ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ว่า ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม ถึงวันที่ 4 มกราคม 2567 ว่า ได้รับข้อสั่งการ จากกระทรวงคมนาคมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ให้มาตรวจในเรื่องของความพร้อมในการรองรับการดูแลผู้โดยสาร
ในส่วนของท่าอากาศยานเชียงใหม่ในปัจจุบันนี้ได้รับความสนในในการเดินทางเป็นจำนวนมาก เพราะว่าเชียงใหม่ถือว่าเป็น ท็อปทรี
Top Three destination ของประเทศไทย ซึ่งในส่วนของการให้บริการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)เราดูแลทั้งในส่วนของการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้มีปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 28,000 -30,000 คนต่อวัน โดยปริมาณผู้โดยสาร ระดับนี้เรียกได้ว่ากลับไปเท่ากับเมื่อปี 2562 ฉะนั้นตอนนี้เริ่มพบในเรื่องของความหนาแน่นและแออัดในบางช่วงเวลา ซึ่งทาง AOT ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้เริ่มดำเนินการในส่วนของการติดตั้งระบบ Self Check-In ระบบ Self Back drop เพื่อให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในส่วนของการที่จะ Check-In โดยไม่ต้องต่อแถวรอ
และมีระบบ Self Back dropให้ด้วย ทำให้สามารถ Check-In ด้วยตัวเอง Drop กระเป๋าได้ด้วยตัวเอง แล้วทำการเพิ่มในส่วนของจุดตรวจค้น ซึ่งอันนี้ก็จะทำให้ระยะเวลาในส่วนของแถวคอยเร็วขึ้น ในส่วนของ KPI ในเรื่องของการรองรับผู้โดยสารตั้งไว้ว่าในกระบวนการ Check-In และตรวจค้นควรจะแล้วเสร็จไม่เกิน 30 นาที เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถที่จะผ่านกระบวนการไปได้อย่างรวดเร็วและเข้าสู่พื้นที่ส่วนของพักคอย
คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางผ่าน ทชม.ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 180,990 คน เฉลี่ยวันละประมาณ 24,225 คน และประมาณการเที่ยวบินในช่วงเวลาดังกล่าว คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 1,234 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 176 เที่ยวบิน โดยผู้โดยสารคาดการณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.73 และเที่ยวบินคาดการณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และอาจมีจำนวนผู้โดยสารสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 27,000-30,000 คน
ทั้งนี้ปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ระดับประมาณ 30,000 คนต่อวันในช่วงพีค ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงปกติอยู่ที่ประมาณ 22,000-25,000 คนต่อวัน ก็เรียกว่าช่วงพีคปีใหม่เพิ่มขึ้นมาถึง 20-25% การรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นแปรผันตรงกับปริมาณผู้โดยสาร ตอนนี้เที่ยวบินเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกและการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ทชม.ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่ปฏิบัติงาน ที่ ทชม.จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการตระเวนตรวจบริเวณโดยรอบท่าอากาศยานทั้งในเขตการบินและพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ด้วยกล้องวงจรปิด
และสุ่มตรวจรถยนต์บริเวณทางเข้าก่อนเข้าถึงหน้าอาคารผู้โดยสาร โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ปฏิบัติงานด้วยความสุภาพ และปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ด้านการจัดการจราจรได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อให้รถยนต์ สามารถเข้า-ออก บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่ Airport Help ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสารตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะการแนะนำให้ใช้บริการเช็กอินด้วยตนเอง ผ่านระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS : Common Use Self Service) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารในการลดระยะเวลารอคอย
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวอีกว่า ในส่วนของท่าอากาศยานเชียงใหม่ AOT มีแผนจะดำเนินการก่อสร้างอาคาร International หลังใหม่ ซึ่งเป็นอาคารในพื้นที่ๆต่อเนื่องกับท่าอากาศยานเชียงใหม่ในปัจจุบันตรงนี้ ตัวอาคาร International หลังใหม่จะมีพื้นที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร ในส่วนของพื้นที่อาคาร International หลังใหม่จะทำให้สามารถขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานเชียงใหม่
รองรับไปได้ถึง 18 ล้านคนต่อปี ตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่ทำให้การบริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ดีขึ้นในระยะยาว
ในส่วนของการก่อสร้างตอนนี้อยู่ในช่วงของการออกแบบ แล้วในปลายปี 2567 คาดว่าประมาณเดือนพฤศจิกายน จะเริ่มในส่วนของการประมูลการก่อสร้าง แล้วจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี เปิดให้ใช้บริการได้ประมาณปี 2570
แต่ว่าในระยะสั้นปัจจุบันนี้สิ่งที่ต้องทำคือการดูแลในส่วนของการเดินทางของประชาชนทั้งในช่วงพีคต่างๆ นอกจากในเรื่องของกระบวนการ Check-In ตรวจค้น และตม.แล้ว ยังได้ทำการประสานงานกับขนส่งทางบกในเรื่องของการจัดรถสาธารณะเข้ารองรับการเดินทางของประชาชน
สำหรับการอำนวยความสะดวกพื้นที่จอดรถยนต์และการบริการขนส่งสาธารณะ ทชม.มีบริการอาคารจอดรถ 10 ชั้น รวมกับพื้นที่ลานจอดรถยนต์กลางแจ้ง มีศักยภาพในการรองรับการจอดรถยนต์ได้ประมาณ 2,300 คัน และมีระบบขนส่งสาธารณะ ได้แก่ Airport Taxi (Limousine), Taxi Meter, Airport Shuttle Bus และ Grab เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้บริการในการเดินทางออกจากสนามบิน จะทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งประชาชนคนไทย มีทางเลือกในการเดินทาง สามารถเดินทางเข้า-ออกท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้อย่างสะดวกสบาย