วันนี้ (27 เมษายน 2566) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าว “เปิดฤดูกาลเทศกาลอาหารและผลไม้ภาคตะวันออก” ชวนคนไทยออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว เชิงอาหารในช่วงไฮซีซั่นของภาคตะวันออก
ตามคอนเซปต์ “สบ๊าย สบาย ภาคตะวันออก” เสนอ สบ๊าย สบาย สายกิน เที่ยวไปกินไป สบายพุง พร้อมจัดเต็มกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นพิเศษผ่าน 6 สำนักงาน ททท. เพื่อกระตุ้นความถี่ในการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในปี 2566 ททท. ได้วางทิศทางส่งเสริมตลาดในประเทศผ่านกลยุทธ์การนำเสนอ Soft Power (5F) ด้วยเมนูประสบการณ์มิติใหม่ที่มีความหลากหลาย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวของแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ
สำหรับภาคตะวันออก ททท. เสนอแนวคิด “สบ๊าย สบาย ภาคตะวันออก” ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความโดดเด่นด้วย Soft Power ด้านอาหาร (Food) เป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลสด ผลไม้ขึ้นชื่อ และมีสวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 80 สวน จึงนำเสนอการท่องเที่ยวในรูปแบบ “สบ๊าย สบาย สายกิน : เที่ยวไปกินไป สบายพุง”
ประกอบกับในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคมเป็นช่วงฤดูกาลผลไม้ของภาคตะวันออกที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว จึงได้กำหนดจัดกิจกรรม“เปิดฤดูกาลเทศกาลอาหารและผลไม้ภาคตะวันออก” ผลักดันสินค้าทางการตลาด 5 F ได้แก่
F-Food เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มอัตราวันพักค้าง (OR) ในพื้นที่ สร้างการรับรู้กระแสการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา ลดการกระจุกตัวในวันหยุด เพื่อกระจายการท่องเที่ยวอย่างสมดุลในพื้นที่ภาคตะวันออก นำไปสู่การสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก
ภายในงานแถลงข่าวฯ ททท. ทั้ง 6 สำนักงานภาคตะวันออก ยังได้เชิญผู้ประกอบการมาร่วมนำเสนอและขายสินค้าราคาพิเศษ ในโอกาสเปิด “ฤดูกาลเทศกาลอาหารและผลไม้ภาคตะวันออก”
อาทิ ส้มตำทะเล ยำซีฟู้ด จาก ส้มตำอาวดี้ ทุเรียน เงาะ มังคุด จากสวนเจริญชัย ทุเรียนเมืองตราด by แสนตุ้งพันธุ์ไม้ มะม่วงนานาพันธุ์ และข้าวเหนียวมะม่วง จากวิสาหกิจชุมชน ของดีอำเภอบางคล้า by ขวัญเรือน ทุเรียนหมอนทองปราจีนบุรีทุเรียนชะนี และลองกอง จากสวนมนัส ฮวดจึง บุฟเฟ่ต์ผลไม้ และบัตรทานบุฟเฟ่ต์ผลไม้ในราคาสุดพิเศษ จาก สวนละไม
ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกตลอดฤดูกาล ททท. ภูมิภาคตะวันออกทั้ง 6 สำนักงาน ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสินค้าการท่องเที่ยว ดังนี้
จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Fresh Up Chonburi 'เที่ยวหรู อยู่สบาย' นำเสนอขายแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ และบริการเชิงสุขภาพ Wellness & Spa ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2566 ผ่านช่องทางเว็บไซต์ Makalius.co.th
กิจกรรม วันธรรมดา น่าตี (กอล์ฟ) @ชลบุรี เสนอแพ็กเกจสนามกอล์ฟราคาพิเศษทั่วชลบุรี พร้อมแจกโค้ดส่วนลดเพิ่ม เมื่อจองสนามผ่าน แอปพลิเคชั่น golfdigg ระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2566
จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดา โครงการ Let's sea Rayong และมอบส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าและบริการกิจกรรมดำน้ำ พายเรือคายัค และเล่นกีฬาซัพบอร์ด ณ สถานประกอบการ 11 แห่งทั่วจังหวัดระยอง ตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไปในวันธรรมดา ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2566 และมอบส่วนลดพิเศษ 100 บาท เมื่อซื้อผลไม้ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ -15 กรกฎาคม 2566
ชวนร่วมกิจกรรมอร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวนผลไม้จันทบุรี
รับส่วนลด 100 บาท เมื่อเป็นนักท่องเที่ยว 1,000 คนแรกที่เข้าชมสวนภายโครงการฯ
ททท. สำนักงานตราด มอบส่วนลดพิเศษ 100 บาท เมื่อช้อปออนไลน์ ซื้อผลไม้ครบ 500 บาท (ไม่รวมค่าขนส่ง) หรือเข้าสวนผลไม้รับประทานบุฟเฟ่ต์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2566
ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ Coco Cowboy สวนมะพร้าวน้ำหอม แปดริ้ว ซื้อสินค้าครบ 300 บาท แลกรับเครื่องดื่มฟรี ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2566 และสวนมะม่วงอำนาจคลองเขื่อน มอบส่วนลดพร้อมค่าจัดส่งราคาพิเศษ ภายในเดือนพฤษภาคม 2566
นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษและส่วนลดรับฤดูร้อน แพ็คเกจ
4 กิจกรรมและ 6 กิจกรรมสุดสนุกที่เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน (The Verona at Tub Lan) จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวของภาคตะวันออก ปี 2565 พบว่า มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน จำนวนกว่า 28 ล้าน คน-ครั้ง สร้างรายได้ 114 แสนล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 50.29% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) ร้อยละ 85.5
ทั้งมีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ ได้แก่ การถ่ายภาพเช็กอินตามแหล่งท่องเที่ยวและชิมอาหารท้องถิ่น ซึ่งอาหารทะเลและผลไม้ภาคตะวันออกยังคงเป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ
ททท. เชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมกระตุ้นการตลาดในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้น สร้างกระแสให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวไปยังภาคตะวันออกเพิ่มขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
ตามเป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2566 รายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท เพื่อให้ภาพรวมรายได้กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562