บริษัท เวียตเจ็ท จอยท์ สต๊อค จำกัด (Vietjet Aviation Joint Stock Company (HoSE: VJC)) จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (General Meeting of Shareholders หรือ GMS) เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 พร้อมเผยแผนประกอบการเพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (GMS) วางเป้าหมายให้เวียตเจ็ท (เวียดนาม) ขยายฝูงบินด้วยอากาศยานใหม่จำนวน 87 ลำ รวมถึงอากาศยานลำตัวกว้าง แอร์บัส A330 จำนวน 9 ลำ โดยคาดว่าจะให้บริการกว่า 139,513 เที่ยวบิน มีจำนวนผู้โดยสาร 25.7 ล้านคน ซึ่งรายได้รวมตามเป้าหมายในปี 2566 อยู่ที่ 50,178 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 2.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่กำไรหลังหักภาษีตั้งอยู่ที่ 1,000 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 42.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เวียตเจ็ทจะรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดอุตสาหกรรมการบินในเวียดนาม เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการและคุณภาพบริการ การบรรลุข้อตกลงกับผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแอร์บัส (Airbus) และ โบอิ้ง (Boeing) ในการส่งมอบอากาศยานตรงต่อเวลา การขยายบริการภาคพื้น การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการจัดการทางการเงินเพื่อลดต้นทุนขณะที่ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (GMS) ยังได้วางเป้าหมายในผลักดันให้เวียตเจ็ท (เวียดนาม) เป็นสายการบินชั้นนำในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การเพิ่มทุนเพื่อการพัฒนา และให้ความสำคัญกับการเติบโตของสินทรัพย์และการเพิ่มความสามารถทางการเงิน พร้อมทั้งวางรากฐานสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเวียตเจ็ท (เวียดนาม)
สำหรับปี 2565 เวียตเจ็ท (เวียดนาม) ให้บริการเที่ยวบินกว่า 116,261 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 186% เทียบกับปี 2564 และมีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 20.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 283% เทียบกับปี 2564 จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการทำให้เวียตเจ็ท (เวียดนาม) เป็นผู้นำตลาดในเวียดนาม ขณะเดียวกัน เวียตเจ็ทได้นำอากาศยานลำตัวกว้าง แอร์บัส A330 เข้าประจำการในฝูงบินเพื่อให้บริการบนเส้นทางบินระยะไกล สู่ คาซัคสถาน อินเดีย และออสเตรเลีย อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รายงานจากการตรวจสอบงบการเงินในปี 2565 แสดงถึงรายได้รวมของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 40,142 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 1.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 212% จากปี 2564
สินทรัพย์ระยะยาวของสายการบินฯ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 68,036 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 2.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.3 ซึ่งถือว่าดีในอุตสาหกรรมการบิน การชำระภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับงบประมาณของรัฐมีมูลค่ารวม 4,350 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 186.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในการยกระดับบริการเช็คอินด้วยการใช้แท็บเล็ต ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภาคพื้นสามารถดำเนินการเช็คอินแก่ผู้โดยสารได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการรวมบริการของ HD Insurance และ Galaxy Pay เข้าด้วยกันเพื่ออำนวยความสะดวกและเสนอทางเลือกเพิ่มเติมแก่ผู้โดยสาร
นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้เปิดตัวโปรแกรมสมาชิกสกายจอย (SkyJoy) มอบสิทธิพิเศษมากมายแก่สมาชิก และระบบชำระเงินแบบ Point of Sale (POS) สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการบนเที่ยวบิน