วัดหงษ์ทอง บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดใกล้เคียงที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว หลังจากที่เปิดให้ประชาชนได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ ด้วยการใช้สะพานกระจกที่ทอดยาวออกไปเพื่อชมวิวและความงามของพระอาทิตย์ตกกลางทะเล
ทั้งนี้ มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า สกายวอล์คแห่งนี้จะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนเมษายน 2566 แต่กลับสามารถเปิดให้บริการได้ก่อนกำหนด
วัตถุประสงค์ของการสร้างจุดสกายวอล์คในครั้งนี้นั้น พระปลัดวัชระ ปญฺญาวชิโร เจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เปิดเผยว่า เดิมทีนั้นวัดมีที่ดินอยู่ประมาณ 22 ไร่ แต่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเหลือเพียงแค่ 8 ไร่ซึ่งที่ผ่านมาทางวัดได้พยายามสร้างซีวอล์ค (sea walk) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 2.50 เมตร ความสูง 4.70 เมตร ซึ่งจะยกขึ้นฐานในวันที่ 15 ก.พ.66 นี้
ในส่วนของจุดซีวอล์ค (sea walk) นั้น มีความยาว 40 เมตร กว้าง 3 เมตร ใช้กระจก 240 แผ่น หนา 3 ชั้น รองรับน้ำหนักคนได้ประมาณ 200 คน โดยชั้นล่างสุดสามารถกันกรดกันด่าง ชั้นที่ 2 เป็นกระจกที่มีความยืดหยุ่น ชั้นที่ 3 เป็นกระจกนิรภัยโดยแต่ละแผ่นจะมีความหนา 10 มม.
ประวัติวัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ
วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ที่ชาวบ้านเรียกกันโดยทั่วไป เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2529 ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างน่าตื่นตาหลายแห่ง ได้แก่
1.เจดีย์ที่บรรจุพระธาตุในทะเลใช้ชื่อว่า พระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากรณ์ปราชญ์ศรนิลอนุสรณ์ ซึ่งบรรจุพระธาตุอรหันต์ในทะเลเป็นแห่งแรกของโลก
2.โบสถกลางทะเล ภายในมีพระประธานสีทองและมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ
3.ด้านหลังอุโบสถมีรูปหล่อเสด็จเตี่ย หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
นอกจากนั้นวัดหงษ์ทองแห่งนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์, หลวงพ่อโต, ศาลพ่อปู่ชีวกโกมารภัจจ์, พระแม่คงคา
ศูนย์พัฒนาจิต ศาลาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศรนิลอนุสรณ์ ตั้งยื่นไปในทะเล
ในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีจะเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนมาบวชเนกขัมมะ หรือ การบวชพราหมณ์
ที่ตั้งวัดหงษ์ทอง
ที่อยู่ถนนสุขุมวิท, ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เวลาทำการ 6.00–20.00 น.
ข้อมูลและภาพประกอบ วัดหงษ์ทอง