ปิดฉาก 8 ปี "ยุทธศักดิ์ สุภสร" ผู้ว่าททท.คนนอก สร้างบริบทใหม่ท่องเที่ยวไทย
ปิดฉาก 8 ปี “ยุทธศักดิ์ สุภสร” จากผู้ว่าททท.คนนอกคนแรกที่ถูกยี้ สู่การยอมรับอย่างท่วมท้น ผู้ปรับเปลี่ยน DNA ททท.สู่ความเป็นมืออาชีพด้านการส่งเสริมท่องเที่ยว นำทัพขับเคลื่อนท่องเที่ยวฝ่า 3 วิกฤตใหญ่ สร้างบริบทใหม่ท่องเที่ยวไทย
ย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว “ยุทธศักดิ์ สุภสร” หรือ ผู้ว่า "ตุ๊" นับว่าเป็นผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คนนอกคนแรกของททท. ที่เข้ามาบริหารงานตั้งแต่ปี 2558 และจากผลงานที่สร้างชื่อเสียงไว้ ทำให้มีการต่ออายุ จนครบการบริหาร 2 สมัยรวด และเพิ่งจะหมดวาระไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566
วันแรกที่ “ยุทธศักดิ์ สุภสร” เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการททท. เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2558 ด้วยความที่เป็นผู้ว่าททท.คนนอกคนแรก ทำให้คนในททท.ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้สึกแฮปปี้มากนัก แต่ด้วยสไตล์การทำงานที่คิดเร็ว ทำเร็ว อัดแน่นไปด้วยข้อมูล มีเหตุมีผล มีความสามารถรอบด้าน และบุคคลิกที่เป็นกันเองกับผู้ร่วมงานและพันธมิตร และสร้างผลงานนำทัพขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย ฝ่าวิกฤตมาแล้วก็หลายรอบ ทำให้คนส่วนใหญ่ในองค์กรปรับทัศนคติหันมาให้การยอมรับผู้ว่าคนนอกคนแรกคนนี้ และร่วมกันทำงานเพื่อก้าวข้ามวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้น
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ของผู้ว่า“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ไม่ง่ายเลย 2 ปีแรกเข้ามาก็เจอปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งการที่รัฐพยายามควบคุมคุณภาพ แต่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง สวนทางกับการรักษาการเติบโตของนักท่องเที่ยว ที่เราก็ต้องทำให้บาลานซ์กัน อีก 2 ปีต่อมาตามมาด้วยเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต ที่ตอนนั้นกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของไทย
ปิดท้ายวิกฤตหนักสุดๆ คือ สถานการณ์โควิด-19 ที่กินเวลานานกว่า 3 ปี ที่ฝ่าฝันมาจนเปิดประเทศได้สำเร็จฟื้นการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาได้แล้วกว่า 80% จากก่อนโควิด และวางรากฐานการขับเคลื่อนรายได้ท่องเที่ยวกลับมา 100% จากก่อนโควิด หรือ 3 ล้านล้านบาทในปีหน้า
แม้จะมีวิกฤตแต่อดีตผู้ว่ายุทธศักดิ์ ก็ยังคงยึดเป้าหมายที่ชัดเจนนับจากวันแรกที่เข้ามาทำงานในททท.ที่เจ้าตัวเน้นหนักใน 2 เรื่อง คือ
1.อยากเห็นททท.เป็นหน่วยงานทำงานกับทุกท่านได้ มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดเท่าที่จะทำได้
2.ผลักดันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ สร้างรายได้ กระจายรายได้และเป็นธรรม กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น
จากเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้ที่ผ่านมาผู้ว่ายุทธศักดิ์ ได้เข้ามาปรับดีเอ็นเอในการทำงานของคนในททท.ใหม่ จากเดิมที่เป็นภาพการทำงานแบบรัฐวิสาหกิจทั่วๆไป กลายเป็นองค์กรที่ได้รับยอมรับ ด้วยการจุดพลุสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานของพนักงาน ให้คิดเร็ว ทำเร็ว ให้โอกาสพนักงานได้แสดงความสามารถ มีแนวคิดในการทำงานเหมือนเอกชน มีการริเริ่มโครงการใหม่ๆมากมาย จากความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทอท.เอง
ทำให้ภาพของททท.วันนี้แตกต่างไปจากอดีตมาก และมีความเป็นมืออาชีพในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ที่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ และทำให้การท่องเที่ยวของไทยเป็นที่ยอมรับระดับโลก
ทั้งผู้ว่ายุทธศักดิ์ ยังได้นำทัพสร้างบริบทใหม่ให้แก่วงการท่องเที่ยวของไทย ที่ต้องมองไปข้างหน้า รับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา การสร้างระบบนิเวศใหม่ โฟกัส "การสร้างความมั่นคงด้านการท่องเที่ยว" การสร้างความเข้มแข็งให้ซัพพลายเชน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว กระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง การทำเรื่องของดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ที่ททท.ได้มีหลายโครงการที่เน้นเรื่อง NetZero
พร้อมเน้นย้ำเรื่องการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยสร้างสมดุลทั้งมิติทางเศรษฐกิจ และสร้างการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคน ททท.ต้องดำเนินการบริหารความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ การสร้างความยั่งยืน มีกระบวนการทางด้าน CSR เป็นเครื่องยืนยันว่า ททท.จะสร้างความยั่งยืนต่อไป
อีกทั้งสิ่งที่ผู้ว่ายุทธศักดิ์ ฝากไว้ให้แก่องค์กร คือ เราอย่าหยุดชื่นชมกับความสำเร็จที่ผ่านมาอย่างเดียวไม่ได้ ททท.ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา เพราะเรากำลังเจอวิกฤติเชิงซ้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก บางสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาดหมาย ถ้าให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้มแข็ง เผชิญวิกฤติทุกโอกาส ล้มให้เป็น ลุกให้ไว
โดยสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว หรือ Tourism Security เพื่อให้มั่นใจว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง และ ไปต่อ อย่างมีภูมิคุ้มกันระยะยาว สามารถเผชิญวิกฤติเชิงซ้อนได้
ส่วนความรู้สึกที่ผู้ว่ายุทธศักดิ์ กล่าวคือ “ 8 ปี ภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ ยินดีที่ทำงานร่วมกับทุกคน และททท.ต้องก้าวต่อไป โดยการนำของผู้ว่าการททท.คนใหม่ (ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์) ซึ่งเป็นคนในททท.ที่จะเป็นผู้นำให้ททท.ต้อง Moving Forward to Better และขอขอบคุณทุกความร่วมมือร่วมใจกันทำงานให้กับ ททท. ในช่วงตลอด 8 ปีที่ผ่านมา This is not a farewell but a start of a new day”
นอกจากนี้จากการทำงานที่ผ่านมา ผู้ว่ายุทธศักดิ์ ยังได้คว้ารางวัลนักบริหารดีเด่นแห่งปี ในฐานะผู้นำองค์กร ประจำปี 2566 จาก มูลนิธิเพื่อสังคมไทย ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ และทรงคุณค่า ที่ให้กับผู้นำองค์กรที่ประสบความสำเร็จ และบริหารงานจนมีผลงานโดดเด่นเป็นเชิงประจักษ์แก่สังคม
เช่น การขับเคลื่อนองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยว ในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid -19) จนพลิกฟื้นการท่องเที่ยวกลับมาในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุดในเอเชียอีกด้วย
จากผลงานและการทำงานที่มุ่งมั่นมากว่า 8 ปี จึงไม่แปลกที่จะทำให้พนักงานททท.รวมไปถึงพันธมิตรต่างๆที่เคยทำงานร่วมกับผู้ว่ายุทธศักดิ์ ต่างจะรู้สึกใจหาย รู้สึกอาลัย เมื่อถึงวันที่ผู้ว่ายุทธศักดิ์หมดวาระลง และในท้ายที่สุดสิ่งที่ผู้ว่ายุทธศักดิ์ ก็ยังทำตามสัญญาที่เคยพูดไว้ว่าจะผลักดันและบ่มเพาะให้ผู้ว่าททท.คนใหม่ ที่จะเป็นคนในททท.เอง มาขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแรง เพื่อเป็นกลไกหลักในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และหลายคนก็ยังจับตามองว่าบทใหม่ของผู้ว่ายุทธศักดิ์ หลังพ้นเก้าอี้ผู้ว่าการททท.ก็น่าจะมีบทบาท ที่จะยังทำประโยชน์ต่อวงการนี้ได้อีกมากนั่นเอง
