จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

23 พ.ย. 2566 | 04:04 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2566 | 04:15 น.

จีนติดหล่ม 4 ปัจจัยลบ เที่ยวไทยไม่พุ่ง วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้านักท่องเที่ยวจีน 5 ล้านคน หนีเที่ยวญี่ปุ่น ธุรกิจท่องเที่ยวปรับแผนยกยวง ด้านททท.ผนึกบิ๊กพันธมิตรจีน เร่งกู้ตลาดฟื้นความเชื่อมั่น โปรโมทเที่ยวอีสาน ขยายช่องทางเข้าไทยผ่าน R3A รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว

จีนจัดว่าเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวไทย ซึ่งก่อนเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยกว่า 11 ล้านคน เท่ากับนักท่องเที่ยวจากอาเซียนรวมกัน หรือคิดเป็น 28% ของนักท่องเที่ยว ต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าไทยการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่า หรือ  “วีซ่าฟรี” สำหรับนักท่องเที่ยวจีน หรือ “วีซ่าฟรีจีน” จึงเป็นหมัดเด็ดของรัฐบาลเศรษฐา ที่คาดหวังจะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน แต่กลับไม่เป็นไปตามที่หวังไว้

ล่าสุดไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 23.85 ล้านคนแล้ว (1ม.ค.-19 พ.ย.66) แต่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เคยครองอันดับ 1 กลายมาเป็นอันดับ 2 รองจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย โดยไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวแล้ว 2,975,155 คน ทำให้แนวโน้มตลอดทั้งปีนี้ ไทยจะมีนักท่องเที่ยวจีนราว 3.5 ล้านคน และกำลังลุ้นแตะที่ 4 ล้านคน แต่ก็ยังตํ่ากว่าเป้าหมายแรกที่เคยตั้งไว้มีสูงถึง 5 ล้านคน

นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย

4 ปัจจัยลบฉุดจีนเที่ยวไทย

สาเหตุหลักมาจาก 4 ปัจจัยหลักคือ 1. ปัญหาเศรษฐกิจในจีนจากพิษโควิด-19 ซึ่งปิดประเทศไปนานร่วม 3 ปี GDP จีนลดลงอย่างมากจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ ทำให้คนจีนต้องรัดเข็มขัดและลดการเดินทางออกนอกประเทศ 2. รัฐบาลจีนให้ความสำคัญโปรโมทการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

3.ปัญหากระแสด้านลบเรื่องความไม่ปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทย จากกรณีเกิดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับคนจีน โดยเฉพาะหลังจากภาพยนตร์ No More Bets ที่กำลังเข้าฉายในจีนและได้รับความนิยมอย่างมากและเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน และ 4. จำนวนเที่ยวบินระหว่างไทย-จีนที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวเท่าเดิม ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาสูงขึ้นมาก 

ในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ (ต.ค.66-สิ้นมี.ค.67) มีเที่ยวบินในเส้นทางบินจีน-ไทยอยู่ที่  3.5 ล้านที่นั่งเท่านั้น  คนจีนที่มีศักยภาพในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ  จึงเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า เนื่องจากปลอดภัย ใกล้ และญี่ปุ่นมีมาตรการสนับสนุนงบเพื่อดึงสายการบินกลับไปเปิดให้บริการ ขณะที่ในส่วนของประเทศไทยททท.ไม่มีงบประมาณที่จะเข้าไปสนับสนุนให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทยได้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของงบประมาณประจำปี 2567 ที่ยังไม่สามารถใช้ได้

 

นักท่องเที่ยวจีนฉุดจีดีพีไทยปีหน้า

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า รัฐบาลจีนได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นและจะมีการอัดฉีดงบประมาณ แต่ช่วงที่ผ่านมา ยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร ทำให้นักท่องเที่ยวจีนอาจจะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้า ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สำนักวิจัยต่างประเทศได้ ทยอยปรับลดประมาณการณ์จีดีพีของจีนตํ่ากว่า 5%

จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้น ประเด็นหลักคือ การเดินทาง อาจจะไม่สะดวกเต็มที่นัก ทั้งเรื่องสายการบินและเรื่องตั๋วเครื่องบินที่ยังแพงอยู่ น่าจะเป็นเรื่องคอขวดของสายการบิน ความกังวลเรื่องความปลอดภัย หรือทัวร์กรุ๊ปที่ยังไม่กลับมาเต็มที่ ซึ่งปัจจัยจีนทำให้นักวิเคราะห์มองเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยไม่ดีขึ้นสักท

วีซ่าฟรีไร้มนต์ขลัง

นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า มาตรการวีซ่าฟรี ไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดจีนได้มากนัก เดิมเส้นทางบินสู่จีนการบินไทยเตรียม Capacity ไว้ประมาณ 60% จากปีก่อนโควิด แต่ปัจจุบัน ผู้โดยสารจีนฟื้นตัวคิดเป็น 40% ของปีก่อนโควิด (ปี2562) เท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่เต็ม ทั้งๆที่การบินไทยเปิดหลายเที่ยวบินเข้าสู่เส้นทางบินเมืองหลักในจีน ทำให้การบินไทยยังไม่สามารถเพิ่มความถี่ได้ตามแผน

การบินไทย

ดังนั้นจึงปรับแผนเอาเครื่องบินที่เตรียมไว้รองรับตลาดจีนไปบินในตลาดอื่นที่มีศักยภาพแทน โดยเหตุผลหลัก น่าจะเป็นปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจในจีน ส่วนบุ๊กกิ้งตลาดจีนในปีหน้า จากที่หารือกับผู้ประกอบการทุกฝ่าย วันนี้ก็ยังไม่เห็นยอดการจองล่วงหน้าที่แข็งแรงเลย ซึ่งคงต้องรอดูอีกครั้งหลังเลยเดือนธันวาคมนี้ไปแล้ว และตรุษจีนปีหน้า 

นางสาวชรินทิพย์ ตียาภรณ์ ทายาทรุ่น 2 พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปากล่าวว่า มาตรการวีซ่าฟรีจีน ยังไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวกลับเข้ามาเที่ยวไทยได้มากอย่างที่หวังไว้ ซึ่งจากการเดินทางไปทำเซลล์ทริปในจีน จะเห็นชัดเจนว่า ปัจจัยหลักๆ คือ เศรษฐกิจจีนไม่ดี จำนวนเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยยังกลับมาไม่เท่าเดิม และยังมีปัญหาด้านภาพลักษณ์ความไม่ปลอดภัยของไทย ที่มีการตีข่าวในจีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากข้อมูลของ World Economic Forum ไทยถูกจัดอันดับด้านความปลอดภัยลำดับที่ 92 จากทั้งหมด 117 ประเทศ

“ถือเป็นจุดอ่อนสำคัญของการท่องเที่ยวไทย ที่เราต้องเร่งแก้ปัญหาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว รวมถึงการผลักดันให้สายการบินเปิดเที่ยวบินระหว่างไทย-จีนเพิ่มขึ้นทั้งในแบบเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินประจำ ซึ่งในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้เส้นทางบินภูเก็ต ก็ยังไม่เที่ยวบินจากจีนเข้ามาลงเหมือนก่อนโควิดแต่อย่างใด ทำให้ภาคธุรกิจต้องตลาดอื่นมาทดแทนจีน ได้แก่ อินเดีย รัสเซีย มาเลเซีย ยุโรป” นางสาวชรินทิพย์กล่าว

แนะ 5 แนวทางฟื้นเชื่อมั่น

รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศกล่าวว่า จากเหตุกราดยิงในพารากอนทำให้มีชาวจีนเสียชีวิตและภาพยนตร์จีนเรื่อง No More Bets กระทบภาพลักษณ์เรื่องความปลอดภัย หากมาเที่ยวเมืองไทย ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยลดลง ทั้งการสำรวจความคิดเห็นนักท่องเที่ยวจีนจาก Weibo จำนวน 35,000 คน โดย 14,000 คน หรือ 56% ตอบว่า “ประเทศไทยไม่ปลอดภัย” (CAN,19 Nov 2023)

สอดคล้องกับผู้ประกอบการนำเที่ยวระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในไทย สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยแล้ว ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 12 พ.ย.2566 จำนวน 2.9 ล้าน จากเป้าหมายจีนเที่ยวไทยในปีนี้ 5 ล้านคน มองว่าถึงสิ้นปีนี้ตัวเลขจะตํ่ากว่าเป้าแน่นอน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวในประเทศ และไปเที่ยวอาเซียนอื่นแทนคือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

รศ.ดร.อัทธ์ยังให้ข้อแนะนำการกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยในปีหน้าว่า รัฐบาลต้องประกาศให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้รับรู้เรื่องมาตรการความปลอดภัยของไทยให้ชัดเจน เช่น 1.ออกมาตรการและประกาศการควบคุมอาวุธอย่างเข้มงวดมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 2.สร้างภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ เรื่องระบบการตรวจเช็คความปลอดภัย เพื่อเผยแพร่ไปทั่วโลก ในหลายภาษา ทั้งการตรวจเช็คคนเข้า-ออก ห้าง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ 3.หน่วยงานรักษาความปลอดภัย ทำระบบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้เกิดการประสานกันอย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ 4.จัดทำภาษีท่องเที่ยว เช่น Tourist VAT จาก 7% เหลือ 6% เพื่อจูงใจ และ 5.เพิ่มตำรวจนอกเครื่องแบบในสถานที่ท่องเที่ยวให้มากกว่าที่เป็นอยู่

ททท.เร่งดันตลาดตามเป้า

ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กล่าวว่า คาดว่า ภายในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย 4.01-4.4 ล้านคน สร้างรายได้ 257,500 ล้านบาท ซึ่งททท.จะผลักดันตลาดให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน สร้างการรับรู้เกี่ยวกับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางมายังไทย

การส่งเสริมตลาดร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ มุ่งเน้นการทำตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย รวมถึงใช้ Soft Power ไทยมาเป็นจุดขายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เน้นการเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ย รวมถึงวันพักเฉลี่ยให้มากขึ้น ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นความสามารถของไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ผ่านการกระตุ้นตลาดของสำนักงานของ ททท. 5 แห่งในตลาดจีน

จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

รวมถึงกลุ่มพันธมิตรในจีนที่ททท.ได้ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI)ครั้งใหญ่ กับ 8 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ Huawei Technologies, Trip.com Group, Meituan.com, Spring Airlines, Sina News, Alipay, iQIYI และ Jego Trip  ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในการดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนคุณภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาการท่องเที่ยวและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวไทย

อีกทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17-20 พ.ย. ที่ผ่านมา ททท.ภายใต้การนำทีมของนางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน China International Travel Mart หรือ CITM2023 ณ นครคุนหมิง ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายที่ใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆในไทย

ทั้งยังมีโอกาสได้พบปะกับคณะผู้บริหารระดับสูงของมณฑลยูนนาน เพื่อหารือร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ

จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

รวมถึงจากที่รัฐบาลจีนมีนโยบายเพื่อสอดรับการเติบโตด้านจำนวนและรายได้ของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่ การเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมอื่น ๆ

ส่งผลให้เป็นโอกาสทางการท่องเที่ยวของไทยในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่การเดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเดินทางในรูปแบบรถยนต์คาราวานและการเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย

ดังนั้น ททท. จะสามารถใช้โอกาสในการพัฒนาระบบคมนาคมนี้เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางมาไทยได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวได้สัมผัสสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆในไทยได้ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรม นักท่องเที่ยวยุคนี้ที่ต้องการมุ่งประสบการณ์เป็นสำคัญ

อีกทั้งภายในงาน CITM 2023 ททท.ยังได้ตกแต่งคูหาประเทศไทย โดยเน้นการประชาสัมพันธ์และสร้างรับรู้ประเทศไทยในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสาน สอดรับกับการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการของรถไฟความเร็วสูงจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน พร้อมใช้โอกาสนี้ผลักดันแคมเปญ 旅泰东北,越玩越开心 (โหยวไท่ ตงเป่ย เยว่หวาน เยว่ไคซิน)  เที่ยวอีสานของไทย ยิ่งไป ยิ่งสนุก

จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น
 

โดยจะเป็น new approach ใหม่ของไทย ซึ่งมีหลักการ ดังนี้ 1. New mode of arrival : เส้นทาง R3A/คาราวานรถยนต์/รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว 2. New Products: วัฒนธรรม ประเพณี ธรรมชาติ เส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เส้นทางสายมู  3. New segment @new partners: กลุ่มวัยรุ่น/ผู้สูงอายุที่ชอบผจญภัย ชอบหาแหล่งเที่ยวใหม่ๆ มีเวลามาก และนักธุรกิจ เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพความพร้อมของไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ คือภาคอีสานของไทยให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย

กลุ่มค้าปลีกยังไม่กระทบ

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัดกล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นจุดแข็งหลักของประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมมาไทย เพราะไทยเป็นเมืองสงบ เป็น Window of the World ขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีปัญหาทั้งอเมริกาและจีน ไทยจะทำอย่างไรที่จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามา มากกว่ามาตรการฟรีวีซ่าของจีนและคาซัคสถาน

จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

ดังนั้นวันนี้ประเทศไทยจะต้อง Repositioning ประเทศรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพไม่ใช่เน้นที่ปริมาณ เพราะในอนาคตกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภทกรุ๊ปทัวร์จะหายไป เหลือแต่ FIT ดังนั้นไทยจะเตรียมความพร้อมรองรับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

“ไทยเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นช้อปปิ้ง พาราไดซ์ แต่ไทยยังขาดอินติเกตเต็ด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีความพร้อมที่เหนือกว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไปที่อื่นหมด เช่นกลุ่มยุโรป ก็ไปบาหลี, เวียดนาม, ดูไบ ขณะที่จีนเองก็มีปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศน้อยลง”นางสาวศุภลักษณ์กล่าว

ด้านนางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นลูกค้าหลักของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ซึ่งย่านนั้นมีทั้งนักท่องเที่ยวจีนและกลุ่ม expat ซึ่งมีทั้งนักศึกษาและคนทำงานชาวจีน โดยช่วงที่ผ่านมาจำนวนลูกค้าชาวจีนไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

จีนติดหล่มเที่ยวไทย วีซ่าฟรีไม่ช่วย พลาดเป้า 5 ล้านคน ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

“มองว่าการที่จีนมีปัญหาด้านเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดการเดินทางท่องเที่ยว แม้ไทยจะมีมาตรการฟรีวีซ่า ดังนั้นภาครัฐควรเพิ่มมาตรการฟรีวีซ่าไปยังนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ที่มีกำลังซื้อเพื่อให้เดินทางเข้ามาในช่วงไฮซีซั่นนี้ดีกว่า”นางสาววรลักษณ์กล่าว