หลังจาก "พาที สารสิน”ลาออกจากเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) สายการบินนกแอร์มาตั้งแต่ปี 2560 โดยหันไปทำบริษัทแพลตฟอร์มท่องเที่ยวของตัวเองอย่าง Really Cool อยู่หลายปี ล่าสุดก็ได้หวนกลับสู่ธุรกิจการบินอีกครั้ง
โดยประกาศเปิดตัวสายการบินใหม่ "Really Cool Airlines"ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินและการบริการของประเทศไทย ด้วยพันธกิจในการให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกและความเป็นเลิศในการให้บริการ ภายใต้สโลแกน 'We Fly the Future' ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2566
การจัดตั้งสายการบินใหม่ในวัย 60 ปี นายพาที สารสิน ตั้งเป้าเลิศหรูว่า "Really Cool Airlines” จะเป็น ไลฟ์สไตล์ ฟูลเซอร์วิส สยายปีกบินเฉพาะเส้นทางพิสัยไกล เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย ยุโรป หวังตีตลาดเส้นทางบินพิสัยไกลทั่วโลก
พาที สารสิน CEO Really Cool Airlines เปิดใจว่า การออกจากวงการการบินในครั้งนั้น ไม่เคยคิดว่าจะกลับมาในธุรกิจการบินอีก เพราะธุรกิจนี้ยากมาก มีความท้าทายสูง
แต่สาเหตุที่ได้หวนคืนกลับมาเพราะเมื่อ 2-3 ปีก่อน ได้มีโอกาสเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อนคนหนึ่ง คือ นัตดา บุรณศิริ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ในช่วงที่สายการบินต้องปรับโครงสร้างกิจการ
เมื่อได้เข้าไปคลุกคลีกับวงการการบินอีกครั้ง ประกอบกับเกิดโควิด-19 ทำให้เห็นโอกาสที่จะเข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการด้วยสายการบินใหม่ โดยเป็นไอเดียร่วมกับคุณนัตดาที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน เริ่มคิดวางแผนก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือนมิถุนายน 2565
โชคร้ายที่นัตดา บุรณศิริเสียชีวิตไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน แต่ผมก็เลือกที่จะสานต่อความตั้งใจที่มีร่วมกัน และเปิดตัว Really Cool Airlines ต่อไป
ความจริงเราวางแผนจัดตั้งสายการบินตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 แม้ต้องยอมรับว่า การตั้งสายการบินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานานทำให้มีประสบการณ์ เพราะการกลับมาใหม่ในครั้งนี้ ก็ผ่านเสียงวิพากย์วิจารณ์ ทั้งคำติคำชมมาสูงมากแล้ว
บวกกับเรามีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)ช่วยดูแลเรื่องนโยบายและความปลอดภัยให้ตรงตามมาตรฐานองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO อีกทางด้วย ส่วนรายละเอียดจำนวนเครื่องบิน เที่ยวบิน และเส้นทางการบิน จะชัดเจนในอีก 8-10 เดือนต่อจากนี้
ขณะที่คำว่า Really Cool ที่เป็นชื่อสายการบินจึงตั้งมาเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนต่างชาติ เข้าใจ ‘ฟีลลิ่ง’ ของคำนี้ และเป็นคำที่ชัดเจนในการทำงานว่าอะไรก็ตามที่ไปถึงลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการบริการ อาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ จะต้อง “สุดคูล” จริงๆเน้นนำนวัตกรรมเทคโนโลยีจากต่างชาติเข้ามา เป็นครั้งแรกและต่างจากสายการบินอื่น
ส่วนผู้ถือหุ้นของสายการบิน Really Cool มีผู้ถือหุ้นเป็นคนไทยทั้งหมด โดยตนถือหุ้น 51% ส่วนที่เหลือเป็นเพื่อนๆ ที่รู้จักกันจากหลายวงการ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่เคยทำธุรกิจการบินมาก่อน แต่มองเห็นเป้าหมายร่วมกันว่าสายการบินจะสามารถดึงเม็ดเงินภาคการท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ และมีแพสชันที่จะสร้างธุรกิจที่เป็น “นวัตกรรม” ใหม่ของอุตสาหกรรม มองมากกว่ากำไรขาดทุน
นายพาที กล่าวต่อว่า เมื่อโควิด-19 จบ ทุกคนกลับไปทำตาม norm ปกติที่เคยทำมา ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ แต่จริงๆ วงการนี้ท้าทายมาก และมีรูโหว่ให้เราอุดอีกมาก เช่น ถ้าเครื่องบินมีปัญหาขึ้นบินไม่ได้ เราจะแก้ไขอย่างไรไม่ให้กระทบผู้โดยสาร หรือการวางแผนเฮดจ์ราคาน้ำมันจะทำอย่างไรให้แม่นยำขึ้น
Really Cool สายการบินพิสัยไกลสุดคูลคอนเซปต์ของ Really Cool Airlines จะเป็นสายการบินที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโลว์คอสต์กับพรีเมียม โดยให้นิยามว่าเป็นสายการบินแบบ “ไลฟ์สไตล์ ฟูลเซอร์วิส” ซึ่งการเข้ามาจับกลุ่มนี้เพราะในตลาดยังมีสายการบินระดับนี้น้อย Really Cool สามารถสร้างความแตกต่างได้
สำหรับเส้นทางบินจะเน้นเฉพาะเส้นทางต่างประเทศและเน้นการบินพิสัยไกล แย้มว่าเส้นทางแรกๆ ที่วางไว้คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และยุโรป (ปารีส) โดยที่ตัดสินใจทำธุรกิจการบินระหว่างประเทศ เพราะมองว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ 70% เป็นนักท่องเที่ยวขาเข้า (inbound) จากต่างประเทศ
ในส่วนของเครื่องบินจะใช้เครื่องบินแอร์บัส A330 เบื้องต้น จะทั้งหมด 4 ลำ แบ่งเป็นเฟสแรกปีนี้ 2 ลำ และต้นปีหน้าเข้ามาอีก 2 ลำ ทั้งหมดเป็นเครื่องเช่าจาก Airbus รุ่น A330 ที่เหมาะกับการบินพิสัยกลางถึงไกล
ไทม์ไลน์หลังจากนี้ เดือนเมษายนจะเริ่มมีการทำการตลาดเพื่อให้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ของสายการบิน ตามด้วยเดือนมิถุนายนเริ่มรับสมัครกัปตันและลูกเรือ คาดว่าจะได้ใบรับรองผู้ดำเนินการอากาศ (AOC) ภายในเดือนตุลาคมนี้ และเที่ยวบินปฐมฤกษ์น่าจะเริ่มได้เดือนธันวาคม 2566 เส้นทางบินเที่ยวแรกจะเป็นในภูมิภาคเอเชียก่อน
อย่างไรก็ตามแม้อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกขณะนี้ แม้ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติด้วยกำลังคนยังขาดแคลน และเครื่องบินขาดแคลน คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปีกว่าจะกลับเข้าสู่ช่วงปกติได้เหมือนก่อน ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินจะยังแพงไปอีกนานเช่นกัน
สำหรับเป้าหมายของสายการบิน Really Cool Airlines เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย ซึ่งมองว่ามีจำนวนผู้โดยสารล่าสุดปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 40 ล้านคนต่อปี ส่วนในปี 2566 ก็มีเข้ามาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 25 ล้านคน
หลังจากมีการยกเลิกข้อจำกัดในการปลดล็อกการควบคุมโควิด และสามารถจัดทำทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีนไปต่างประเทศได้ โดยททท. ตั้งเป้าหมายในเชิงบวกว่า ทั้งปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย สูงสุดที่ 30 ล้านคน หรือฟื้นตัวกลับมาประมาณ 80% ของจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคนที่บันทึกไว้ในปี 2562
ทั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทาง ททท. ได้เคยกล่าวไว้ ประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนสายการบินและเที่ยวบินที่ให้บริการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสายการบินที่มีให้บริการไม่เพียงพอกับความต้องการ
จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวสายการบินใหม่ครั้งนี้ ซึ่งส่วนตัวก็มีประสบการณ์การให้คำแนะนำในหลายบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบินด้วย โดยเป้าหมายในระยะยาว ยืนยันว่า ไม่ได้เน้นที่จำนวนเครื่องบิน เพราะต้องดูว่าตลาดต้องการอะไร แต่ยืนยันว่าจะเน้นผู้โดยสารเป็นสำคัญโดยเฉพาะความปลอดภัยในระดับสากล
ความท้าทายของอุตสาหกรรมการบิน ยอมรับว่ายังมีปัจจัยความเสี่ยงจากสถานการณ์โรคระบาด คยามไม่แน่นอนของสงครามยูเครน-รัสเซีย ธนาคารการเงินบางประเทศที่ล้ม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบินมีความเสี่ยง เราจึงต้องวางแผนให้ดี ป้องกันให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เน้นความปลอดภัยผู้โดยสารเป็นหลัก
รวมทั้งมองว่า อุตสาหกรรมการบินยังมีปัญหาเรื่องสายการบิน สนามบิน ตารางการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด จึงมองว่าในระยะ 2-3 ปีนี้ อุตสาหกรรมการบินจะยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิดได้
เราไม่ได้คาดหวังว่าเราจะเป็นสายการบินที่ดีที่สุดของวงการ แต่เราจะเป็นสายการบินที่มีนวัตกรรมก้าวหน้ามากที่สุด