เอกชนภูเก็ต จี้รัฐเร่งลดขั้นตอน จดทะเบียนใบอนุญาตโรงแรม

06 ก.ค. 2566 | 07:49 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2566 | 09:21 น.

ผู้ว่าฯภูเก็ต ถกผู้ประกอบการโรงแรม เข้มดัดแปลงอาคารทำที่พักต้องมั่นคง ปลอดภัยตามกฎหมายกำหนด ขณะเอกชน จี้รัฐเร่งลดขั้นตอนจดทะเบียนใบอนุญาต เผยโรงแรมในภูเก็ตเปิดกิจการ 4,600 แห่ง แต่มีใบอนุญาต 900 แห่ง


วันที่ 5 กรกฎาคม 2566  นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับ 4) พ.ศ 2566 ครั้งที่ 1/2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการกิจการโรงแรมที่พักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
เอกชนภูเก็ต จี้รัฐเร่งลดขั้นตอน จดทะเบียนใบอนุญาตโรงแรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้มีการแจ้งแนวทางในการดำเนินการตามกฏกระทรวงลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุระกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4) พร้อมทั้งมีการชี้แจงแนวทางกวดขันดูแลการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารของรัฐให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการกิจการโรงแรมที่พักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตรับทราบ และถือปฏิบัติให้มีความถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

ด้านสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำโดย นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสททเขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) และ นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโรงแรมขนาดเล็ก พร้อมสมาชิก เข้าร่วมประชุม

เอกชนภูเก็ต จี้รัฐเร่งลดขั้นตอน จดทะเบียนใบอนุญาตโรงแรม

นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโรงแรมขนาดเล็ก สทท กล่าวว่า คาดการณ์ว่า การปลดล็อคกฎหมายฉบับนี้จะสามารถทำให้ผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก ยื่นขอใบอนุญาตได้กว่า 50-60% ซึ่งจังหวัดภูเก็ตเอง มีโรงแรมที่มีใบอนุญาตแล้ว 900 โรง แต่มีโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่กว่า 4,600 โรง

ขณะที่นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสททภูเก็ตและเขต 11 กล่าวเพิ่มเติมว่า หากทางภาครัฐช่วยเร่งรัดในขั้นตอนการขอจดทะเบียนใบอนุญาตโรงแรม และช่วยให้ความรู้ประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ประกอบการที่ยังไม่มีใบอนุญาตให้เข้ามาขอรับ จะช่วยให้โรงแรมจำนวนมากมีโอกาสเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องและสามารถยื่นกู้กับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อขอ Soft loan กลับมาเปิดกิจการต่อไป  

และทิ้งท้ายว่า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ตเองมีแผนการจัดสัมนาให้ความรู้เรื่องนี้ ซึ่งปักหมุดไว้เป็นเดือน สิงหาคม 2566 ที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมทุกท่านเข้าสู่ระบบเพิ่มเม็ดเงินให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยให้เติบโตต่อไป

 

สำหรับการประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2566 แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559

เพื่อให้อาคาร ที่มีอยู่ก่อนวันที่ 19 สิงหาคม 2559 สามารถนำอาคารดังกล่าว ที่ประสงค์จะเปลี่ยนการใช้อาคารมาประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ให้เข้าสู่ระบบการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ โดยได้รับการผ่อนผันยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับที่ว่างของอาคาร ช่องทางเดินในอาคาร ความกว้างของบันได ระยะถอยร่นแนวอาคาร ฯลฯ 

 

แต่อาคารที่จะเปลี่ยนการใช้ดังกล่าวต้องมีความมั่นคงแข็งแรงและมีระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว จะสามารถเป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประกอบการในการสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับชุมชน และระดับประเทศ เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

กำพล ฝอยทอง : รายงาน