เรือโดยสารเกาะกูดแข่งเดือด ชิงตลาดนักท่องเที่ยว 2 แสนคน/ปี

การเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังอำเภอเกาะกูด จ.ตราด จากตัวเลขของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด และอบต.เกาะกูดได้รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว ที่อำเภอเกาะกูด ทีประกอบด้วย ต.เกาะกูด และต.เกาะหมาก ซึ่งก่อนช่วงเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในปี 2563-2564 มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปราว 5-6 หมื่นคน/ปี แต่ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวสูงถึง 1.7-19 แสนคน ส่วนเกาะหมากนักท่องเที่ยวแตะถึง 1 แสนคนแล้ว

ก่อนหน้านี้การเดินทางไปยังอำเภอเกาะกูด ต้องใช้เรือประมงดัดแปลงเป็นเรือโดยสารทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า 4-5 ชม. แต่ต่อมาใช้เรือสปีดโบ๊ทจากเจ้าของโรงแรมและคิดราคาไปพร้อมแพ็กเกจคืน ซี่งรวมแล้วราคายังสูง กระทั่งมีผู้ประกอบการลงนำเรือโดยสารขนาดใหญ่และมีเครื่องปรับอากาศมาให้บริการ 2 บริษัท

คือ เกาะกูดปรินซ์เซส ที่มีอดีตนายอำเภอเกาะกูดลงทุนกับเพื่อน  และเกาะกูด เอกซ์เพรส ที่มีนายสุทัศน์ ทศดารา ประธานสภาอบจ.ตราด เป็นเจ้าของ ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นผู้ลงทุนชาวตราด ทั้งนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากปลอดภัย     รวมเร็ว เพราะใช้เวลาเดินทางเพียง 45-60 นาทีเท่านั้น อีกทั้งราคาก็พอสู้ได้ในราคาไม่เกิน 500 บาท/เที่ยว/คน แต่การเดินทางก็เพียงไป 1 เที่ยว/วันเท่านั้น

กระทั่งบริษัท บุญศิริเรือเร็ว จำกัด ผู้ประกอบการจากจังหวัดสมุทรปราการมาลงทุน และนำเรือคาตามารัน(เรือที่มีท้องเรือ 2 ข้างเป็นคู่ขนาน)มาเดินเรือโดยสารไปเกาะกูด ในปี 2558-2559 ทำให้มีการมีการแข่งขันเกิดขึ้น เนื่องจากเรือโดยสารของบริษัท บุญศิริเรือเร็ว จำกัด มีความทันสมัยกว่า ปลอดภัยและรวมเร็วกว่า

รวมทั้งเปิดบริการครบวงจร นำนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมาลงที่ท่าเรือ และส่งกลับเป็นแพ็กเกจที่เดียวโดยไม่ต้องนำรถยนต์มาเอง ส่งผลให้ได้นักท่องเที่ยวทั้งที่นำรถยนต์มา และไม่ต้องการนำรถยนต์มา รวมทั้งยังเปิดเที่ยวโดยสาร 2 เที่ยวในช่วงสายและช่วงบ่าย 

การเปิดบริการเพียง 2-3 ปี แต่บริษัท บุญศิริเรือเร็ว กลับได้รับนิยมและมาใช้บริการมากกว่า 2 บริษัทเดินที่เป็นผู้ประกอบการในจังหวัดตราด แม้ราคาค่าโดยสารโดยเฉลี่ยจะสูงกว่า 2 บริษัทที่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น 
 

นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด และเจ้าของโรงแรมสวนย่ารีสอร์ท เกาะกูด เปิดเผยว่า ภาพรวมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวของอำเภอเกาะกูด ที่ประกอบด้วย ต.เกาะกูด และตำบลเกาะหมากในรอบปี 2565 มีนักท่องเที่ยวกว่า 1.7-1.9 แสนคน โดยเกาะกูด มีจำนวนเกิน 1 แสนคน นอกนั้นจะเป็นของเกาะหมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดหลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่ากลับมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ซึ่งสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของทั้งสองเกาะจำนวนหลายร้อยล้านบาท โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับคืนมาสู่ ต.เกาะกูดอีกครั้ง

ประกอบกับการเดินทางมายังอำเภอเกาะกูดเดินทางสะดวกมากขึ้น เนื่องจากมีเรือโดยสารที่มีความรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง ทำให้ในปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงต้นปียังเดินทางมาอำเภอเกาะกูดจำนวนหลายหมื่นคน ขณะที่ปลายปีกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปน่าจะกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการทั้งโรงแรมและผู้ประกอบการเรือผู้โดยสารอย่างมากที่มีการยกระดับการบริการและเพิ่มเที่ยววิ่งมากขึ้น 

“ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวไปยังอำเภอเกาะกูดเพิ่มมากขึ้น มาจากจำนวนเรือโดยสารที่เดินทางไปอำเภอเกาะกูด และไปต.เกาะหมากซึ่งทำให้มีทางเลือกมากขึ้น พร้อมเที่ยวเรือที่เริ่มช่วงเช้า และกลับในช่วงเย็น ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเกาะกูด เกาะหมากได้หลากหลายช่วงเวลา และมีเรือโดยสารทุกชั่วโมง ส่งผลให้ใช้เวลาในเกาะกูดและเกาะหมากได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัท บุญศิริเรือเร็ว จำกัด ได้ลงทุนเปิดเส้นทางใหม่ จากต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราดและมาเกาะกูด เกาะหมาก และไปเกาะช้าง(บางเบ้า)ด้วย และมีเที่ยวจากเกาะช้างมาเกาะหมากและไปเกาะกูด และมาหาดเล็กซึ่งสามารถรับนักท่องเที่ยวจากกัมพูชา และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเข้ามาท่องเที่ยวยังหมู่เกาะช้างได้อีกช่องทางหนึ่งและกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในขณะนี้”

นายกอบต.เกาะกูด กล่าวว่า การเติบโตของนักท่องเที่ยวในอำเภอเกาะกูด ไม่เติบโตรวดเร็วเหมือนเกาะช้างเพราะจำนวนห้องพักมีเพียง 1,300 ห้อง และสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกินวันละ 3-4 พันคนมากที่สุดก็ไม่เกิน 5 พันคน และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางมามากในช่วงวันหยุดปกติ และวันหยุดยาวตามเทศกาลสำคัญ ขณะที่เรือโดยสารที่เพิ่มขึ้นวันนี้ มี 4 บริษัทที่เปิดให้บริการซึ่งมีทั้งเรือเฟอร์รี่และเรือสปีดโบ๊ทของ 2 บริษัท และอีกส่วนหนึ่งจากเรือสปีดโบ๊ทของโรงเเรมและรีสอร์ท ซึ่งได้มาตรฐานความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ท่าเทียบเรือในเกาะกูดที่ได้มาตรฐานยังมีเพียง 2 แห่ง ที่ใช้เทียบเรือโดยสารที่อ่าวสลัดยังเป็นท่าเอกชนที่ยังใช้ชั่วคราว แต่ปัจจุบันกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ให้งบประมาณในการก่อสร้างท่าเรือเกาะกูดซีฟอร์นที่อ่าวสลัดในปี 2567 และต้องใช้เวลาอีก 2 ปีจึงก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะพร้อมมากขึ้น”

นางวิยะดา อมรเพชรกุล ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท บุญศิริเดินเรือ จำกัดบริษัทมาลงทุนเดินเรือโดยสารไปอำเภอเกาะกูดเมื่อประมาณปี 2558 เนื่องจากเห็นความเติบโตของนักท่องเที่ยวของเกาะกูด จ.ตราด ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากเกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งทะเล ชายหาด และปาการัง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อมาลงทุนได้ไม่นานก็ได้รับผลประกอบการที่น่าพอใจ แม้การท่องเที่ยวที่เกาะกูดจะมีแค่ช่วง 7-8 เดือน เพราะหลังจากนั้นจะเป็นหน้ามรสุม

รวมทั้ง จะต้องสะดุดในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี และในช่วงปีใหม่ ตรุษจีน หรือสงกรานต์ รวมทั้งวันหยุดยาวจะได้รับการตอบรับสูงมาก และจำเป็นต้องเพิ่มเที่ยวเรือโดยสาร ช่วงปีใหม่ 2566 เรือบุญศิริต้องเพิ่มเที่ยวเรือโดยสาร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 

“ยอมรับว่า ที่ผ่านมาแม้เรือโดยสารบุญศิริจะได้รับความนิยมสูงกว่าคู่แข่ง แต่ทางบริษัทก็ไม่ทิ้งในเรื่องการบริการที่ดี และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่มอบความไว้วางใจให้กับบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่า ในปี 2567 นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเกาะกูด และเกาะหมากจะเพิ่มมากขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 20 % ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งจังหวัดตราดและผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะกูดและบนเกาะหมาก ทำให้ทางบริษัทบุญศิริตัดสินใจลงทุนเปิดเที่ยวเรือโดยสารเส้นทางเกาะหมากเพิ่มขึ้นอีก เพื่อบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะหมากโดยตรง และคาดว่าจะได้รับการตอบสนองด้วยดี”

ด้านนายสุทัศน์ ทศดารา ประธานสภาอบจ.ตราด และเจ้าของเรือเกาะกูดเอกซ์เพรส ที่เพิ่งลงทุนซื้อเรือโดยสารลำใหม่ที่ทันสมัยและใหญ่กว่าเรือโดยสารของบริษัท บุญศิริเรือเร็ว จำกัด ด้วยเงินลงทุนกว่า 30 ล้านบาท เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นของเกาะกูดที่เกิน 1.7-1.9 แสนคน/ปี และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ในระยะ 1-2 ปีนี้ คาดว่าน่าจะเกิน 2 แสนคน

ที่ผ่านมาบริษัทมีเรือโดยสารลำใหญ่ที่มีความยาวกว่า 40 เมตร และมีที่นั่ง 2 ชั้นมาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีเรือสปีดโบ๊ทขนาดใหญ่มาวิ่งในเส้นทางด้วย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทางบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นเป็นชาวเกาะกูดได้ตัดสินใจซื้อเรือลำใหม่ที่มีท้องเรือ 2 ด้าน และมีขนาดใหญ่กว่าของคู่แข่งขันถึง 1 เท่า และสามารถรับผู้โดยสารมากถึง 380 คน และได้เปิดวิ่งมาแล้วในช่วงปลายปี ซึ่งยอมรับว่า นักท่องเที่ยวพอใจ และประทับใจที่เห็นเรือโดยสารที่มีมาตรฐานและมีความปลอดภัยสูง และเดินทางได้รวดเร็ว จะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเต็มทุกเที่ยวโดยเฉพาะช่วงวันหยุดราชการและวันหยุดยาว 

“ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะลงทุนเพิ่ม เพราะเรือลำเดิมก็ยังสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ดี แต่เมื่อปรึกษากันในกลุ่มผู้ถือหุ้นแล้วประเมินกันว่า ธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะกูด รวมทั้งเกาะหมากเติบโตขึ้นมาก และเชื่อว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จำนวนนักท่องเที่ยวของอำเภอเกาะกูดจะเติบโตเพิ่มมากขึ้นอีก อย่างน้อยก็จะสูงถึง 2 แสนคนหรืออาจจะมากกว่านั้นอีก เพราะวันนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยมากขึ้น และเน้นเป็นอันดับต้นๆ จึงมั่นใจว่า เงินที่ลงทุนไปจะคุ้มทุนในไม่กี่ปี อีกทั้งเราเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น หากไม่พัฒนาแล้วจะถูกคู่แข่งแบ่งส่วนการตลาดไป“

นอกจากนี้บริษัท เสือดำ โก ที่เป็นบริษัทที่เปิดใหม่ ได้นำเรือคาตามันรัน ขนาดกลางมาเปิดตัวลงทุนในเส้นทางตราด-เกาะกูดอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งเรือโดยสารเป็นเรือขนาดกลางแต่มีความทันสมัยมาก ปลอดภัย และเดินทางได้รวดเร็ว ค่าโดยสารก็ไม่สูงเท่ากับ 2 บริษัท และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยผู้บริหารกำลังเพิ่มเที่ยวเดินทางด้วย