เชียงใหม่บูม สงกรานต์‘สิริมงคล’ สู่‘มรดกมนุษยชาติ’ของยูเนสโก     

สอดคล้องกระทรวงวัฒนธรรมเสนอยูเนสโก ขึ้นทะเบียนมรดกมนุษยชาติที่จับต้องไม่ได้

 ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่กลับมาจัดงานประเพณีสงกรานต์หรืองาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” อีกครั้ง โดยจัดเต็ม 9 วัน มีกิจกรรมมาก มายหลากหลายน่าสนใจ โดยมียอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวแล้ว 78% และช่วงงานน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขอเชิญชวนร่วมแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง หรือสวมเสื้อลายดอก มาสรงนํ้าพระ กราบไหว้พระขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล

ขณะที่นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปีนี้เทศบาลนครเชียงใหม่จะกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่เต็มรูป หลังจากงดไปหลายปีจากการระบาดเชื้อโควิด-19 โดยงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 9-10 เม.ย. ซึ่งจะเป็น การซ้อม จากนั้นวันที่ 12 เม.ย.2566 เปิดเทศกาลด้วยงาน “ยอสวยไหว้สา พระญามังราย ปีที่ 11” ณ ช่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อระลึกถึงองค์บูรพกษัตริย์ ที่ร่วมกันสร้างเมืองเชียงใหม่ในอดีต เพื่อเฉลิมฉลองวาระเชียงใหม่ 727 ปี

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนวันที่ 12-16 เมษายน 2566 อาทิ การทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ไทย ขบวนแห่สรงนํ้าพระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปที่สำคัญในเมืองเชียงใหม่ การแสดงแสงสีเสียง การประกวดเทพีและเทพบุตรสงกรานต์ และกิจกรรมอื่นๆ ที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมล้านนา

ด้านนางสิริรัตน์ โอภาพ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมประเพณีสงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2566 ที่ตั้งแต่วันที่ 12-17 เม.ย.นี้ มีหลากหลาย ทั้งการทำบุญตักบาตรและพิธีบวงสรวงสักการะองค์พระญามังราย เนื่องในวันสถาปนาเมืองเชียงใหม่ 727 ปี การจัดนิทรรศการองค์ความรู้ประเพณีสงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ สาธิต “การแต่งดาคัวดำหัว” ในรูปแบบของชาวเชียงใหม่

การแสดงศิลปวัฒนธรรมขับซอล้านนา การแข่งขันปั๋นปอนปี๋ใหม่เมือง (ให้พรสงกรานต์) การอ่านและเขียนตัวเมือง กิจกรรมการตัดช่อตุง ก่อเจดีย์ทราย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรมได้ ณ วัดอินทขิล วัดโลกโมฬี และข่วงวัฒนธรรมหอคำพระญามังราย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

โดยเน้นในเรื่องคุณค่าสาระสำคัญ ความเชื่อในแต่ละวันของประเพณีสงกรานต์ ทั้งในระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่น ที่เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สืบสานสืบทอดต่อกันมา เพื่อให้ความรู้แก่คนรุ่นใหม่ แก่นแท้ของประเพณี และให้สอดคล้องกับกระทรวงวัฒนธรรม ที่จะเตรียมเสนอยูเนสโก พิจารณาขึ้นทะเบียนประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของมนุษยชาติ ในปลายปีพ.ศ. 2566 นี้

เทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ปีนี้ ยังมีการแจกจ่ายนํ้าทิพย์แก่ประชาชนทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยวันที่ 10 เม.ย. 2566 เป็นวันทำพิธีหุงนํ้าทิพย์ ที่อัญเชิญมาจาก 9 แหล่งนํ้าสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ วัดป่าแดด วัดพุทธเอ้น อ่างกาหลวง ขุนนํ้าแม่ปิง วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ วัดผาลาด วัดดับภัย วัดบุพพาราม และวัดเจดีย์เหลี่ยม เพื่อมาทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เตรียมไว้แจกจ่ายประชาชน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล

อีกทั้งเพื่อเป็นจุดดึงดูด นักท่องเที่ยว ที่ต้องการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในแบบล้านนาโบราณ ที่หายไปเป็นเวลานานกว่าร้อยปี ในพิธีกรรมอันลํ้าค่าที่สัมผัสที่ไหนไม่ได้นอกจากเมืองเชียงใหม่ และเป็นการสร้างการรับรู้ ส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่า ที่หาชมได้ยากและมีความหมายแก่นักท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคภาคเหนือ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ด้วย

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเน้นสืบ สานประเพณีวัฒนธรรม และพิธี กรรมโบราณ โดยปีนี้มีกิจกรรม “นํ้าทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” จากแหล่งนํ้าศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง มาแจกจ่ายทั่วเมืองรวม 9 จุด 10,727 ขวด

ขณะนี้อัตราการจองห้องอยู่ที่ประมาณกว่า 78% คาดน่าจะถึง 80% ในช่วงหยุดยาว 4 วัน ประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปที่ประมาณ 6,000 กว่าบาท คาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้าเชียงใหม่มากกว่า มากกว่า 116,159 คน คนไทยเกือบ 90,000 คน ที่เหลือก็จะเป็นต่างชาติ อาทิ เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ไต้หวัน และจีน ที่ตอนนี้ก็เปิดเส้นทางบินเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเมือง หรือจากทางยุโรป อเมริกา จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวกว่า 1,192.98 ล้านบาท 

นภาพร ขัติยะ/รายงาน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,878 วันที่ 13-15 เมษายน พ.ศ.2566