thansettakij
ตึก สตง.ถล่ม ! อย่ามองข้าม คุณภาพเหล็ก มีลดสเปก? แบ่งผลประโยชน์

ตึก สตง.ถล่ม ! อย่ามองข้าม คุณภาพเหล็ก มีลดสเปก? แบ่งผลประโยชน์

01 เม.ย. 2568 | 22:45 น.

เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.2 มีศูนย์กลาง ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา แรงสั่นสะเทือนไกลถึงประเทศไทยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สูง 30 ชั้น ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง งบกว่า 2 พันล้าน พังครืนลงมา

กลายเป็นประเด็นใหญ่เพราะสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตจนเกิดคำถามตามมามากมาย ทั้งพุ่งเป้าไปที่อาคารแห่งนี้ในข้อสงสัยตั้งแต่ทุนไทย ทุนจีน , เรื่องคอรัปชั่น รวมไปถึง วัสดุในการก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ โดยเฉพาะ “เหล็ก” ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของงานก่อสร้าง ซึ่ง “ฐานเศรษฐกิจ” รวบรวมความเห็นภาคเอกชนและนักวิชาการถึงการตั้งข้อสังเกตในมุมต่างๆ ที่น่าสนใจ

ทั้งตึกใช้เหล็กประมาณ 2 พันต้น

รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยว่า กรณีตึกสตง.ถล่ม ทำให้หลายคนโฟกัสว่าใช้เหล็กคุณภาพต่ำหรือไม่ และโครงการนี้ใช้เหล็กแบบไหนทำไมโครงสร้างไม่แข็งแรง โดยตั้งข้อสังเกตว่าโดยทั่วไป ในตึกสูงๆ มีการใช้เหล็ก 4 ประเภทหลักคือ เหล็กเสริมคอนกรีต เหล็กรูปพรรณ เหล็กรูปพรรณรีดเย็น เหล็กแผ่นและลวด  โดย เหล็กเสริมคอนกรีต (Rebar) หรือ เหล็กเส้น สัดส่วนที่ใช้มากสุด 75% ซึ่งใช้ในฐานราก เสา คาน  พื้น บันได ดาดฟ้า นั้นคือ เหล็กเส้นจะใช้ทุกส่วนที่มีคอนกรีต

อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน

“พูดง่ายๆ คือใช้ทั้งอาคาร ส่วนเหล็กรูปพรรณ สัดส่วนใช้ 15-20% ใช้ในโครงสร้างหลังคา ลิฟท์ หรืออื่น ๆ ”

สำหรับตึก สตง. ที่ถล่ม ใช้เหล็กทั้งตึกโดยประมาณ 2,000 ตัน นั่นแสดงว่า ใช้เหล็กเส้น 1,500 ตัน เหล็กรูปพรรณ 360 ตัน เหล็กรูปพรรณรีดเย็น 80 ตัน และเหล็กลวด  20 ตัน  ซึ่งเหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ โรงงานจีนในประเทศไทยสามารถผลิตได้ในราคาถูก

ส่วนกรณีที่ตั้งคำถามกันว่า ทำไมโครงสร้างไม่แข็งแรง ดร.อัทธ์ ตั้งข้อสังเกต ไว้ 3 ด้าน 1.การใช้เหล็กจีน ที่มีราคาถูกกว่า เหล็กไทย 10-20%  ราคาที่ถูก อาจจะทำให้ได้เหล็กที่มีคุณภาพต่ำตามไปด้วย หรือแม้ว่าจะเป็นเหล็กนำเข้า ราคาก็ถูกกว่าเหล็กไทยอยู่ดี  

2.แม้ว่าการตรวจสอบโรงงานการผลิตเหล็กจีนในไทย (ขณะตรวจสอบ) แต่ในกระบวนการผลิตจริง ไม่มีใครรู้ว่า ส่วนผสมของวัตถุดิบอาจจะไม่ตรงตามมาตรฐาน และ 3.คนไทยทราบกันโดยทั่วไปว่า ในวงการรับเหมาก่อเสร้าง “มีการลดสเปก”  เพื่อให้ได้มีเงินเหลือ แบ่งปันกัน

ตึก สตง.ถล่มได้บทเรียนอะไร

อย่างไรก็ตามผลกระทบครั้งนี้ทำให้รู้ว่า การบริหารจัดการ การเตือนภัยล้มเหลวสิ้นเชิง ประชาชนขาดความมั่นใจ  การช่วยคนติดในตึกถล่ม  ยังไม่ดีพอ วัดจากวันเวลาที่เข้าไปช่วยเหลือนานเกินไป ชีวิตคนและครอบครัว ที่ติดอยู่ รอไม่ได้ ขณะที่การขนส่งประชาชนกลับที่พัก ไม่มีรถสาธารณะอื่นมาบริการแทนหรือเสริมเลย เมื่อรถไฟฟ้าหยุดบริการ  การสร้างความมั่นใจในตึกสูง ๆ ว่าปลอดภัยแค่ไหน แต่ละคอนโด ตรวจสอบกันเอง

นอกจากนี้จะกระทบการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจว่า ระบบโครงสร้างและมาตรฐานอาคารสูง ๆ จะปลอดภัยหรือไม่  ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์และคอนโดมิเนียม จะกระทบเศรษฐกิจโดยรวม  รวมไปถึงตอกย้ำ ประเทศไทย ไม่โปร่งใส มีนอก มีใน ในทุกภาคส่วน และการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน ยังต่ำกว่าสิงคโปร์ และเวียดนาม  และไทยไม่มีแผนปฎิบัติการในสถานการณ์ภัยพิบัติฉบับประชาชน ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ประชาชนต้องทำอย่างไร

แนะตรวจสอบมอง 3 ส่วน

ขณะที่ด้าน นายพงษ์เทพ เทพบางจาก นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี มองว่าที่มาของตึก สตง.ถล่มคงต้องไปดูทั้ง 3 ส่วนคือ การออกแบบ วัสดุที่ใช้ และวิธีการก่อสร้าง เพราะใน 3 ส่วนนี้ต่อให้ถูกต้อง 2 ส่วน ผิดเพียงแค่ 1 ส่วนคุณภาพของอาคารที่สร้างเสร็จก็แย่อยู่ดี ฉะนั้นจะพุ่งเป้าไปที่เหล็กอย่างเดียวคงไม่ถูกต้องทั้งหมด เพียงแต่เกิดภาพจำจากการสื่อสารในสื่อออนไลน์ของโครงการที่มีปัญหาในประเทศจีนที่เหล็กคุณภาพต่ำ จนทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าโครงการอาคาร สตง.นี้ใช้เหล็กปลอมหรือไม่ หรือใช้เหล็กจีนคุณภาพต่ำ

ทั้งนี้คงต้องทำความเข้าใจกับประชาชนทุกคนก่อนว่าเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตไม่ว่าจะผลิตในประเทศ หรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมทั้งสิ้น เพราะเหล็กเส้นมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภคจึงถูกกำหนดให้เป็น มอก.ประเภทบังคับ

พงษ์เทพ เทพบางจาก นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี พงษ์เทพ เทพบางจาก นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี

“ผู้ผลิตรวมถึงผู้นำเข้าทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน ฉะนั้นเมื่อมีการไปตรวจสอบเหล็กที่พังถล่มลงมาหากไม่ผ่านตามมาตรฐานที่กำหนด แสดงว่าประชาชนผู้บริโภคเชื่อถือมาตรฐานแค่ป้ายตราสัญลักษณ์ว่าได้การรับรอง มอก.ไม่ได้เลยใช่หรือไม่”

นอกจากนี้ไม่อยากให้ละเลยอีก 2 ส่วนที่เหลือ ทั้งการออกแบบ คำนวณมาอย่างไร วิศวกรท่านใดเซ็นรับรอง การควบคุมวิธีการก่อสร้างถูกต้องครบถ้วนตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะในสองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและสภาวิชาชีพวิศวกรค่อนข้างมาก น่าจะมีรายงานการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่คำตอบสำหรับคำถามที่ว่าทำไมถึงถล่มได้ในที่สุด

อย่าหลงเชื่อได้รับ มอก.แล้ว

นายพงษ์เทพ กล่าวอีกว่า ปัญหาเหล็กเส้นที่ผลิตในประเทศทุกวันนี้ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันทั้งเหล็กที่ผ่านกระบวนการเตาอาร์คไฟฟ้า(EAF) และเหล็กที่ผ่านกระบวนการเหนี่ยวนำไฟฟ้า(IF) ซึ่งทั้งสองกระบวนการมีความสามารถในการควบคุมคุณภาพและค่าเคมี รวมถึงการกำจัดสารเจือปนและสิ่งแปลกปลอมออกจากเหล็กได้ไม่เท่ากัน แต่อยู่ภายใต้ มอก.หมายเลขเดียวกัน

โดยเป็นที่ทราบและยอมรับกันว่าเหล็ก EAF มีคุณภาพดีสม่ำเสมอมากกว่าเหล็ก IF แต่สภาพตลาดเหล็กเส้นในประเทศไทยหลายปีมานี้นับตั้งแต่ภาครัฐอนุญาตให้มีการตั้งโรงงานเหล็ก IF ของผู้ประกอบการจีนขึ้นในประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่เป็นผู้ผลิตเหล็กเส้นแบบ EAF ปิดกิจการลงจำนวนมากเพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า

ฉะนั้นทางออกในเรื่องวัสดุโดยเฉพาะเหล็กเส้นสำหรับภาคเอกชนคือเมื่อมีการส่งมอบเหล็กเข้าโครงการควรมีการสุ่มเช็คคุณภาพเหล็กในแต่ละล็อต อย่าเชื่อเพียงแค่ระบุว่าผู้ผลิตรายนั้นได้รับใบอนุญาต มอก.แล้ว ขณะที่ภาครัฐที่กำกับดูแลมาตรฐานคือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)นั้น ก็ควรหมั่นตรวจสอบสินค้าเหล็กเส้นที่วางขายในตลาดอย่างสม่ำเสมอ

“เพราะยังมีผู้ประกอบการบางรายเมื่อได้ใบรับรอง มอก.แล้ว มีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจในการควบคุมคุณภาพโดยคำนึงแต่ผลกำไร”

ผู้บริโภคต้องตื่นตัว

ด้าน นายบัณฑูรย์ จุ้ยเจริญ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือหากมีการทำธุรกิจหวังแต่ผลกำไรโดยขาดความรับผิดชอบด้านมาตรฐานคุณภาพ จะไล่จับกันไม่ไหว

ส่วนในแง่ผู้บริโภคที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงเป็นความจำเป็นและถึงเวลาที่ผู้บริโภคต้องตื่นรู้ถึงผลเสียหรืออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น จากนี้ไปทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรเร่งให้ความรู้กับผู้บริโภค ไม่ซื้อสินค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ เพียงเพราะราคาถูกผู้ผลิตด้อยคุณภาพเหล่านั้นก็จะไม่สามารถขายสินค้าได้ ถ้าไม่ปรับปรุง และไม่มีคนซื้อก็จะต้องออกจากธุรกิจไปในที่สุด

บัณฑูรย์ จุ้ยเจริญ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กสภาอุตสาหกรรม บัณฑูรย์ จุ้ยเจริญ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กสภาอุตสาหกรรม

นอกจากนี้การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเพราะขาดธรรมาภิบาล ขาดการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน แล้วเอาต้นทุนต่ำไปตัดราคาผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ซึ่งแน่นอนต้นทุนต้องสูงกว่า แล้วต้องทยอยปิดกิจการไปเพราะทนการขาดทุนไม่ไหวดังที่เกิดอยู่ในขณะนี้ สุดท้ายผู้รับผลกระทบคือผู้บริโภคและสังคม