นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยช่วงตรุษจีน ซึ่งมีตัวเลขเดินทางเข้าไทยวันเดียว (8 ก.พ.) มากกว่า 1 แสนคน ทำให้นักท่องเที่ยวยอดสะสมของปี 2567 เกือบแตะ 4 ล้านคน (เดินทางเข้าไทยแล้วมากกว่า 3,963,744 ล้านคน)
โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด ตามมาด้วยชาวมาเลเซีย นับเป็นผลจากมิตรภาพ ความร่วมมือ และการดำเนินนโยบายของบนายกรัฐมนตรีที่เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม
จากการสำรวจเชิงลึกของบริษัทจัดจำหน่ายการเดินทางระดับโลก Dida Travel ของจีน พบว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนของชาวจีนปีนี้ ระหว่างวันที่ 10-17 ก.พ.2567 มีจำนวนการจองโรงแรมในไทยเพิ่มขึ้นถึงกว่า 243% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยไทยยังเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางชาวจีนขาออกในช่วงเวลานี้
“คาดว่าน่าจะเป็นผลพวงจากความต้องการเดินทางภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาด และจากผลมาตรการวีซ่าฟรี (Visa Free) ไทย - จีน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป”นายชัยกล่าว
นอกจากนี้ จากการดำเนินนโยบายต่างประเทศด้วยมิตรภาพ ความสัมพันธ์ และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ที่ได้เห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันภายใต้แนวคิด "หกประเทศ หนึ่งจุดหมาย" (ไทย กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม ลาว และเมียนมา) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันในภูมิภาค สร้างหมุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวให้เป็น One Destination ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากอาเซียน โดยเฉพาะมาเลเซียเดินทางมาไทยจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นรายได้ประเทศ อำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยว กระตุ้นอุตสาหกรรม กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งเดินทางนำเสนอนโยบายปรับนโยบายดึงดูดการลงทุน หาตลาดเพิ่มมูลค่าการค้า รวมทั้งดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศด้วยความเป็นมิตรกับทุกประเทศ เพิ่มโอกาส เพื่อเพิ่มเงินหมุนเวียนในประเทศ ตลอดช่วงเวลาของการรับตำแหน่งที่ผ่านมา
“ เห็นผลเป็นตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เกิดการคาดการณ์เม็ดเงินเข้าประเทศมหาศาลนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งส่วนที่เห็นดอกออกผล ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ายังมีอีกหลายส่วนของการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่แน่นอนว่าจะนำมาซึ่งการพัฒนา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่พี่น้องประชาชนไทย" นายชัยกล่าว