เมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงสถาปนาเมืองลพบุรี เป็นราชธานีแห่งที่ 2 และทรงให้วิศวกรชาวฝรั่งเศส ออกแบบการสร้างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยผสมตะวันตก และทรงโปรดประทับ ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เกือบตลอดปี เฉพาะฤดูฝนเท่านั้น จึงเสด็จไปประทับอยู่ ณ กรุงศรีอยุธยา ดังนั้นเมืองลพบุรีจึงเป็นศูนย์กลางความเจริญตลอดรัชสมัยของพระองค์
ด้วยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของ “สมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ในปี พ.ศ.2522 สมัยที่ นายเชาว์นวัศ สุดลาภา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี จึงได้เริ่มจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชขึ้นเป็นครั้งแรก และเป็นงานที่มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดของภาคประชาชน คือ ชมรมอนุรักษ์โบราณวัตถุสถานและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี ที่ต้องการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเกิดความรัก หวงแหนโบราณสถานและร่วมกันอนุรักษ์ให้เป็นสมบัติของชาติสืบไป
เนื่องจากจังหวัดลพบุรีมีโบราณสถานมากมาย หลายยุคหลายสมัย เป็นหลักฐานยืนยันว่าลพบุรีเป็นเมืองที่มีความสำคัญ มายาวนานทุกยุค ทุกสมัย โดยเฉพาะรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ลพบุรีมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ทั้งด้านการเมืองการปกครอง สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และการต่างประเทศ
จากการริเริ่มจัดงานในครั้งนั้นได้สร้างความตื่นตาตื่นใจกันทั้งจังหวัดลพบุรี โดยเฉพาะการรณรงค์ ให้ชาวลพบุรีแต่งชุดไทย มีการประกวดแต่งชุดไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ทำให้การแต่ง ชุดไทยในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญของงานมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี 2567 จังหวัดลพบุรีโดยทุกภาคส่วนได้ร่วมใจกันจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเป็นการจัดงานฯ ครั้งที่ 36 ที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์และโบราณสถานใกล้เคียง เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ บ้านหลวงรับราชทูต(บ้านวิชาเยนทร์) พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วัดปืน สวนราชานุสรณ์ บันได 51 ขั้น
วัดกวิศรารามราชวรวิหาร วัดเชิงท่า และวัดเสาธงทองพระอารามหลวง ระหว่าง วันที่ 9 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและสืบสานศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้กล่าวถึงการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจำปี 2567 ว่า ได้กำหนดกิจกรรมที่หลากหลายและเป็นที่น่าสนใจ โดยเน้นรูปแบบ“นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งไทย ทั้งเมือง" มีกิจกรรมต่างๆที่หลากหลาย เช่นกิจกรรมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวลพบุรีพร้อมใจแต่งไทยทั้งเมือง (เคาะประตู) พิธีเทิดพระเกียรติและเดินรณรงค์แต่งไทย กิจกรรมขบวนแห่ประวัติศาสตร์ ในวันเปิดงาน วันที่ 9 ม.ค. 2567 ที่ได้รับเกียรติจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานฯ รวมทั้งการจัดพิธีบวงสรวงและรำบวงสรวงถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในวันที่16 กุมภาพันธ์ 2567 ณ บริเวณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (วงเวียนเทพสตรี )
นายอำพลกล่าวต่อไปว่า สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ประกอบด้วย การแสดงแสงเสียง การแสดงโขน การแสดงประวัติศาสตร์จินตนาการ ณ สถานที่จริงตามประวัติศาสตร์ คือตึกรับรองราชฑูต ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ซึ่งเปิดให้ ชมฟรี วันละ 1 รอบ เวลา 20.00 น.
การแสดงเวทีกลาง การแสดงหมากรุกคน การแสดงละครลิง และตลาดย้อนยุค ตลาดซาโม่น (กลุ่มชาติพันธุ์มอญ) รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆที่มารวมกิจกรรม นอกจากนี้บริเวณสวนราชานุสรณ์ และเทวสถานปรางค์แขก มีการประดับตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับ ประดับไฟฟ้า และการบรรเลงดนตรีขับกล่อมผู้มาเที่ยวชมงานเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา
สำหรับการสร้างสีสัน และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้มาสัมผัสกับดินแดนแห่งประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คือการเปิดบ้านหลวงรับราชฑูต หรือบ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ชาวต่างชาติที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงโปรดปราน โดยจะจัดกิจกรรมรูปแบบ ไทย-เทศ มีการจำลองบรรยากาศแบบฝรั่งเศส การสาธิตการทำขนมไทยตำรับท้าวทองกีบม้าเป็นต้น
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี มีการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยเป็นการจัดแสดงนิทรรศการภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา
เนื้อหาของภาพวาดเป็นการบันทึกภาพแห่งความทรงจำที่พระองค์ท่านได้เสด็จมายังจังหวัดลพบุรี เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวให้ประชาชนทั่วไปตลอดจนชาวต่างชาติได้ชื่นชมพระเกียรติคุณ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อสังคมและสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติ ทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และมีการจัดนิทรรศการวาดภาพเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นภาพวาดเนื้อหาบางส่วนของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ได้ประทับว่าราชการ เป็นระยะเวลายาวนานจนกระทั่งเสด็จสวรรคต
ด้านนางกฤษณา สิทธิราช วัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี เผยว่า การจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในปี ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 10 วัน มีผู้มาชมงานกว่า 3 แสนคน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดลพบุรีได้กว่า 330 ล้านบาท จากการจัดงานที่ผ่านทำให้งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็น 1 ใน 10 เทศกาลงานประเพณีที่คนทั่วโลกยอมรับ และยังถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการแต่งกายไทย ทำให้กระจายไปทั่วประเทศและทั่วโลก และจังหวัดลพบุรีถือเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายชุดไทย โจงกระเบน และผ้าทอพื้นบ้านเมือง ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในจังหวัดลพบุรี เป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่ชาวจังหวัดลพบุรีมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
กว่า 45 ปีที่งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้รับการเผยแพร่และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายด้านประวัติศาสตร์ เด็ก เยาวชน ประชาชนในจังหวัดลพบุรี เห็นคุณค่าของโบราณสถานเกิดความภาคภูมิใจ รักและหวงแหนในวัฒนธรรมประจำถิ่น ปลุกจิตสำนึกรักชาติและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสามารถยกระดับเทศกาลประเพณีสร้างกระแส Soft Power ในด้านการ แต่งกายไทยของผู้มาร่วมงาน จนมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานเป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี
เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดลพบุรี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปินเครือข่าย ทางวัฒนธรรม และผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน การบูรณาการจากทุกฝ่าย ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จึงเป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าให้กับ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของเมืองลพบุรีหรือละโว้ธานีดินแดนแห่งอารยะธรรม