมีดีมานด์เท่านั้น ต้องดูเรื่องของการบริการภาคพื้นที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้บริการผู้โดยสารเกิดปัญหาเมื่อมาถึงไทย”
ล่าสุดท่าอากาศยานภูเก็ต เผยสายการบินจีนเข้าภูเก็ต 5 สายการบิน เริ่ม 18 ม.ค.เป็นต้นไป ได้แก่
1.สายการบิน Spring Airlines เริ่มทำการบินวันที่ 18 ม.ค. 66 เส้นทางเซี่ยงไฮ้-ภูเก็ต-เซี่ยงไฮ้ ทำการบินทุกวัน
2.สายการบิน Juneyao Airlines เริ่มทำการบินวันที่ 18 ม.ค. 66 เส้นทางนานกิง-ภูเก็ต-นานกิง และเส้นทางเซี่ยงไฮ้-ภูเก็ต-เซี่ยงไฮ้ ทำการบินทุกวัน
3.สายการบิน Shanghai Airlines เริ่มทำการบินวันที่ 18 ม.ค. 66 เส้นทางเซี่ยงไฮ้-ภูเก็ต-เซี่ยงไฮ้ ทำการบินวันจันทร์/พุธ/ศุกร์/อาทิตย์
4.สายการบิน China Eastern Airlines เริ่มทำการบินวันที่ 19 ม.ค. 66, เส้นทางนานกิง-ภูเก็ต-นานกิง ทำการบินวันอังคาร/พฤหัสบดี/เสาร์
5.สายการบิน Sichuan Airlines เริ่มทำการบินวันที่ 20 ม.ค. 66 เส้นทางเฉิงตู-ภูเก็ต-เฉิงตู ทำการบินทุกวัน
นอกจากนี้ สายการบินที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอ SLOT รวม 3 สายการบิน ดังนี้ 1.สายการบิน Hinan Airlines 2.สายการบิน Air China 3.สายการบิน China Southern Airlines
นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เผยว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ 11 เส้นทาง 12 สายการบิน ส่วนเส้นทางบินจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.2566
โดยสายการบินจุนเหยา จะทำการบินเส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ และในวันที่ 20 ม.ค. สายการบินสปริงแอร์ จะทำการบินเส้นทาง กวางโจว-เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีสายการบินที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตทำการบินอีก 4 สายการบิน
ได้แก่ สายการบินแอร์ไชน่า เส้นทาง ปักกิ่ง-เชียงใหม่ สายการบินเสฉวน เส้นทาง เฉินตู-เชียงใหม่ สายการบินไชน่าอีสเทิน เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ และสายการบิน สายการบินสปริงแอร์ เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่
ทั้งนี้ในปี 2562 ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีเส้นทางบินตรงไปยังเมืองต่าง ๆ ของจีนทั้งสิ้น 19 เส้นทาง มีผู้โดยสารชาวจีนเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน และมีจำนวนผู้โดยสารชาวจีน ผ่านเข้าออกในปี 2562 กว่า 1.78 ล้านคน
นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์ในการกระตุ้นตลาดจีน คือ การขยายช่องทางการเดินทางเข้าไทย โดยทางอากาศจะเน้นผลักดันการเชื่อมต่อเที่ยวบินเชื่อมโยงเมืองหลัก และเมืองรอง ระหว่างไทย-จีน และการสนับสนุนชาร์เตอร์ไฟลท์เข้าไทย ซึ่งภาพรวมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ มีจำนวนเที่ยวบินเข้าไทย 2,301 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่ง 314,115 ที่นั่ง
อีกทั้งสายการบินมีแผนเพิ่มเส้นทางบิน คาดว่าจะเพิ่มที่ 20% ซึ่งคาดว่าจะมีที่นั่งรวมในไตรมาสแรกประมาณ 344,446 ที่นั่ง อัตรการบรรทุกเฉลี่ยอยู่ที่ 85% ททท.จึงคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยราว 320,397 คน
รวมไปถึงกระตุ้นการเดินทางผ่านช่องทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ประโยชน์จากเส้นทาง R3-A ทางบกซึ่งสำนักงานคุนหมิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้นำเอเย่นต์จากคุนหมิงมีพื้นที่ใกล้ชิดกับชายแดนของไทยมาสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดและพูดคุยพบปะผู้ประกอบการฝั่งอีสานเหนือ อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย เพื่อดีไซน์แพ็คเกจออกมา 3 ลักษณะ
ได้แก่ แพ็กเกจรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อภาคอีสานเหนือของไทย, ดีไซน์แพ็กเกจคาราวานทางรถยนต์ โดยสารเส้นทางโอเวอร์แลนด์ รูท R3A และคาราวานบิ๊กไบท์ จากเมืองทางใต้ของจีนทั้งหมด อาทิ กวางตุ้ง กว่างสี กุ้ยโจว หนิงเซีย คุนหมิง หยุนหนานจะเข้ามา และแพ็คเกจเรียลแอนด์ฟลาย นั่งรถไฟความเร็วสูงขึ้นมาและต่อเที่ยวบินมาเที่ยวทางทะเลได้
ด้านนางสาววรารัตน์ โชติวรรณ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด กล่าวว่า จีนเปิดประเทศเป็นผลดีกับไทย ที่เป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับ 3 ของนักท่องเที่ยวจีน ที่คาดจะเข้ามาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายม.ค.-เม.ย.นี้ ส่วนตราดซึ่งเป็นเมืองรอง นักท่องเที่ยวจีนนิยมมาแบบครอบครัวหรือส่วนตัวมากกว่า แต่เป็นกลุ่มคุณภาพ กำลังซื้อสูง อยู่เที่ยวหลายวันในหมู่เกาะจังหวัดตราด
ส่วนโรงแรมบนฝั่งนักท่องเที่ยวจะพักเพียง 1 คืน แต่ก็สร้างรายได้กระจายในหลายกลุ่ม เช่น ร้านอาหาร ห้างร้านค้าปลีกต่าง ๆ ทำให้เศรษฐกิจพื้นที่มีการหมุนเวียนเพิ่มขึ้น การเปิดประเทศของจีนจึงโอกาสที่ดีของการท่องเที่ยวไทยและตราด
ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่จะใช้เวลาประเมินสถานการณ์อีก 2-3 สัปดาห์ ก่อนพิจารณาปรับปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยอีกรอบ จากเดิมที่ในปี 2566 สศช. มองว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 23 ล้านคน ซึ่งเป็นการประเมินก่อนที่จีนจะเปิดประเทศ
เพิ่มไลน์สินค้าเพิ่มกำลังผลิต
นางสาวณัฐธิดา อนันต์นาท ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มสินค้าบิสกิตและชีส บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมาน่าจะช่วยให้ภาพรวมดีขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวจีนเป็นกำลังสำคัญในการจับจ่าย รวมไปถึงสินค้าของมอนเดลีซเองและไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวจีนแต่รวมไปถึงคนเวียดนามที่มาตามหาซื้อโอริโอ้ในไทย
โดยเฉพาะ OREO X BLACKPINK ซึ่งคิดว่าเราจะได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนแน่ๆเพราะรสชาตินี้ไม่มีขายที่จีน เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นไอเท็มที่นักท่องเที่ยวตามหา ซึ่งทางบริษัทได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตและนำเข้าล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมรองรับกับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้น
ด้านนายคิน โยเฮ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จึงไม่วิตกกังวลต่อการมาของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งดองกิได้เตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวจีนทั้งในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยจะใช้มาตรการเท่าที่จำเป็นเหมือนที่ผ่านมา ในส่วนแผนการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนจะมีการตรวจสอบข้อมูลสถิติการขาย นำเสนอสินค้าที่เป็นที่ต้องการต่างๆ ของนักท่องเที่ยวจีนรวมทั้งป้ายประชาสัมพันธ์สินค้าภาษาจีนด้วย
เช่นเดียวกับนายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI กล่าวว่า การที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากเดิมที่คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มกลับเข้ามาประมาณไตรมาสที่ 2/2566
นับเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทและจะส่งผลดีต่อเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ในปี 2566 เพราะการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน เชื่อว่าจะกลับมาเร็ว แรง และเติบโตสูง จากการที่นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ที่โหยหาการเดินทาง หลังมีดีมานด์ที่อั้นไว้จากมาตรการ Zero Covid ที่กินระยะเวลานานในช่วงที่ผ่านมา
“บริษัทเตรียมพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามา โดยมีช่องทางรับชำระเงินหลากหลาย รวมถึง WeChat และ Alipay เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวจีน รวมถึงการมีสินค้าที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนมักจับจ่ายสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะการซื้อสินค้าเป็นของฝาก ซึ่งร้าน Moshi Moshi นับว่าเป็นร้านที่ตอบโจทย์และตรงความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน
เนื่องจากสินค้ามีความเป็นเอกลักษณ์ และมีจำหน่ายเฉพาะในร้าน Moshi Moshi เท่านั้น รวมถึงมีสาขาอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และในกรุงเทพฯ อาทิ ละแวกประตูนํ้า ราชดำริ ฯลฯ ทำให้มีฐานลูกค้าต่างชาติและถือเป็นกลุ่มหลักของ MOSHI อีกด้วย”
นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต (WARRIX) กล่าวว่า การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนเชื่อว่าจะมีผลอย่างมากกับวอริกซ์ เพราะในส่วนของยอดขายปลีกในช่วงก่อนโควิด ยอดขาย 50% มาจากนักท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวส่วนมากใน 50% นี้เป็นนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเข้ามาช้อปทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรดหรือช้อปของวอริกซ์เอง กินสัดส่วนยอดขายกว่า60% ของวอริกซ์
เพราะฉะนั้นการเปิดประเทศของจีนก็น่าจะมีกำลังซื้อเข้ามาเทียบเท่าก่อนโควิด ซึ่งวอริกซ์คาดหวังว่ากำลังซื้อ 50-60% ที่หายไปจะกลับมาจับจ่ายใช้สอยและน่าจะมีดีมานด์เก่าที่หายไปกลับเข้ามาใหม่ด้วย