กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แจง ตามที่ปรากฏการรายงานข่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้กำหนดมาตรการการตรวจลงตราวีซ่าใหม่ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 สำหรับบริษัทนำเที่ยวของจีน ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศของนักท่องเที่ยวจีน และเรียกร้องให้มีการบททวนมาตรการดังกล่าวนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนดังนี้
1.กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้กำหนดมาตรการการตรวจลงตราเพิ่มเติมใด ๆ ดังที่ปรากฏในสื่อ
2.ในกรณีของประเทศจีน กระทรวงการต่างประเทศเพียงกำชับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งให้ปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติการตรวจลงตราที่มีอยู่แล้ว
โดยในกรณีของการตรวจลงตรานักท่องเที่ยวจีนผ่านบริษัทนำเที่ยว ก็ขอให้บริษัทนำเที่ยวกรอกข้อมูลและอัพโหลดเอกสารผ่านระบบการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) ให้ถูกต้องและครบถ้วน (มิใช่มาตรการใหม่) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับการยื่นขอรับการตรวจลงตรา
โดยนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะขอยื่นด้วยตนเอง เพื่อให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่สามารถพิจารณาคำร้องและคัดกรองการเดินทางในฐานะหน่วยงานหน้าด่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเน้นย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวมิใช่การกำหนดมาตรการใหม่แต่อย่างใด โดยระบบ e-Visa แบบไร้แผ่นปะได้เริ่มใช้มา 2 ปีแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวจีน
ทั้งนี้ในส่วนของเอกสารและหลักฐานประกอบการขอรับการตรวจลงตราก็เป็นเอกสารพื้นฐานซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับการขอรับการตรวจลงตราท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง หลักฐานการสำรองที่พัก บัตรโดยสารเครื่องบิน และหลักฐานการเงิน
4.กระทรวงการต่างประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวและแนวโน้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเพิ่มมากขึ้น จึงได้กำหนดมาตรการและกลไกต่าง ๆ ได้แก่
5.เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในจีนทุกแห่งเร่งสร้างความเข้าใจกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทนำเที่ยวให้ดำเนินการตามระเบียบและแนวปฏิบัติที่มีอยู่แล้วอย่างเคร่งครัด ซึ่งมิได้เป็นการกำหนดมาตรการใหม่แต่อย่างใด